ตั้งข้อหา 2 สาวข้าวกล่อง ร่วมกันฉ้อโกง ยืนกรานปฏิเสธ ตำรวจส่งศาลขออำนาจฝากขัง ศาลพิจารณาแล้วไม่ให้ประกัน ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ เผยประวัติสุดแสบ ต้มญาติตัวเองให้ค้ำประกันออกรถใหม่ 4 คันแล้วชักดาบไม่ส่งค่างวด จนผู้ค้ำต้องขายบ้านใช้หนี้ ทหารร่วมสอบหาตัวผู้ร่วมขบวนการ

    เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ พนักงานสอบสวน สภ.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ได้ร่วมกันสอบปากคำนางธนิตา หรืออิ๋ว จันทร์อิ่ม ผู้ชักชวน และ น.ส.กัญจ์หทัย สุดใส ผู้ทำสัญญา กรณีนางธนิสร กุยแก้ว อายุ 42 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เข้าแจ้งความถูกหลอกให้ทำข้าวกล่องและน้ำดื่มส่งโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก วันละ 1 หมื่นกล่อง น้ำอีก 1 หมื่นขวด แต่สุดท้ายไม่ยอมรับอาหารดังกล่าว อ้างว่าผิดสัญญา พร้อมเรียกเงินค่าปรับ ทำให้เสียเงินค่าลงทุนเป็นจำนวนเกือบ 1 ล้านบาท  
    นอกจากนี้ น.ส.นภัสวรรณ ยิ้มเจริญ อายุ 26 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.คุ้งตะเภา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ก็ระบุว่าถูกทั้งสองคนหลอกทำนองเดียวกัน และถูกปรับเป็นเงิน 7 แสนบาท โดยครอบครัวยอมโอนเงินให้ แต่ส่งผลให้นายอัครเดช ยิ้มเจริญ อายุ 53 ปี เครียดหนักจนเสียชีวิตไปเมื่อกลางปีที่แล้ว
    พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงต่อนางธนิตา และ น.ส.กัญจ์หทัย หลังสอบปากคำผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งไปตรวจสอบโรงงานที่ จ.พิษณุโลก ที่ผู้ต้องหาทั้งสองอ้างว่าสั่งข้าวกล่อง ก็ได้รับคำยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากโรงงานมีโรงอาหารบริการพนักงานอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังได้ไปตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา พบเส้นทางการโอนเงินมูลค่ากว่า 1 แสนบาท อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนให้การปฏิเสธ อ้างว่าผู้เสียหายผิดสัญญาซึ่งเป็นคดีทางแพ่ง แต่ไม่ยอมบอกว่านำข้าวไปส่งที่ไหน บอกเพียงจะให้การในชั้นศาล ทั้งนี้ การสั่งทำข้าวกล่อง 1 หมื่นกล่องโดยไม่มีที่มาที่ไป ก็ถือว่าผิดสังเกต จึงขอประกาศว่าผู้ใดที่ตกเป็นผู้เสียหายให้รีบเข้าแจ้งความเพิ่มเติมเพื่อเอาผิดผู้ต้องหา
    มีรายงานว่า นางธนิตา และ น.ส.กัญจ์หทัย ได้เข้าพบตำรวจ สภ.พญาแมน ตามหมายเรียกเมื่อเย็นวันพุธที่ผ่านมา และถูกสอบปากคำนานหลายชั่วโมงก่อนตำรวจจะปล่อยตัว และนัดเข้าให้ปากคำอีกครั้งในเช้าวันพฤหัสบดี
    ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนางธนิตา และ น.ส.กัญจ์หทัย ขึ้นรถเพื่อนำไปขออำนาจศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ฝากขัง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา โดยทั้งคู่ปฏิเสธไม่ขอให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
    พล.ต.ต.พยูห์กล่าวว่า ขณะนี้ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้หารือร่วมกันสืบสวนขยายผลต่อ เพื่อหาว่ามีบุคคลใดร่วมขบวนการ และเหยื่อที่ถูกหลอกลวงมีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดต่อไป ล่าสุดผู้ต้องหายังไม่มีการซัดทอดใคร ขอให้ผู้ที่เคยถูกหลอกหรือเสียหายจากผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน 
    ด้าน พล.ต.ชัยเดช สุรวดี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 35 กล่าวว่า คดีนี้เป็นความเดือดร้อนเสียหายของประชาชน ทหารจึงเข้าร่วมดำเนินการตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในการทำหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมเคลื่อนที่ ร่วมขจัดความเดือดร้อนของประชาชนให้สำเร็จเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด
    รายงานข่าวแจ้งว่า นางธนิตา หรืออิ๋ว มีคดียักยอกทรัพย์ 4 คดี ฉ้อโกง 4 คดี ปลอมแปลงเอกสาร 1 คดี และยาเสพติด 1 คดี โดยทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างประกันตัว ก่อนหน้านี้ นางธนิตาได้ฉ้อโกงญาติพี่น้องซึ่งค้ำประกันรถยนต์ จำนวน 4 คัน ที่ได้ออกมาพร้อมๆ กัน ใน จ.อุตรดิตถ์ และ จ.พิษณุโลก แต่นางธนิตาไม่เคยส่งค่างวดเลย ทำให้ผู้ค้ำประกันถูกยึดบ้านพร้อมที่ดินขายทอดตลาดเพื่อชดใช้หนี้
    ขณะที่ พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้รับการประสานจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ว่า วันจันทร์ที่ 12 พ.ย. น.ส.นภัสวรรณ ยิ้มเจริญ ที่พ่อคือนายอัครเดช ยิ้มเจริญ เคยได้สัมปทานข้าวกล่อง และถูกปรับรวมทั้งหมด 3 ล้านบาท กระทั่งเครียดหนักเสียชีวิต จะเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีนางธนิตากับ น.ส.กัญจ์หทัย
    ล่าสุดศาลไม่ให้ประกันตัวนางธนิตา และ น.ส.กัญจ์หทัย ทั้งคู่จึงถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวขึ้นรถส่งเข้าเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์.