หนุ่มชาวหนองคายเข้าไปใน สตช. ก่อเหตุระทึกปีนขึ้นไปบนเสาวิทยุสื่อสารสูงเท่าตึก 6 ชั้น ประท้วงเมียหนีออกจากบ้านหลังทะเลาะกัน ตำรวจเกลี้ยกล่อมกว่า 8 ชั่วโมงจึงยอมลงมา
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช้าวันที่ 7 ธันวาคมนี้ เกิดเหตุชายคนหนึ่ง สวมกางเกงขาสั้น เสื้อยืดสีน้ำตาล ปีนขึ้นไปบนเสาวิทยุสื่อสารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บริเวณหลังอาคารสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม. นั่งอยู่บนความสูงประมาณ 6 ชั้นของอาคาร ต่อมาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้นำเบาะลมมาวางไว้ด้านล่าง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเจรจาเกลี่ยกล่อม
    จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์บริเวณดังกล่าวระบุว่า เห็นชายคนนี้เดินวนเวียนบริเวณอาคารกองทะเบียนประวัติอาชญากร โทรศัพท์พูดคุยกับใครบางคนแล้วร้องไห้ตลอดเวลา จึงเข้าไปสอบถามว่าจะมาติดต่อตรวจสอบประวัติหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธก่อนจะเดินหนี แล้วมาพบอีกทีขึ้นไปอยู่บนเสาส่งสัญญาณวิทยุของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ก่อนจะโปรยเอกสารลงมาประมาณ 3 ใบ ประกอบด้วย สำเนาบัตรประชาชน ระบุชื่อนายสมร คำใบ อายุ 43 ปี และใบข้อมูลทะเบียนราษฎร ระบุชื่อ น.ส.กฤษณา คำใบ อายุ 25 ปี รวมทั้งเอกสารข้อมูลระบุเบอร์โทรศัพท์มากกว่า 10 ชื่อ
    เบื้องต้นนายสมรซึ่งเป็นชาวหนองคาย เรียกร้องจะพบภรรยาคือ น.ส.กฤษณา คำใบ ชาวเพชรบูรณ์ พนักงานทำความสะอาด จากการพูดคุยในเบื้องต้น นายสมรมีปัญหากับภรรยา แต่ติดต่อภรรยาไม่ได้
    ต่อมา นายแสวง อุปฮาด พร้อมญาติอีกจำนวนหนึ่ง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุและแรงจูงใจที่นายสมรปีนขึ้นไปบนเสาส่งสัญญาณวิทยุสื่อสาร ว่าก่อนหน้านี้นายสมรมีความเครียด และเคยบ่นเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาว่าทะเลาะกับ น.ส.กฤษณา ซึ่งเป็นภรรยา จนถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกาย ทำให้ภรรยาหนีออกจากบ้าน ส่งผลให้นายสมรมีความเครียดมาก แต่ไม่เคยบอกว่าจะมาก่อเหตุลักษณะดังกล่าว     
    จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามติดต่อ น.ส.กฤษณา ภรรยา รวมทั้งครอบครัวของ น.ส.กฤษณา แต่ได้รับการปฏิเสธ เนื่องจากก่อนหน้านี้โดนนายสมรทำร้ายร่างกายจนต้องหลบหนีมาบ้านญาติต่างจังหวัด
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้พบเห็นนายสมรปีนขึ้นไปบนเสาส่งสัญญาณวิทยุสื่อสารตั้งแต่เวลา 07.00 น. กระทั่งเวลา 15.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงนั่งกระเช้าขึ้นไปเกลี่ยกล่อม ใช้เวลาไม่นาน นายสมรจึงยอมลงมาโดยดี จากนั้นเจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้าตรวจร่างกาย ก่อนนำตัวไปสอบสวนสงบสติอารมณ์ที่ สน.ปทุมวัน.