5 พ.ย.61 - ที่ปากซอยแปลงนาม ถนนเยาวราช นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นางสาวพรรณิการ์ วาณิชย์ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร รองหัวหน้าพรรค นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร วาที่ผู้สมัครส.ส.ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล พร้อมคณะทำงาน ออกเดินเพื่อพูดคุย พบปะกับประชาชน พร้อมรับสมัครสมาชิกพรรค ภายใต้แคมเปญ “กรุงเทพขยับ” โดยเป็นการเดินระยะทาง 1.3 ก.ม. ตั้งแต่ปากซอยปลงนาม เข้าสู่ย่านสำเพ็ง ก่อนกลับมายัง ร้านกาแฟ เอี๊ยะแซ ภายในซอย วัดเกาะ โดยตลอดเส้นทาง ประชาชนในย่าเยาวราชให้การต้อนรับคณะทำงานพรรคอนาคตใหม่ อย่างอบอุ่น มีประชาชนเข้ามาสอบถาม พูดคุย และขอถ่ายรูปร่วมกับนายธนาธร และนางสมพรอย่างต่อเนื่อง ตลอดเส้นทาง โดยไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใดๆเกิดขึ้น ทั้งนี้ ทางคณะทำงานพรรคอนาคตใหม่ ได้มอบใบแผ่นพับแนะนำพรรค ที่มีคิวอาร์โค้ดให่ประชาชนทั่วไปสามารถสมัครสมาชิพรรคผ่านช่องทางออนไลน์ และสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์พรรคอนาคตใหม่ แก่ประชาชนตลอดเส้นทาง  

นายธนาธร กล่าวว่า สาเหตุที่เราเลือกพื้นที่เยาวราช เพราะเป็นพื้นที่ใกล้กับย่านบางรัก ซึ่งเป็นย่านที่ตนและครอบครัวในวัยเด็ก จึงเป็นการดี ที่จะเริ่มจากพื้นที่ที่เราเติบโตมา  ซึ่งผลอบรับในวันนี้ น่าตื่นเต้นมาก มีประชาชนหลายคนที่ไม่รู้จักพรรคอนาคตใหม่ ได้เข้ามาสอบถามข้อมูล หลายคนที่รู้จักเราอยู่แล้วก็เข้ามาให้กำลังใจ ผลตอบรับถือว่าดีมาก

ถามว่า กังวลหรือไม่ว่า การดำเนินกิจกรรมในวันนี้อาจมีผลกระทบต่อพรรคอนาคตใหม่ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ได้กลัวอะไรเป็นพิเศษ เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้อนุญาตให้พรรคอนาคตใหม่ สามารถทำกิจกรรมรับสมัครสมาชิกได้แล้ว เราจึงเริ่มรับสมาชิกอย่างเต็มรูปแบบต้องเรียนว่า ผ่านมาหนึ่ง 1 เดือน นับแต่ที่ เราได้รับการรับรองจากกกต.เป็นต้นมา ตอนนี้เรามีสมาชิกพรรคประมาณ 7,000 คน เฉลี่ยมีคนสมัครสมาชิกกว่าวันละ200 คน ขณะที่ประชาชนในพื้นที่กทม.ได้เข้ามาร้องเรียนปัญหาโดย เฉพาะปัญหาที่เกี่ยวกับ กระบบคมนาคมและการศึกษาซึ่งเราได้ยินมาตลอด

ถามต่อว่า กังวลหรือไม่ว่าการเดินในวันนี้จะมีประชาชนต่อต้านเหมือนกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ไม่กังวล ราทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็ฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราเองไม่ได้ทำอะไรให้ประชาชนรู้สึกโกรธแค้น เราพูดชัดเจนว่าเราจะยืนเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน และต้องการเอาประชาธิปไตยกลับมาสู่ประเทศไทย เพราะฉะนั้นตนเชื่อว่าเราไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร

ถามว่าในวันที่ 22 พ.ย.ที่กกต.จะเชิญพรรคการเมืองมาร่วมหารืออีกครั้ง นายธนาธรมีข้อกังวลได้หรือไม่ เขากล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีแต่กลัวอย่างเดียวว่า กกต.จะใช้พรรคการเมือง ในการประชุ่มครั้งนี้เป็นข้ออ้างในการเลื่อนการเลือกตั้ง หรือพยายามขุดหาข้ออ้างอื่นๆอีกมากมาย แต่ตนมองว่า หากเงื่อนไขไม่ได้อยู่ที่พรรคการเมืองแล้ว คสช.คงไม่มีข้ออ้างใดๆจะมาเลื่อนเลือกตั้งอีกแล้ว ซึ่งจนถึงตอนนี้เรายังนิ่งนอนใจไม่ได้ ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.พ.ตามคำกล่าว

นายรณวิต กล่าวว่า ในวันที่ 9 – 13 พ.ย. ทางพรรคอนาคตใหม่จะเริ่มเดินในพื้นที่อื่นๆ วึ่งเป็นเส้นทางหลักในกรุงเทพมหานคร อย่างวัยที่ 9 พ.ย. เราจะเดินทางไปรับสมัครสมาชิกพรรค ที่ ถ.สีลม ก่อนจะขยายไปพื้นที่อื่นในวันต่อๆไป ซึ่งต่อจากนี้พ่อแม่พี่น้องชางกรุงเทพมหานคร จะได้พบกับพรรคอนาคตใหม่บ่อยขึ้น

ด้านนางสมพร กล่าวว่า หลังจากจบการศึกษาในช่วงมหาวิทยาลัย ตัวนายธนาธรต้องกลับมาช่วยดูแลธุรกิจที่บ้าน แต่ตนทราบดีอยู่แล้วว่า ตัวเขาชอบงานการเมือง และการช่วยเหลือประชาชน แต่ตัวเขาก็ยังช่วยธุรกิจที่บ้านถึง 16 ปี จนปัจจุบันเจ้าตัวมีอายุ 39 ปี อตนแรกที่ตนทราบข่าวว่าลุกชายจะเล่นการเมืองตนก็รู้สึกตกใจ และไม่เห็นด้วย เพราะตนเชื่อว่าควรเอาดีด้านใดด้านหนึ่งไปเลย ตัวนายธนาธรเองเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ตนจึงมองว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่เมื่อได้คุยกัน เขาตัดสินใจที่จะทิ้งเส้นทางธุรกิจเพื่อไปทำงานการเมืองเต็มตัว แม้ลึกๆจะไม่ชอบ แต่ก็รู้ว่าห้ามเขาไม่ได้ ก็ต้องสนับสนุน แน่นอนว่าตนเองอยากเห็นลูกชายประสบความสำเร็จสูงสุดในเส้นทางการเมือง    

“ฉันกล้าการันตีว่า เด็กคนนี้ไม่ได้หวังเข้ามาเล่นการเมืองเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ เพราะเขาไม่ได้ต้องการ แต่เขาต้องการเข้ามาช่วยสังคม และคิดว่าเขาน่าจะทำได้ดีระดับนึง ขณะที่พื้นเพของครอบครัวเราเอง ไม่ได้โตมาจากสายการเมืองที่ต้องเข้ามากอบโกยผลประโยชน์เพื่อถอนทุน ช่วงก่อนเลือกตั้ง พอถามเขาว่าจะเลือกอะไรระหว่างบริษัท กับประเทศไทย เจ้าตัวตอบทันทีว่าประเทศไทย ตนจึงเข้าใจในความตั้งใจของลูกชาย” นางสมพรระบุ