9 พ.ย.61 - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) ให้สัมภาษณ์หลังทำบุญเปิดที่ทำการพรรครปช. ที่ซอยรัชดาภิเษก 26 อาคารพี เค แอล ถึงภาพรวมการเดินคารวะแผ่นดิน ว่ารปช.ได้รับการตอบรับอย่างดี และจากการพบปะประชาชนทำให้ทราบว่าพี่น้องตื่นตัวจดจ้องกับการเลือกตั้งและการเมือง ประชาชนสนใจรู้ทุกเรื่อง อีกทั้งยังบ่นเรื่องราคาพืชผล เศรษฐกิจระดับครอบครัว แต่ตนบอกกับประชาชนแล้วว่าบ้านเมืองจะดีขึ้นภายหลังเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม การเดินคารวะมีเรื่องน่าตื่นเต้นทุกวัน มีคนไปแสดงอาการไม่ชอบไม่เห็นด้วย การที่ตนใช้คำว่าแสดง เพราะคนเหล่านั้นมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี 

อย่างกรณีล่าสุดที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เขาตั้งใจจะเสียดสี เพราะเตรียมทั้งถุงปุ๋ยไว้สำหรับใส่เงิน และส่งคืนนกหวีด ซึ่งตนก็คิดว่าไม่เป็นไร เขารับงานมาก็ต้องทำ เราก็ไม่ต้องสนใจว่าจะมีคนก่อกวนหรือสร้างภาพให้เสียหาย ทั้งนี้ ไม่รู้สึกเป็นกังวลเพราะเจอมากเยอะแล้ว เราก็เหมือนพระเดินธุดงค์ ค่ำไหนปักกรดนอนตรงนั้น มั่นใจว่าการเดินคารวะของรปช.จะไม่เป็นสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลใช้เป็นข้ออ้างในการเลื่อนเลือกตั้ง

นายสุเทพ กล่าวต่อว่านอกจากนี้ ยังมีบางคนมาต่อว่าออกมาเดินเมื่อครั้งกปปส.แล้วเศรษฐกิจไม่เห็นจะดีขึ้น เราก็ชี้แจงว่าครั้งนั้นเป็นการเดินเพื่อต่อต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และเพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่เรียกร้องเรื่องเศรษฐกิจ

ผู้สือข่าวถามว่าดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การเดินคารวะ เสียกำลังใจหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนน้อมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และท่านก็เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ เคยรักเคยเคารพกันอย่างไร วันนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ตนก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง แต่ตั้งใจทำเพื่อบ้านเมือง 

เมื่อถามถึงไทม์ไลน์ของรัฐบาล ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะนานหน่อย เพราะสถานการณ์ไม่เหมือนที่ผ่านมา ตนเคยเป็นผู้จัดการรัฐบาลนำนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ใช้เวลา 2 เดือนครึ่ง แต่ตอนนั้นการเมืองไม่ค่อยซับซ้อนเหมือนตอนนี้ ที่คาดการณ์ยากเนื่องจากมีหลายพรรค อย่างกรณีกลุ่มนายทักษิณ ชินวัตร ใช้ยุทธศาสตร์แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย ซึ่งน่ากังวลและจะประมาทไม่ได้ที่เขาเคยประกาศว่าจะได้ 300 ที่นั่ง โดยเขาจะเจาะเป็นตลาดๆไป เช่น พรรคอนาคตใหม่เจาะกลุ่มวัยรุ่น พรรคประชาชาติ เจาะตลาดสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งท้ายที่สุดพรรคเหล่านี้ก็จะรวมกันหลังเลือกตั้งอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเมืองหลังเลือกตั้งจะไม่วุ่นวาย เพราะเห็นชัดว่าฝ่ายไหนหรือกลุ่มใดเป็นอย่างไร เพียงแต่จะคาดการณ์ยากว่าจะได้เสียงแค่ไหนเท่านั้น.