ตัวอย่างพื้นดวงชะตาเดิมที่ออกแนวร้ายทางบาดเจ็บอันตราย
ปกปิดข้อมูลส่วนตัว
พระอาทิตย์ดวงเดิม (๑) ถูกขนาบหน้า-หลังด้วยพระเสาร์ (๗) และพระอังคาร (๓) กาลกิณีมหาจักรที่ร้ายนัก
ผู้เขียนขอเลื่อนการเขียนถึงผลกระทบทางการเมืองจากการที่พฤหัสบดีจร (5) เดินอยู่ในราศีพิจิกออกไปอีกสักหนึ่งสัปดาห์ ด้วยมีวาระน่าสนใจเกี่ยวกับ โหรเอกในวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์ คือพิเภก ที่มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กำลังจะเปิดแสดงโขนให้ชมตอน “พิเภกสวามิภักดิ์” ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2561 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพราะมีคติสอนใจโหรอยู่หลายอย่าง
ตามท้องเรื่องนั้น เหตุมาจากทศกัณฐ์เจ้ากรุงลงกา พี่ชายของพิเภกสุบินนิมิตหรือฝันร้ายมาก จึงให้พิเภกน้องชายทำนายฝัน
เมื่อพิเภกผู้ถือความซื่อสัตย์สุจริต ใจพิเคราะห์ความฝันของพี่แล้วจึง ทำนายเปรี้ยง ออกไปว่า เป็นลางร้าย จะเกิดสงคราม ฝ่ายยักษ์จะพ่ายแพ้ และจะมีคนชักโยงให้มีศึกครั้งนี้ขนาดมาล้างเผ่าพงศ์วงศ์ยักษ์เลยทีเดียว แล้วบอกวิธีแก้จากร้ายให้กลายเป็นไม่ร้ายมากคือ ให้ทศกัณฐ์ส่งนางสีดามเหสีของพระรามที่ไปลักพาตัวมาคืนกลับไป
คงเป็นเพราะกิเลสบังตา (ศีลห้าข้อกาเมฯ ขาด) เมื่อฟังคำทำนายฝันแล้วทศกัณฐ์รับไม่ได้เข้าทำร้ายและไล่พิเภกออกจากเมืองไปไปสวามิภักดิ์พระรามให้ได้โหรเอกไว้ใช้
ท้องเรื่องของรามเกียรติ์ตอนนี้ สะกิดใจผู้เขียนซึ่งเป็นโหรสมัครเล่นอยู่ 2 เรื่องคือ
1.การทำนายของพิเภกที่ว่าฝ่ายยักษ์จะพ่ายแพ้ถึงขนาดล้างวงศ์ยักษ์นี้ หากแปลความหมายคือ เมื่อทำศึกแล้วในที่สุดทศกัณฐ์ที่อายุยืนมาเป็นพันปีต้องตาย ที่แม้จะทำด้วยความสัตย์ซื่อ-หวังดีแค่ไหน ก็เป็นอันตรายต่อตัวผู้ทำนายเอง
เพราะจริงอยู่ แม้ไม่มีใครหนีพ้นความตายไปได้ แต่ทำนายไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด มีแต่จะทำให้ผู้รับคำทำนายไม่สบายใจ รวมทั้งผู้เขียนเองก็ไม่อยากรู้เรื่องนี้ เพราะแม้ตำราของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร จะบอกว่ากลุ่มคนอย่างผู้เขียนเป็นเพราะพฤหัสบดีดวงเดิม (๕) อยู่ในภพที่แปด-มรณะตำราบอกจะตายสบายไม่ทรมาน ตายแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ แต่ผู้เขียนยังไม่อยากรู้เรื่องตายอยู่ดี
ส่วนอีกฟากคือ คนออกคำทำนายเองก็อาจจะเป็นอันตรายได้อย่างกรณีของพิเภก ฉะนั้นหนึ่งในสามจรรยาบรรณที่ครูโหรห้ามทำนายไว้คือ ทำนายเรื่องความตายตามโฉลก..(ห้าม) ทายชีวีวิบัติตัดชันษา…ถึงขนาดหากใครฝ่าฝืนครูโหรแช่งให้ตาบอด ส่วนบางคนที่รุกหนักโหรควรจะย้ำเพียงแต่ว่า ให้ระวังตัว
2.ดวงชะตาคนจะถึงฆาฏนั้น พอถึงที่สุดแล้วขนาดโหรระดับพิเภกชี้ทางให้ แต่ก็หนีไม่ชะตากรรมไม่พ้นหลัก ของกรรม หรือ การกระทำ คือหากทศกัณฐ์ที่ไปลักตัวนางสีดามาเพราะความเจ้าชู้ ยอมส่งคืนนางให้กับพระราม เรื่องร้ายหรือชะตากรรมขนาดถึงตายคงจะไม่เกิดขึ้น
และอีกหนึ่งตำนานที่เป็นตัวอย่างที่ดีของคนหนีกรรมไม่พ้นคือ ศรีปราชญ์ ที่เมื่อเกิดมาแล้วพระยาโหราธิบดีซึ่งเป็นบิดาที่ภูมิทางโหรเลิศล้ำในระดับ รู้วันเกิด-รู้วันตาย นั้น รู้ก่อนแล้วว่าลูกชายตายไม่ดีแน่ เพราะความห้าวจึงกราบบังคมทูลขอสมเด็จพระนารายณ์มหาราชไว้ว่า หากศรีปราชญ์ทำผิดพลาดประการใด ขออย่าได้ทรงประหาร ขอให้เพียงเนรเทศ แต่ในที่สุดศรีปราชญ์ก็หนีชะตากรรมไม่พ้นถูกประหารจนได้
คำถามคือ โหรใช้อะไรเป็นเครื่องมือให้ได้รู้ คำตอบนี้มีหลักเกณฑ์มากมายที่ต้องดู-อ่านพื้นชะตาเดิมให้ขาด เช่น พระยาโหราธิบดีอ่านดวงชะตาลูกชาย
ส่วนเหตุการณ์ร้ายจะเกิดช่วงไหนของชีวิตในระดับตายหรือไม่ ก็อาจถึงหยอดน้ำข้าวต้ม? คำตอบคือมีตำราที่เรียกว่า ฆาฏขัย อันเป็นปรากฏการณ์ที่ดาวร้ายอันได้แก่ พระอาทิตย์ พระอังคาร พระราหู และ พระเสาร์ จร มารุมกระหน่ำดวงชะตาพร้อมๆ กันหรือหลายดวงนั่นแหละเข้าข่ายเคราะห์หนัก
โดยตำราฆาฏขัยนี้มีถึง 15 ปรากฏการณ์ ตัวอย่างเช่นปรากฏการณ์แรกที่เรามักจะได้ยินคนเรียนโหรท่องอยู่บ่อยๆ คือ
…ผิว์จะฆาฏลัคนาอายุขัย อสุรินทร์ต้องลัคนาใน (พระราหูจรทับหรือเล็งดาวประจำชีพหรือตนุลัคน์ของเจ้าชะตารออยู่) บาปเคราะห์จรไปมาทับกัน(บาปเคราะห์อื่นๆ จรมาทับบาปเคราะห์ในดวงเดิมซ้ำอีก) อีกพระจันทร์นั้นมาทับลัคนา (พระจันทร์จรเดินมาทับลัคนาเป็นตัวจุดระเบิดของเหตุการณ์) ท่านทายตัดชีวาถึงอาสัญ…ฯลฯ
กล่าวโดยสรุปคือ หากเมื่อใดดาวร้ายจรมาช่วยกันกลุ้มรุมกระหน่ำดวงเดิม แล้วพฤหัสบดีจรไม่คุ้มครองดวงชะตา ระยะนั้นโหรคนใดก็ดูออกว่า เจ้าชะตานั้นเข้าข่ายร้ายนัก
แล้วโหรจะมีวิธีรับมือกับช่วงร้ายของชะตาอย่างไร สิ่งที่ผู้เขียนทำก็คือเตือนให้ระวังตัว ระวังอุบัติเหตุ- สุขภาพให้อยู่ใกล้หมอไว้ เพราะเป็นวิธีที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุดที่จะรับมือ
แต่ก็มีบางคนอีกเหมือนกันที่คิดว่า โหรหรือหมอดูจะมีคำตอบและแก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง ต่อว่าทำไมโหรไม่ช่วยหาทางออกให้ก็มี ผู้เขียนเคยลุกขึ้นเปิดเสื้อโชว์แผลผ่าตัดไส้ติ่งที่เพิ่งผ่าโดยนายแพทย์ให้ดูพร้อมกับบอกว่า โหรยังต้องหาหมอจริง และ พระพุทธองค์ยังมี หมอชีวกโกมารภัจจ์คอยดูแลรักษา
และเมื่อถึงที่สุดแล้วทุกคนก็ต้องจากโลกนี้ชนิดที่ไม่มีอะไรรั้งอยู่ จึงแม้จะทำใจยอมรับยาก แต่ไม่ประมาทในความตายเหมือนที่พระพุทธองค์สอนไว้เป็นปัจฉิมโอวาทเป็นดีที่สุด
สุดท้ายนี้ ผู้เขียนขอขอบพระคุณท่านผู้หญิงอินทิรา พลธร จากกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเรื่องโขนมาตลอด
ส่วนท่านใดสนใจจะชมโขน ตอน “พิเภกสวามิภักดิ์” สามารถซื้อบัตรได้ตั้งแต่วันนี้ ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา โทร. 0-2262-3456 หรือ www.thaiticketmajor.com
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |