เรียกว่า “การเมือง” ร้อนสวนทางกับสภาพอากาศที่เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ การเคลื่อนไหวตามยุทธศาสตร์ "รวมกันตาย แยกกันรอด (แล้วใหญ่)” ของ “จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช. ที่ย้ำหนักย้ำหนาตั้งแต่ออกจากเรือนจำ โดยความคึกคักล่าสุดต้องเรียกว่ามาแรงแซงโค้ง “พรรคเพื่อธรรม” และ “พรรคเพื่อชาติ” อย่างยิ่ง นั่นคือ “พรรคไทยรักษาชาติ” ...๐ เพราะแค่ ชื่อย่อและโลโก้ก็บอกได้คำเดียวว่าไผ่กอเดียวของนายเหนือ “ทักษิณ ชินวัตร” อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะหลักการย่อคำนั้น ให้ใช้พยัญชนะต้นของพยางค์แรกของคำเป็นตัวย่อ โดยถ้าเป็นคำคำเดียวให้ใช้ตัวย่อตัวเดียว แม้คำนั้นจะมีหลายพยางค์ ตามหลักการภาษา “ไทยรักษาชาติ” จึงควรย่อเป็น "ทรช." หรือ “ท.ร.ช.” แต่โลโก้ที่ปรากฏในการประชุมใหญ่พรรค กับใช้ตัวย่อ “ทษช.” ซะงั้น หรือจะบอกกันแบบไม่ต้องกั๊กว่าย่อมาจาก “ทักษิณ ชินวัตร” จ๊ะ ...๐ แล้วก็ไม่เกินคาด เมื่อในการประชุมใหญ่ก็ได้บรรดาลูกท่านหลานเธอของบรรดาเครือข่าย “สัมภเวสีเหลี่ยม” มากันคึกคัก โดยมี “ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช” ลูกชาย “เสริมศักดิ์-ระเบียบรัตน์” นั่งหัวหน้า ในขณะที่เลขาธิการพรรคนั้นก็เป็น “มิตติ ติยะไพรัช” บุตรชายของ ”ยงยุทธ ติยะไพรัช” หรือยุทธตู้เย็น ที่สนับสนุน “พรรคเพื่อชาติ” นั่นแล ในขณะที่เก้าอี้อื่นๆ ก็เป็นบรรดา ลูกหลานเครือข่าย “แม้ว-แดง-ปู” กันทั้งนั้น ...๐ ส่วนชื่อที่แพลมมาก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับอาวุโสทางการเมืองทั้ง “จาตุรนต์ ฉายแสง-นพดล ปัทมะ” นั้น กลับไม่มีชื่อ หรือมาแสดงตัวในงานแต่ประการใด ก็ไม่รู้ว่าบรรดานักการเมืองเขี้ยวลากดินทั้งหลายยังไม่ตกผลึก หรือกลัวเสียหน้าที่จะต้องเดินตามก้นเด็กก็ไม่รู้ได้ แต่ที่แน่ๆ สังคมเขากำลังลุ้นอยู่ว่า “พานทองแท้ ชินวัตร” ที่ประกาศพร้อมลงสนามการเมืองเพราะมีพ่อชื่อ “ทักษิณ” นั้น จะเลือก “พท. หรือ ทษช. หรือ พธ. หรือ พช.” กันแน่ หรือจะรอเป็นเพียงหนึ่งในรายชื่อชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีที่พรรคเหล่านี้จะเสนอชื่อเอ่ย ...๐ นี่ก็ “ร้อน” ไม่แพ้กัน อย่างพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) หลังพลิกโผหัวหน้าและเลขาธิการพรรคในการปรับโครงสร้างใหม่ (เก่า) เพราะ ”เสี่ยตือ” เล่นโยนระเบิดการดึกวันอังคาร ด้วยการโพสต์อำลาพรรค แม้ “หนูนา” กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้า ชทพ. จะยืนยันไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งรุ่นใหม่-รุ่นเก่า และโครงสร้างพรรคก็ตาม แต่ “ไอ้ปรื๊ด” บอกชัดๆ ว่าไม่เกี่ยวยังงัยไหว เพราะมันมีรอยร้าวมาตั้งแต่ “สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ”  อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ กลุ่มยังบลัด ระเห็จไปซบ “ภูมิใจไทย” แล้ว ...๐ งานนี้เลยต้องจับตาใน อนาคตว่า “ภราดร-กรวีร์” 2 ลูกชายของเฮียตือนั้น จะย้ายค่ายย้ายพรรคหรือไม่ เพราะการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ “ภราดร ปริศนานันทกุล” ที่บอกว่า “ขอปรึกษาครอบครัวก่อน แต่ยอมรับว่ามีความอึดอัด โดยตอนนี้ยังเป็นสมาชิก ชทพ. แต่วันพรุ่งนี้อาจเปลี่ยน” ก็น่าจะบอกอะไรได้อย่างดี ...๐ ส่วนนี่ก็เริ่มเห็น เค้าลาง “กลุ่ม 10 มกรา” อยู่รำไรเสียแล้ว สำหรับ

”พรรคประชาธิปัตย์” หลังจากสะดุดหัวทิ่มหัวตำจากการใช้เทคโนโลยีโดยไม่มีการทดสอบก่อนในการหยั่งเสียงหัวหน้าพรรคซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล่าสุดกลับมาเจอ การแฉว่าในพื้นที่ “ภาคใต้-อีสาน” มีความผิดปกติในการหยั่งเสียง!!! โดยมีทั้งการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงแบบล้วงข้อมูล Source Code และวิธีแบบโบร่ำโบราณอย่าง “ทิ้งบัตรประชาชนปั๊มลายนิ้วมือล่วงหน้าก่อนกดลงคะแนน” เล่นใหญ่กันซะขนาดนี้ เชื่อว่าเมื่อหลังการหยั่งเสียงจบแล้วอะไรๆ คงไม่จบตามแน่นอน ...๐ “อนาคตใหม่” ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เองก็มาคุไม่แพ้กัน เมื่อ “ไทยสองเท่า ไทยเท่ากัน” เริ่มพ่นพิษแล้ว หลัง "ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์" เปลี่ยนท่าทีจากการอุ้มชูมาเป็นโจมตี ซึ่งก็เป็นผลมาจาก โพสต์จิกกัดของ “เจ๊ปวิน” กับกรณี “น้องเฌอปราง” กัปตันวง BNK48 แต่ถูกโอตะเข้ามาสวนหมัด ซึ่งเจ๊กัดตอบตามสไตล์ “เดี้ยนไม่เคยยอมใครนอกจากผัว”นั่นแล แต่เผอิญไปฟาดงวงฟาดงาไปยังคนรุ่นใหม่ที่เป็นเป้าหาเสียงของ “อนค.” ก็เลยให้บรรดาสมาชิกพรรคและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคต้องออกมาตำหนิติติงจนทำให้ “เจ๊ปวิน” ถึงประกาศว่าหมดเวลาฮันนีมูนแล้ว ส่วนจะถึงขั้นลากไว้แฉโพยกันหรือไม่ งานนี้ต้องติดตามกันต่อไปนะตัวเอง ...๐ ทิ้งท้ายด้วยข่าวยักแย่ยักยันมานานสำหรับ “กลุ่มสามมิตร” ที่แต่เดิมใครต่อใครก็รุมตอม แต่ไปๆ มาๆ ตอนนี้ใครต่อใครเริ่มสงสัยว่าของจริงหรือของเก๊ตามที่ “กูรูเหลิม” เคยปรามาสไว้ ล่าสุด “ธนกร วังบุญคงชนะ” ประกาศแล้วว่า ใน วันที่ 18 พ.ย. กลุ่มสามมิตรจะนำสมาชิกทั้งหมดเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการ ซึ่งวันนั้นเราคงได้เห็นว่าสุดท้ายแล้วจะเป็น “ดาวฤกษ์” หรือ “ดาวเคราะห์” หรือราหูกันแน่ ...๐