4 พ.ย.61 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเกณฑ์หรือบังคับให้มาเป็นทหารแต่ใช้ระบบสมัครใจน่าจะมีจำนวนเพียงพอว่า มีหลายประเทศทั้งทำและไม่ทำ บางประเทศที่บอกเป็นประชาธิปไตยเต็มที่เขาก็ทำ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความจำเป็นเรื่องความมั่นคง และการมีกำลังพลในกองทัพที่เพียงพอที่จะปฏิบัติภารกิจทั้งตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมาย ที่ผ่านมาปัญหาการเกณฑ์ทหารที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ 3 เรื่องคือ1.มีความจำเป็นหรือไม่ ซึ่งกองทัพก็บอกว่าเขามีความจำเป็น 2.เวลาเกิดปัญหากับทหารเกณฑ์ เช่นถูกทำร้าย เสียชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขไม่ว่าจะเป็นระบบสมัครหรือเกณฑ์ สิ่งเหล่านี้ต้องไม่ให้มี และ 3.กรณีที่เอาทหารเกณฑ์ไปใช้ในภารกิจที่ไม่เหมาะสม เป็นทหารรับใช้ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ควรจะมีการแก้ไขปรับปรุงให้ทหารเกณฑ์ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างแท้จริง เมื่อได้หลักตรงนี้แล้ว คำถามคือจำเป็นจะต้องมีการเกณฑ์ทหารหรือไม่ แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามมีพรรคการเมือง นักการเมืองบางส่วนที่เขาชูประเด็นนี้ขึ้นมาว่ายกเลิกการเกณฑ์ทหารได้เลย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์กลุ่มคนรุ่นใหม่เขาก็ดูประเด็นนี้ โดยดูความจำเป็นของกำลังพลที่จะต้องมีเท่าไหร่ และไปดูที่สมัครซึ่งขณะนี้สมัครน้อยกว่าที่จำเป็น ดังนั้นสิ่งแรกถ้าจะเลิกเกณฑ์ทหารก็ต้องหามาตรการจูงใจให้คนสมัครมีจำนวนเพียงพอ ถ้าสมัครเพียงพอการเกณฑ์ทหารก็สามารถเลิกได้ และเรามีเรื่องการเรียน รด. ตรงนี้สามารถจะถูกเรียกมาเป็นกำลังพลได้ ตนคาดการณ์ว่าถ้าไม่มีการเกณฑ์ทหาร และมีการสมัคร ถึงแม้ได้ตามจำนวน แต่คนคงเรียน รด.ลดลงมาก ก็ต้องไปถามทางกองทัพอีกว่ากำลังพลที่จะถูกเรียกมาจริงๆในทางปฏิบัติมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน และอีกประเด็นที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ของประชาธิปัตย์ คิดว่าการเกณฑ์ทหารนอกจากเรื่องกำลังพลแล้ว ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ให้คนรู้สึกว่าจะต้องรับใช้ส่วนรวม แนวคิดนี้ได้ไปรวมกับแนวคิดที่ว่า ถ้าอย่างนั้นเยาวชนควรผ่านกระบวนการ ทำงานเพื่อสังคมดีหรือไม่ ซึ่งตนมองว่าถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ควรคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ และเท่าที่ดูก็น่าจะเป็นไปได้ แต่ต้องไม่กระทบกับเป้าหมายความมั่นคงและให้เยาวชนสำนึกในหน้าที่