ในการพัฒนาอาชีพและอุตสาหกรรมต่างๆ ให้มีความเจริญก้าวหน้าทั้งในด้านวิชาชีพและอุตสาหกรรม สภาวิชาชีพเหล่านั้นยังเป็นกลไกอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้รัฐสามารถใช้อาชีพและอุตสาหกรรมต่างๆ ในการพัฒนาของประเทศ เฉกเช่น สภาอุตสาหกรรม หอการค้า สภาทนายความ แพทย์สภาสมาคมธนาคาร และสภาหรือสมาคมอาชีพอื่นๆ อีกมากมาย เช่น วิศวกรรม สถาปนิก นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ เป็นต้น สภาและสภาคมเหล่านี้นอกจากพวกเขาจะพัฒนาอาชีพและอุตสาหกรรมของพวกเขาแล้ว พวกเขายังมีส่วนช่วยรัฐบาลในการพัฒนาประเทศอีกด้วย ดังนั้นภาครัฐและภาคเอกชนในอุตสาหกรรมและวิชาชีพต่างๆ จะต้องช่วยกันคิดว่า เพื่อการพัฒนาประเทศให้รุดหน้าประเทศไทยควรจะมีสภาหรือสมาคมวิชาชีพอะไรบ้างที่จะทำให้สภาหรือสมาคมเหล่านั้นมีส่วนในการพัฒนาประเทศ
เมื่อเรามองดูบริบทของโลกและของประเทศที่เราใช้ชื่อยุคชื่อสมัยว่าเป็นยุค 4.0 เราก็จะเห็นได้ว่าโลกทั้งโลกเป็นโลก 4.0 ที่ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ประชาชนทั้งโลกต่างก็เป็นพลเมืองของประเทศดิจิทัล (Natives of Digital Nation) กันทั้งนั้น ประเทศไทยเองก็วางยุทธศาสตร์เป็นประเทศไทย 4.0 ที่เดินหน้าด้วย ICT (Innovation, Creativity, และ Technology) คือนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยี สำหรับเทคโนโลยีนั้นคงหนีไม่พ้นเทคโนโลยีด้านดิจิทัลที่เกิดขึ้นเพื่อการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ว่าการทำงาน การจัดการ การดำเนินธุรกิจและการดำเนินชีวิต จนเกิดวลีที่ว่า Digital Disruption คือการที่เทคโนโลยีด้านดิจิทัลได้ก่อให้เกิดนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนทั้งโลก ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างต้องหายไปเพราะความล้าสมัยและใช้งานได้ไม่ดีเท่ากับเทคโนโลยีของดิจิทัล เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วทุกภาคส่วนของประเทศไทยจะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีด้านดิจิทัล คือจะต้อง “มีใช้ให้ทันสมัย” และเมื่อมีใช้แล้วจะต้อง “ใช้ให้เป็น” และเมื่อมีใช้และใช้เป็นแล้ว จะต้อง “ใช้ให้ดี ใช้ให้เป็นประโยชน์” อย่านำเอาเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ไปใช้ในทางผิดๆ
แนวทางในการที่จะพัฒนาความเจริญก้าวหน้าด้านดิจิทัลนั้นคงจะไม่แตกต่างจากการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าของอาชีพและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จะต้องมีสภาหรือสมาคมที่จะมีคณะกรรมการในการส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าของวิชาชีพ ทั้งในส่วนที่จะต้องดูแลกันเอง แลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ใช้ทรัพยากรต่างๆ ร่วมกัน ตลอดจนการให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลและหน่วยงานราชการในการกำกับดูและและส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีด้านดิจิทัลให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาประเทศ ในปัจจุบันนี้หลายๆ ประเทศในโลกเขามีสภาดิจิทัลกันแล้ว แต่ประเทศไทยยังไม่มี แต่เราจำเป็นจะต้องมี ดังนั้นรัฐบาล หน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแลอุตสาหกรรมดิจิทัล และผู้ประกอบการใหญ่น้อยทั้งหลายในอุตสาหกรรมดิจิทัลจะต้องมาร่วมกันพิจารณาอย่างจริงจังที่จะต้องทำให้ประเทศไทยมีสภาดิจิทัล เพื่อที่จะให้สภาทำหน้าที่ขับเคลื่อนการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าของอุตสาหกรรมดิจิทัล ที่จะส่งผลต่อการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าและศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยบนเวทีโลก และการดำเนินการก่อตั้งสภาดิจิทัลนั้นจะต้องทำอย่างเร่งด่วน มิฉะนั้นแล้วประเทศไทยเราคงก้าวไม่ทันหลายประเทศในโลกที่เขามีสภาดิจิทัลกันแล้ว
เมื่อประเทศไทยมีสภาดิจิทัลบุคลากรที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมดิจิทัลก็จะได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถ (Competency) ในระดับที่จะทำให้ประเทศไทยแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในเวทีโลก พวกเขาจะมีส่วนช่วยทำให้อุตสาหกรรมดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ทั้งนี้เพราะประเทศไทยจะต้องดำเนินธุรกิจในลักษณะของเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) และสังคมไทยก็จะต้องเป็นสังคมดิจิทัล (Digital Society) ที่คนไทยมีเทคโนโลยีดิจิทัลใช้กันอย่างถ้วนหน้า มีความสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็น และมีหลักธรรมาภิบาลในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
ในขณะที่โลกยุค 4.0 เป็นยุคของความเชื่อมโยงในระดับโลกาภิวัตน์ (Global Connectivity) การมีสภาดิจิทัลก็จะทำให้ประเทศไทยทั้งรัฐบาล ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนสามารถเชื่อมต่อกับผู้อื่นในเครือข่ายระดับโลกาภิวัตน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่จะทำให้สภาดิจิทัลเป็นองค์กรในการช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ จำเป็นจะต้องมีการตรากฎหมายรองรับสภาดังกล่าวเฉกเช่นสภาของอาชีพและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ และการมีกฎหมายรองรับการดำรงอยู่ของสภาดิจิทัลย่อมสร้างความมั่นใจให้กับสภาและสมาคมของอาชีพและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จะให้ความร่วมมือกับสภาดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นหอการค้า สมาคมธนาคาร สภาอุตสาหกรรม สภาการศึกษา แพทยสภา และองค์กรวิชาชีพอื่นๆ ทั้งนี้เพราะว่าอุตสาหกรรมทั้งหลายในประเทศไทยจะต้องให้ความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นดิจิทัล (Digital Transformation) แทนที่จะให้สภาและสมาคมของอาชีพอื่นๆ เคลื่อนเข้าสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล (Digital Organization) แต่เพียงลำพัง หากมีการบูรณาการให้มีการพัฒนาของสภาและสมาคมของอาชีพอื่นๆ เข้ากับสภาดิจิทัล การพัฒนาก็จะทำให้เร็วขึ้น ถูกต้องมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยสรุป เมื่อประเทศไทยมีสภาดิจิทัล การวางนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัลของประเทศไทยก็จะทำโดยคณะกรรมการของสภาดิจิทัลที่มีความเป็นมืออาชีพ มีความรู้ มีทักษะด้านดิจิทัล ร่วมกับรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ทำให้เราได้นโยบายและยุทธศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการพัฒนาประเทศด้านดิจิทัล หน่วยงานของภาครัฐจะได้รับความแนะนำ การสนับสนุน และความร่วมมือจากเอกชนที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล ทำให้การพัฒนาดำเนินการได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ทันกับการแข่งขันในเวทีโลกที่เรื่องของความเร็วเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
เทคโนโลยีดิจิทัลต้องการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทรัพยากรมนุษย์ด้านดิจิทัลจะต้องมีความสามารถในระดับของความเชี่ยวชาญ นโยบายและยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัลของประเทศจะต้องมีความถูกต้อง ประเทศไทยจะต้องขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลทั้งหมดนี้คือความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องตรากฎหมายรองรับสภาดิจิทัลเป็นการเร่งด่วน ไม่ควรจะรอให้เนิ่นนานออกไปมากกว่านี้แล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |