ร้อนระอุ!
    การเมืองในโลกโซเชียลวันนี้ ถ้าฆ่ากันได้ คงนองเลือดกันไปแล้ว 
    ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ยิ่งทำให้เห็นว่ากว่า ๔ ปีมานี้ ความขัดแย้งไม่ได้ลดลงไปเลย
    แค่หลบใน 
    กรณี ปฏิทินยิ่งลักษณ์-ทักษิณ เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขที่สุมเชื้อไฟให้ปะทุขึ้นมา   
    ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร 
    สำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยทำปฏิทินจับโจรแจกจ่ายชาวบ้านทุกปี มีรูปผู้ร้ายตามหมายจับ ใครเห็นก็ชี้เป้าให้ตำรวจ 
    แล้วก็รับค่าหัวไป! 
    คนรักทักษิณ ทำปฏิทินรูปนายใหญ่-หนูไม่รู้ สถานะตามกฎหมายของทั้งสองคนคือ ผู้ต้องหาหนีคดี มีหมายจับเป็นบัญชีหางว่าว
    มุมหนึ่งมันก็คือปฏิทินโจรในนิยามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  
    แต่คนรักทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ มองเป็นอีกแบบ 
    และนี่แหละ...ทำให้รับรู้ว่า เรายังอยู่ในยุค ประชาชนกลุ่มหนึ่งบูชาคนโกง 
    ยังย่ำอยู่กับที่
    จึงเห็นได้ว่าสุดท้ายแล้ว "ทักษิณ" ยังคงเป็นตัวแปรหลัก ที่จะตัดสินว่าประเทศไทยจะพบกับความสงบสุข หรือหายนะ
    จำได้นะครับ "ทักษิณ" เคยบอกว่า     
    "ผมเข้ามาเล่นการเมืองเพราะอยากทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมือง ผมรวยแล้วผมไม่โกง"
    ตอนนี้หมายจับคดีโกง ๔-๕ ใบ 
    ที่จริงก็สงสารคนไทยเพราะเริ่มจะหาที่พึ่งได้ยากเข้าทุกที รัฐบาล คสช.เองก็หมดความชอบธรรมในการปราบคอร์รัปชันจากกรณีนาฬิกาเพื่อน
    ส่วนพรรคการเมืองก็เริ่มจะ "แตกพรรค" สู้กับระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ 
    จนไม่รู้จะเลือกใครดี! 
    พรรคอนาคตใหม่ที่บอกว่ามาแนวใหม่ แต่พอฟัง "สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ" แม่ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  รับประกันลูกชายตัวเอง ไม่ได้เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ ถอนทุนคืน 
    ก็อยากถามว่าที่ผ่านมา "ธนาธร" ลงทุนไปเท่าไหร่แล้ว?  
    เพราะเท่าที่เห็น ก็พยายามโฆษณาว่า เป็นพรรคการเมืองที่สมาชิกร่วมกันลงทุน เป็นพรรคของประชาชน
    ฉะนั้นพอสรุปได้ว่า เรายังอยู่ในยุคการเมืองเก่า ใช้การตลาดสร้างภาพให้ดูเป็นของใหม่
    แต่คำพูดของนักการเมืองและคนในแวดวงยังไร้ความน่าเชื่อถือ.