"บิ๊กตู่" ยกคณะลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.กาญจนบุรี ลั่นหากทุกคนรวมใจเป็นหนึ่ง "ผมไม่กลัวใครทั้งสิ้น" พร้อมเอาใจคนเมืองกาญจน์หนุนสร้างสวนสาธารณะในโรงงานกระดาษ ปลื้มป้ายเชียร์ "ลุงตู่อยู่นานๆ ใครไม่รักแต่บ้านนี้รัก" ขอชาวแพจัดระเบียบอย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน "ศิลปินแห่งชาติ" มอบหนังสือ "เขียนแผ่นดิน" ให้นายกฯ เป็นที่ระลึก
เมื่อวันพุธ ตั้งแต่ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายอาคม เติมวิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม, พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยัง จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจราชการ
เวลา 08.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้าสักการะศาลหลักเมืองกาญจนบุรี และถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ที่บริเวณ ต.ปากแพรก และพบปะกับบรรดานักเรียนจากโรงเรียนเทศบาล 5 กาญจนบุรี และโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ที่ต่างตะโกนส่งเสียงกรี๊ดต้อนรับ พร้อมกันนี้นายกฯ ร่วมรำผ้าขาวม้า 100 ผืน กับตัวแทนผู้สูงอายุ และร่วมร้องเพลง "ความฝันอันสูงสุด" กับเหล่านักเรียน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่ป้าน้าอาที่มาพบกันวันนี้ อย่างไรลุงก็รักทุกคน สิ่งที่ลุงทำวันนี้เพื่อคนเหล่านี้ ขอคนปัจจุบันทำเพื่อลูกหลานของเรา หลายอย่างต้องแก้ไขและทำต่อ ซึ่งรัฐบาลต้องสานงานอย่างต่อเนื่อง การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ขอให้ทุกคนตั้งใจเรียน ต้องหาให้เจอว่าชอบอะไร ลุงสัญญาว่าจะทำให้เต็มที่ และสิ่งที่วางไว้คือยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่เปลี่ยนแปลงได้ หากมีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าเรารู้ล่วงหน้า เราก็จะรู้อนาคต แต่ถ้าไม่รู้ล่วงหน้าอย่างที่ผ่านมาก็จะมีปัญหาไม่เกิดความต่อเนื่อง
"วันนี้มารับฟังปัญหาและอุปสรรค และโครงการต่างๆ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับเรื่องมาจากท้องถิ่นและส่วนภูมิภาค อะไรที่รัฐบาลทำได้ก็จะทำให้ แต่ขอให้เข้าใจว่าการพูดของรัฐบาลต้องพูดอยู่ในกรอบของกฎหมายและระเบียบต่างๆ ถ้าทุกคนอยู่ในกรอบ ไม่ละเมิดสิทธิ์ ซึ่งกันและกันก็จะไปได้หมด และขอให้กำลังใจท้องถิ่น ภูมิภาค เราจะต้องทำให้ศักยภาพของเมืองกาญจนบุรีเพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 30 ของจีดีพี และขอบคุณในกำลังใจ เรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย ทั้งศาลหลักเมือง ผมมากราบอนุสาวรีย์ขอให้ปกปักรักษาชาวกาญจนบุรี ขอให้บ้านเมืองสงบสุข เราเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตย ต้องทำใหม่ให้ดี ศึกษาให้ดี สำหรับตัวผมเอง เชื่อว่าอยู่ที่พวกเราจะคุ้มครองผมได้แค่ไหน ผมไม่กลัวใครทั้งสิ้น ขอให้รวมใจเป็นหนึ่ง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้นั่งรถรางเพื่อเยี่ยมชมกำแพงเมืองเก่า และไปยังโรงงานกระดาษ โดยกลุ่มนักเรียนและข้าราชการที่มาต้อนรับได้ตะโกนส่งเสียงเชียร์ว่า "ลุงตู่สู้ๆ" จากนั้นนายกฯ ได้รับฟังเพลง "สู้เพื่อแผ่นดิน" และกล่าวว่า "หาให้เจอนะ อะไรคือความดี อะไรไม่ดีไม่ต้องไปจำ นี่แหละคือพลังสร้างชาติ หลายคนหลายยุคหลายวัยร่วมมือกันพัฒนาบ้านเมือง มองทุกอย่างด้วยใจ อย่ามองด้วยตา มองด้วยใจที่บริสุทธิ์"
'บิ๊กตู่' เอาใจคนกาญจน์
ต่อจากนั้นนายกฯ ได้วางอิฐเก่าบนกำแพงเมืองเก่ากาญจนบุรี เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการฟื้นฟูและการอนุรักษ์เมืองเก่า พร้อมกล่าวว่า "นายกฯ มาในฐานะรัฐบาล มาเพื่อดูแลประชาชน การก่อสร้างของใหม่ไม่จำเป็นต้องทิ้งของเก่า รัฐบาลนี้เข้ามาก็มองว่ารื้อนี่รื้อนั่น แต่ไม่ใช่ว่าจะรื้อรัฐธรรมนูญ แต่ถ้ามันจำเป็นต้องทำ ก็ต้องทำ รัฐบาลทำเพื่อทุกคนใน 20 ปีข้างหน้า โดยต้องเดินตามแผนเพื่อให้เท่าเทียมในทุกจังหวัด"
เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์และคณะเยี่ยมชมกิจกรรมของกลุ่มภูมิเมืองกาญจน์ ที่ลานวัฒนธรรมจำลอง ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี โดยมีนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พร้อมสมาชิกกลุ่มภูมิเมืองกาญจน์ ต้อนรับและพาชมกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเมื่อนายกฯ เดินทางถึงได้ตีกลองสะบัดชัย ขณะที่นายเนาวรัตน์ได้มอบหนังสือบทกลอน "เขียนแผ่นดิน" ที่ได้เขียนด้วยตัวเอง ช่วงเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ พร้อมเขียนข้อความลงบนหนังสือว่า "เขียนแผ่นดินแด่ ฯพณฯ ท่าน นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยความคารวะผู้ดูแลแผ่นดิน" และได้เซ็นชื่อ
พล.อ.ประยุทธ์ได้ดูแผนผังโครงการพัฒนาพื้นที่ผสมผสานเพื่อการเรียนรู้โรงงานกระดาษ โดยทางกลุ่มได้มอบภาพวาดขาวดำที่เป็นรูปนายกฯ แต่งชุดซูเปอร์ฮีโร่ ที่กำลังจะขึ้นบิน ที่มีพนักงานโรงงานกระดาษรอบล้อม โดยนายกฯ ได้ขอให้นายเนาวรัตน์เซ็นชื่อลงในภาพวาดให้ด้วย บอกไว้เป็นที่ระลึก นอกจากนี้ทางกลุ่มได้เสนอแผนพัฒนาพื้นที่ลานนี้เป็นสวนสาธารณะ โดยภาครัฐ เอกชน และประชาชนร่วมกัน ซึ่งอยู่นอกเขตโบราณสถาน ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ตนเข้าใจ แต่เรื่องของขั้นตอน กติกา กฎหมายก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯ ชิมขนมพื้นบ้าน จ.กาญจนบุรี อาทิ ทองโย๊ะ ขนมไข่กรอบ ได้เรียกพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ มาชิม พร้อมกับพูดหยอกว่า "ให้เขาทดลองกินก่อน แต่ผมพูดเล่นนะ ผมไว้ใจทุกเรื่อง" พร้อมชมระบำชนไก่ และการแสดงของวงโยธวาทิตโรงเรียนวิสุทธรังษี จ.กาญจนบุรี
เวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปที่โรงงานกระดาษไทย จ.กาญจนบุรี พบปะกับประชาชนชาว จ.กาญจนบุรี จำนวนกว่า 1,000 คน โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า รู้สึกว่าคนมาเยอะกว่าที่อื่น แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจที่จะสร้างสรรค์จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งส่วนตัวดีใจที่ประชาชนในพื้นที่ตลอดจนท้องถิ่นและภูมิภาคมารอให้การต้อนรับ วันนี้มาเพื่อเยี่ยมเยือน ไม่ใช่จุดมุ่งหมายอื่น ส่วนตัวเคยเดินทางมา จ.กาญจนบุรีหลายครั้ง ตั้งแต่เป็นทหารชั้นผู้น้อย แต่ไม่มีโอกาสได้พบกับชาวเมืองกาญจน์แบบนี้ หลายอย่างเปลี่ยนแปลงดีขึ้นตามลำดับ โดยรัฐบาลได้เข้ามาสานต่อสิ่งที่ยังเป็นปัญหาและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ
"ความต้องการของคนเมืองกาญจน์ในการสร้างสวนสาธารณะที่บริเวณโรงงานกระดาษเป็นวิสาหกิจชุมชน รัฐบาลยินดีสนับสนุน ก็จะไปดูว่ามีกฎหมายตัวไหนรวมถึงวิธีการและการดำเนินการ ทั้งหมดไม่ขัดข้อง แต่อยู่ที่รูปแบบการบริหารงาน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้มาดูแพเมืองกาญจนบุรี ถือเป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยว ซึ่งมีปัญหาเรื่องการรบกวนซึ่งกันและกัน รวมถึงปัญหาของเสีย ตรงนี้ต้องช่วยกันแก้ ไม่เช่นนั้นจะบานปลาย วันหน้าคนก็จะไม่มาเที่ยว เพราะสกปรก ไม่ปลอดภัย ขณะที่คนในพื้นที่ไม่ชอบ ไม่ต้องการเพราะหนวกหู นี่คือหน้าที่ความรับผิดชอบ นี่คือสิทธิเสรีภาพตามประชาธิปไตย แต่ต้องไม่รบกวนคนอื่น ที่เขาก็มีสิทธิเช่นกัน ไม่ใช่สิทธิของเราอย่างเดียว ต้องรักษาสิทธิให้ผู้อื่นด้วย ดังนั้นขอความร่วมมืออย่าทำให้คนส่วนใหญ่เดือดร้อนหรือแม่น้ำลำคลองมีปัญหาสกปรก
ขอ ปชช.อย่าแตกแยก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอฝากบรรดาพี่ๆ ทุกคนไว้ด้วย ให้ช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย เราไม่ใช่คนอื่นไกล ไม่ว่าจะเชื้อชาติไหนก็ตาม ใช้แผ่นดินไทยเป็นถิ่นกำเนิด ในเมื่อเป็นคนไทย เราต้องไม่ทำลายประเทศไทยของเรา อันเป็นที่รักยิ่งที่มีความพร้อม ที่เรียกว่าแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง เราจะต้องทำให้บ้านเมืองของเราสงบเรียบร้อยปลอดภัย ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ปรับเปลี่ยนได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และมีสิ่งยึดเหนี่ยวคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ก็จะไปได้ ทุกคนอย่าแตกแยกออกจากกันเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกลุ่มชาวเมืองกาญจน์ที่มาต้อนรับนายกฯ ครั้งนี้ มีนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น พยานฝั่งครูปรีชา ใคร่ครวญ ในคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาทด้วย ซึ่งเจ้าตัวยืนยันไม่ได้มาร้องเรียนอะไร มาต้อนรับในฐานะคนเมืองกาญจน์
จากนั้น นายกฯ ได้นั่งรถรางเยี่ยมชมชุมชนปากแพรก ซึ่งตลอดสองข้างทางมีประชาชนมายืนรอต้อนรับ โดยนายกฯ ได้ลงจากรถไปพูดคุยทักทาย ขณะที่นักเรียนโรงเรียนเทพมงคลรังษีได้มอบภาพวาดรูปเหมือนนายกฯ พร้อมชูป้ายที่เขียนข้อความให้กำลังใจนายกฯ อาทิ ลุงตู่อยู่นานๆ ใครไม่รักแต่บ้านนี้รัก เป็นต้น
เวลา 12.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาที่วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) จ.กาญจนบุรี สักการะรูปเหมือนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พร้อมเยี่ยมชมห้องจัดแสดงพระประวัติฯ จากนั้นที่ท่าน้ำวัดเทวสังฆาราม นายกฯ ได้พบปะกับชาวแพเมืองกาญจนบุรี นักเรียน ลูกเสือ และเนตรนารีที่มาต้อนรับ
นายกฯ กล่าวว่า สัญญากันนะว่าจะปรับปรุง แต่จะพยายามไม่ให้ใครเดือดร้อน อะไรที่ไม่เคยเปลี่ยนก็เปลี่ยนบ้าง ถามว่าแพเธคเสียงดังหรือไม่ ลองเปิดแล้วขึ้นมายืนบนฝั่งฟังดู ยืนยันตนไม่ได้ต้องการทำลายธุรกิจของใคร ทุกอย่างอยู่ที่พวกเราทุกคนว่าสิ่งที่พูดมาทำได้ทั้งหมดหรือไม่ มีแพอยู่เต็มไปหมด ก็ต้องนึกถึงเจ้าของพื้นที่ด้วย ต้องแบ่งปันเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ความเป็นธรรม คนก็จะมาเที่ยวเมืองกาญจน์เยอะขึ้น แต่ถ้ามาแล้วเจอแต่แพ คนก็อาจจะมาเที่ยวน้อยลง หากจัดระเบียบไม่ดี ไม่มีความปลอดภัย ก็ไม่มีใครอยากมา รัฐบาลค้ำประกันไม่ได้ พวกเราต้องช่วยกัน นายกฯ ก็ไม่อยากทำให้วุ่นวาย ขอบคุณทุกคน คนปัจจุบันและรุ่นใหม่ที่จะขับเคลื่อนประเทศ
เวลา 12.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางโดยเรือเพื่อตรวจลำน้ำบริเวณแม่น้ำแควใหญ่ แม่น้ำแควน้อย และแม่น้ำแม่กลอง จากท่าแพวัดเทวสังฆาราม ไปยังท่าแพเขื่อนขุนแผน เทศบาลเมืองกาญจนบุรี
เวลา 14.30 น. นายกฯ เดินทางมายังมณฑลทหารบกที่ 17 จ.กาญจนบุรี เพื่อมอบเกียรติบัตรการรับรองแปลงเกษตรปลอดภัยแก่กลุ่มเกษตรกรที่ผ่านการตรวจรับรองคุณภาพกระบวนการผลิต จาก 8 จังหวัดภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันตก พร้อมกล่าวเปิดโครงการ Green Army, Green Farmer เพื่อประเทศชาติและประชาชน และมอบนโยบายด้านการพัฒนาเกษตรปลอดภัยและเกษตรกรรมยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนนี้ใกล้เป็นลมแล้วเพราะไปหลายที่ แต่เห็นรอยยิ้มแล้วฟื้น มีความสุข นายกฯ ต้องหมุนเวียนไปติดตามงานรัฐบาลและปัญหาของพวกเราในพื้นที่ เช้าพบประชาชน บ่ายมาเยี่ยมทหารซะหน่อย เพราะทหารเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนอยู่แล้ว
พล.อ.ประยุทธ์หกล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 6 กรอบ เขียนเป็นกรอบใหญ่กว้างๆ ไว้เพื่อเป็นเข็มทิศนำทางให้กับประเทศไทย และเป็นการรวบรวมความต้องการของคนทั้งประเทศที่ มีอยู่แล้วไม่ได้ทำ โดยต้องคำนึงถึงงบประมาณทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ทุกอย่างจะอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติ หากไม่เขียนไว้แบบนี้ก็ไม่เกิด มันจะเกิดตามกระแสของรัฐบาล ที่จะมีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล และจะเป็นหลักการสำคัญในการพัฒนาทุกเรื่องไปข้างหน้าได้ นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมให้ใช้พื้นที่ทหารให้ใช้ประโยชน์แก่สังคม อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านและประชาชน ทหารก็ยินดีหมด
"มีคนถามว่ามีทหารไว้ทำไม ถ้าไม่มีที่ที่ทหารดูแลอยู่วันนี้ ก็ไม่มีที่อยู่อีกต่อไป หลายคนพยายามสร้างความเข้าใจผิด สร้างความบิดเบือนให้กับทหาร ในฐานะที่ผมเป็นทหารมาก่อน ยังไงก็เป็นอดีตทหารกว่า 40 ปี วันนี้แม้จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ยังมีจิตสำนึกที่ดีของทหารอยู่ ส่วนการทำการเมืองก็เป็นอีกเนื่องหนึ่ง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทันที.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |