การเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว "ประยุทธ์" วอนทุกฝ่ายอย่าให้เกิดวุ่นวาย ไม่แบ่งแยก ให้ใช้ความเห็นต่างช่วยกันคิดพัฒนาประเทศ บอก ปชต.ไม่จำเป็นต้องให้ร้าย สร้างความเกลียดชัง กกต.ติวเข้ม 8 พรรคใหม่ ระบุ กม.ใหม่ซับซ้อน ควรมีนิติกรอย่างน้อย 1 คน หากทำผิดโทษหนัก แฉมีแจกเสื้อ-ข้าวสารกันแล้ว เตือน 2 พรรคมีโทษถึงยุบ "นคร" ดักคอ คสช.ไม่เตรียมโกงเลือกตั้งจะกลัวต่างชาติมาสังเกตการณ์ทำไม "หญิงหน่อย" ลงพื้นที่ กทม. ลั่นถึงเวลาคืนความสุขอย่างแท้จริง ย้อน "สมคิด" สิ่งที่ทำนายคือเป้าหมายสืบทอดอำนาจ
เมื่อวันศุกร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ว่าอยากจะขอความร่วมมือ จะเห็นได้ว่าการเมือง-การเลือกตั้งกำลังจะใกล้เข้ามาแล้ว อย่าให้มันวุ่นวายสับสนอีกเลย ประชาชนอาจจะมีภูมิคุ้มกันที่ไม่มากพอ หลายคนอาจจะพูดเพื่อไปสู่การเลือกตั้งให้ได้รับเลือกอะไรต่างๆ เหล่านี้ มีการติติงว่ากันไปมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประชาชนบางคนก็ชอบดู ชอบฟัง แล้วก็พูดต่อ โพสต์ต่อ บางทีก็ไม่ได้รู้ว่าถูกหรือไม่ถูก บางทีก็สนุกดี
"แต่ท้ายที่สุดแล้วประเทศจะเป็นผู้ที่ได้หรือเสีย ประชาชนก็จะตามมา you get what you do เพราะฉะนั้นที่สุดนี้เราก็ต้องเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งอยู่แล้ว ก็ต้องหาคนที่ทำงานจริง ทำงานเป็น ทำงานได้ ไม่ใช่เพียงแต่ว่าได้ทำ แล้วทำไม่ได้ ทำไม่สำเร็จ"
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูป หรือแม้กระทั่งรัฐธรรมนูญที่ออกมาแล้ว ก็ยังมีอคติ มันออกมาแล้วก็ดำเนินการใช้ให้เกิดประโยชน์ไปก่อน วันหน้าค่อยว่ากัน ถ้าเรายังไม่ปฏิบัติก็เหมือนติเรือทั้งโกลน ติโขนยังไม่ได้ทรงเครื่อง เราจะคาดหวังกับคนเหล่านี้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องทำลายของเก่าเพื่อจะสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เข้ามาแก้ไขดีกว่า ไม่ใช่ไปล้มในสิ่งที่ยังไม่เคยใช้ คือสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ
"หลายคนก็เคยอยู่ในระบบการบริหารราชการแผ่นดินมาแล้ว วันนี้ออกมาพูด ตำหนิ ติติง สื่อก็นำมาขยายความให้ โซเชียลมีเดียขยายให้ ก็ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด สับสนอลหม่านไปหมด ในสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดก็เสียหายไป ก็กลับไปสู่ที่เดิม เริ่มต้นใหม่ ไม่ได้นะ เสียเวลา วันข้างหน้าไปอีกกี่รัฐบาลล่ะ เพราะฉะนั้นการเป็นประชาธิปไตยนั้นเราไม่จำเป็นต้องให้ร้ายหรือสร้างความเกลียดชัง นี่คือการปฏิรูปทางการเมืองอันดับหนึ่งเลย กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมต้องได้รับการยอมรับ เมื่อผู้ตัดสินถูก-ผิด ตามหลักฐานแล้วก็ต้องไม่มีใครก้าวล่วง หากผู้ทำความผิดไม่ไปให้ผลประโยชน์ แลกเปลี่ยนกับคนที่ไม่ดีก็อาจจะมีอยู่บ้าง น่าอับอายแทนคนเหล่านั้น ทุกคนรู้ตัวดี ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร ศาล อัยการ ขอร้องอย่าให้มีอีกต่อไป" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ระบุว่า “ผมเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นประเทศไทยของเราเป็นปึกแผ่น การจะเป็นปึกแผ่นหนึ่งเดียวได้เราต้องมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการขับเคลื่อนประเทศครับ ผมอยากขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจ ไม่แบ่งแยก ใช้ความเห็นที่แตกต่างและหลากหลาย มาร่วมกันคิดและออกแบบการพัฒนาประเทศไปด้วยกัน เราจะเดินไปถึงยังจุดหมายที่ต้องการด้วยกันได้เร็วขึ้น และเป็นพื้นฐานให้ประเทศเราเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน”
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ประชุมชี้แจงการดำเนินกิจกรรมให้แก่พรรคการเมืองจัดตั้งใหม่ 8 พรรค แบ่งเป็นช่วงเช้า พรรคสยามพัฒนา พรรคพรรคพลังไทยรักไทย พรรคพลังชาติไทย และพรรคประชาชาติ และช่วงบ่าย พรรคไทยธรรม พรรคเพื่อคนไทย พรรคพลังปวงชนไทย พรรคพลังรวมประชาชาติไทย
แฉแจกเสื้อ-ข้าวสารกันแล้ว
โดยนายแสวงกล่าวว่า เมื่อท่านได้รับการจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองแล้ว ให้รับสมัครสมาชิกได้ทันที โดยผู้ร่วมจัดตั้งพรรค 500 คน จะถือว่ามีสมาชิกภาพเป็นสมาชิกพรรค เรื่องหาสมาชิก 100 คน ขอแนะนำให้แต่ละพรรคเผื่อจำนวนป้องกันกรณีสมาชิกซ้ำซ้อนกับพรรคอื่น ซึ่งจะมีผลให้เสียทั้ง 2 พรรค จะถูกตีความว่าหาสมาชิกชอบหรือไม่ กรณีกองทุนเงินสนับสนุนพรรคการเมืองในปีงบประมาณ 62 วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.62 ซึ่ง กกต.ได้จัดสรรรูปแบบใหม่ จะได้เท่าไรขึ้นอยู่กับเกณฑ์ตามกฎหมาย โดย กกต.ได้รับงบประมาณ 130 ล้านบาท สามารถจัดสรรให้พรรคการเมืองได้ 117 ล้านบาท คาดว่าจะโอนเงินอุดหนุนให้พรรคการเมืองได้ในช่วงต้นปี 62 ทั้งนี้ กฎหมายกำหนดให้จ่ายเงินอุดหนุน ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการหาเสียงได้ โดยต้องทำเอกสารรายงาน กกต. ส่วนพรรคการเมืองเก่าจะมีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนที่มาจากเงินบริจาคจากภาษีด้วย และขณะนี้คำสั่ง คสช.ฉบับที่ 13 ยังมีผลบังคับใช้ ก่อนที่พรรคจะดำเนินกิจการใดๆ ต้องแจ้ง กกต.ก่อนดำเนินกิจกรรม 5 วัน
รองเลขาธิการ กกต.กล่าวอีกว่า การตั้งสาขาพรรคต้องมีสมาชิกในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบไม่น้อยกว่า 500 คนขึ้นไป ส่วนตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด จะต้องอยู่ในพื้นที่และต้องมีจำนวน 101 คนขึ้นไป กฎหมายมีความสลับซับซ้อน แนะนำให้พรรคมีนิติกรอย่างน้อย 1 คน ทำหน้าที่ประสานกับ กกต. เพราะกฎหมายหลาย 10 มาตรา มีโทษตั้งแต่ใบแดงถึงใบดำ เปลี่ยนค่าปรับทางปกครอง เป็นค่าปรับทางอาญา ส่วนกรณีการรับบริจาค กำหนดห้ามบริจาคเกิน 10 ล้านบาทต่อรายต่อปี หากต้องการรับบริจาคจากบุคคลภายนอก สามารถใช้คำสั่ง คสช.ที่ 53 ข้อ 4 ขออนุญาตได้ เช่น ขายสินค้าที่ระลึกระดมทุน ส่วนการระดมทุนในรูปแบบจัดทอล์กโชว์ ขายโต๊ะ ยังทำไม่ได้ เพราะอาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ซึ่งจะขัดคำสั่งคสช.อีก
ในช่วงบ่าย นายแสวงกล่าวตอนหนึ่งว่า ต้องให้ประชาชนมีความต้องการที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆ เอง ไม่ใช่มีการไปให้ประโยชน์เพื่อจูงใจกัน เวลานี้มีการรายงานเข้ามาเกือบทุกที่แจกเสื้อแจกข้าวสารกัน อาจคิดว่ากฎหมายเลือกตั้งยังไม่ผลบังคับใช้ แต่อย่าลืมว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองบังคับใช้แล้ว ซึ่งแม้ยังไม่เป็นพรรคการเมือง แต่ถ้าให้ประโยชน์จูงใจเพื่อเข้าเป็นสมาชิกพรรค มีโทษถึงยุบพรรคเลย ดังนั้นถ้าใครจะหาสมาชิกไม่ถูกต้องก็ลองดู เมื่อวานก็เตือนไป 2 พรรค ว่าระวังจะถูกยุบพรรค
ขณะที่ พล.ต.ทรงกลด ทิพยรัตน์ หัวหน้าพรรคพลังชาติไทย พร้อมด้วยสมาชิก เดินทางเข้ารับหนังสือรับรองการเป็นพรรคการเมืองจากสำนักงาน กกต. พร้อมกับกล่าวว่า หลังการเลือกตั้งพรรคพร้อมที่จะจับมือกับทุกพรรคการเมือง เพราะเชื่อว่าทุกพรรคมีอุดมการณ์เดียวกัน คือต้องการทำงานเพื่อชาติ พรรคใดที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็พร้อมที่จะไปร่วม ยืนยันจะเป็นพรรคความหวังใหม่ของประชาชน ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ พรรคทางเลือกหรือพรรคทหาร เราต้องการการเมืองสีขาว ให้ประเทศเกิดความปรองดอง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงความชัดเจนที่จะให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองว่า เห็นว่าทุกอย่างต้องรอกฎหมายบังคับใช้ แต่ความจริงรัฐบาลและ คสช. สามารถที่จะขยับให้บรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายมาพูดคุยกับ กกต.และผู้ที่เกี่ยวข้องได้อยู่แล้ว อะไรที่ทำให้ชัดเจนได้เร็ว ทำให้เกิดความเชื่อมั่นก็เป็นเรื่องที่ดี อย่างเมื่อเช้า (2 พ.ย.) ตนต้อนรับคณะแทนพิเศษของประธานาธิบดีโรมาเนีย ซึ่งทางทุกคณะที่มาจากต่างประเทศ เขาก็ยังสอบถามเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งพวกเขาหวังว่าทุกอย่างจะเดินไปตามกำหนดการเดิมที่ได้พูดกันไว้
นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรค ปชป.ปัจจุบันสังกัดพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวตอบโต้นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศว่า หลังจากที่ทางกงสุลสหรัฐรับหนังสือของผมไปเมื่อวานที่อยากเชิญให้มาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.2562 เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของสังคมไทยและสังคมโลกว่า เป็นไปด้วยความยุติธรรมและอิสระ คือ Free และ Fair นายดอนซึ่งเป็นลิ่วล้อของเผด็จการก็ออกมากันท่า ตีกันทันทีว่าต่างชาติมาดูเลือกตั้ง ไม่เป็นมงคล ไทยมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ประเทศมีปัญหา
"นายดอนคงจะไม่รู้สึกว่าตำแหน่งที่ตัวเองได้มา มันไม่มีความชอบธรรมตั้งแต่ต้น เพราะเป็นการได้มาจากการปล้นอำนาจของประชาชนไป กฎกติกาบ้านเมืองมันเป็นกฎของเผด็จการ โดยเผด็จการ และเพื่อเผด็จการ
ปูด คสช.เตรียมโกงเลือกตั้ง
"อีกทั้งคำสั่งทุกคำสั่งของแกนนำเผด็จการ คือ คสช.กีดกัน เอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทุกอย่าง เครือข่ายเผด็จการก็พร้อมสรรพที่จะทำการโกงการเลือกตั้ง คือมีทั้งอำนาจรัฐ อำนาจทุน อำนาจอาวุธ และทุกสรรพกำลัง คนไทยส่วนใหญ่จึงไม่เชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความอิสระและยุติธรรม นายดอน ซึ่งมีฐานะเป็นเพียงลิ่วล้อที่รับใช้ระบอบเผด็จการที่เรียกตนเองว่า รมว.การต่างประเทศ อย่าพยายามกีดกัน ขัดขวางการเข้ามาสังเกตการณ์ของประเทศอารยะ เลยยิ่งมีประเทศต่างๆ ทั่วโลกมามากเท่าไหร่ มันจะยิ่งสร้างเกียรติภูมิให้ประเทศไทยมากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ การพยายามกีดกัน ขัดขวางการสังเกตการณ์การเลือกตั้งของต่างประเทศต่างหาก จะยิ่งทำให้เกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของประเทศไทยของเราเสื่อมทรุดลงไปอีกในสังคมโลก หรือพวกคุณกลัวว่า โลกจะเห็นความเลวร้ายของเผด็จการ" นายนครระบุ
ต่อมานายนครโพสต์ข้อความอีกว่า คสช.ตั้งใจจะโกงการเลือกตั้ง? พวกคุณถึงกลัวการสังเกตการณ์การเลือกตั้งของต่างชาติ ผมถือว่าตนเองได้รับเกียรติจากศัตรูตัวจริงที่เริ่มเปิดเผยตัวตนออกมาคือ คสช. โดยพันเอกวินธัย สุวารี โฆษก คสช. ที่ได้แถลงเมื่อวานนี้ว่าไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะให้ต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เพราะคนไทยช่วยกันดูได้อย่างอิสรเสรี
"หากว่าพวกคุณไม่เตรียมการโกงการเลือกตั้งอย่างมโหฬาร จะกลัวการสังเกตการณ์การเลือกตั้งจากต่างชาติทำไม หรือเป็นเพราะพวกคุณจะทำการโกงการเลือกตั้งโดยใช้อำนาจเงิน อำนาจรัฐ และทุกเครือข่ายเพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง และสืบทอดอำนาจต่อไป หากมีต่างชาติมาสังเกตการณ์ การโกงการเลือกตั้งจะไม่สามารถทำได้โดยง่ายตามที่พวกคุณวางแผนไว้ ในหลายไประเทศที่เปลี่ยนผ่านจากระบอบเผด็จการมาสู่ระบอบประชาธิปไตย เช่น เมียนมา เขาก็เชิญชวนต่างชาติที่เจริญแล้วมาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งก็เป็นที่ยอมรับ ทั่วโลกก็เคารพการตัดสินใจของชาวพม่า หาก คสช. รัฐบาลเผด็จการ พยายามกีดกัน ไม่ยอมให้นานาชาติเข้ามาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น อาจจะไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมโลก ประเทศไทยและคนไทยอาจจะประสบกับภาวะวิกฤติอย่างรุนแรง เกินกว่าที่พวกคุณจะรับผิดชอบได้ก็ได้ คืนอำนาจให้ประชาชนเสียดีกว่า เรามาสู้กันอย่างแฟร์ๆ ด้วยการตัดสินใจของคนไทยทั้งประเทศ และที่สำคัญรีบกลับกรม กอง ไปทำหน้าที่ที่ควรจะทำเสียจะดีกว่าอย่ามาทำลายประชาธิปไตย ทำลายอำนาจประชาชนเลย" นายนครระบุ
นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ตอบโต้นายนครว่า นายนครทำตัวในฐานะเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ดีมากๆ เพราะนายทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทย ก็ชอบใช้วิธีการแบบเดียวกัน คือเอาเรื่องภายในประเทศไทยไปด่าให้ต่างประเทศฟังบ่อยๆ การกระทำของนายนครก็คงเพื่อเอาใจนายทักษิณ เจ้าของพรรคนั่นเอง
"พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเหนื่อยยากลำบากทั้งพระวรกายและพระทัยมากมายมหาศาล ในการที่ต้องรักษาเอกราชของประเทศสยามมิให้ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษและฝรั่งเศส แต่นายนครกลับทำตัวตรงกันข้าม ที่ไปขอร้องให้ประเทศที่มีพฤติกรรมเหมือนนักล่าอาณานิคมในอดีตเข้ามาก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศไทย เหมือนกับการยอมรับว่าประเทศไทยเป็นเมืองขึ้นของสหรัฐอเมริกา ถ้าคนที่เป็นอดีต ส.ส. และกำลังจะสมัครลงรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อีก มีความรู้สึกนึกคิดอย่างนี้ประเทศไทยจะมี ส.ส.เพื่ออะไร?" นายชูชาติระบุ
"หน่อย" พร้อมคืนความสุข
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) เผยว่า แม้ขณะนี้คณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธาน จะยังไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอย่างเป็นทางการออกมา แต่วันนี้คณะกรรมการชุดดังกล่าวได้จัดประชุมครั้งแรกขึ้น เพื่อวางกรอบขอบเขตการทำงานสำหรับการเตรียมการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ รวมถึงวางแนวทางการลงพื้นที่หาเสียงในแต่ละภาค หลังจากนี้แกนนำพรรคจะเริ่มเดินสายลงพื้นที่รับสมัครสมาชิกและรับฟังความคิดเห็นประชาชนในต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากการปลดล็อกกิจกรรมทางการเมืองเริ่มใกล้เข้ามา
โดยการหารือครั้งนี้มีแกนนำ อดีต ส.ส.พรรค และสมาชิกจากภาคต่างๆ เข้าร่วมประมาณ 20 คน อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค, นายโภคิน พลกุล, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล, นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย, นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล, นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์, นายไชยา พรหมา, และนายไพจิต ศรีวรขาน เข้าร่วมประชุม การประชุมหลังจากนี้คาดว่าจะประชุมทุกวันพุธหรือพฤหัสบดีของทุกสัปดาห์ แต่จะไม่จัดประชุมในวันศุกร์ เนื่องจากตอนนี้สมาชิกพรรคจะให้ความสำคัญกับการลงพื้นที่หาเสียง เนื่องจากใกล้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแล้ว อย่างไรก็ดี การหารือครั้งนี้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งก่อนหน้าได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ต่อให้ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการชุดดังกล่าว ก็อาจไม่เข้าร่วมเพราะไม่มีเวลา
เวลา 16.50 น. ที่ตลาดวงศกร สายไหม กรุงเทพฯ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พร้อม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, นายวัฒนา เมืองสุข และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ของพรรค พท. เดินทางมารับสมัครสมาชิกพรรคพท. พร้อมรับฟังปัญหาของประชาชนเขตสายไหม โดยมีพ่อค้าแม่ค้า ประชาชนมารอให้การต้อนรับอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ ได้มีการเปิดโอกาสให้ตัวแทนชุมชนต่างๆ ในเขตสายไหมสะท้อนปัญหาให้คุณหญิงสุดารัตน์และทีมงานรับทราบ ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะคืนความสุขให้คนไทยอย่างแท้จริง แล้วทำให้เงินในกระเป๋าของประชาชนพองโต อย่าให้เสียงกระซิบของคนรวย ดังกว่าเสียงตะโกนของคนจน
คุณหญิงสุดารัตน์ให้สัมภาษณ์กรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ทำนายว่านายกฯ คนต่อไปหน้าตาคล้าย พล.อ.ประยุทธ์ ว่าไม่ขอทำนายอะไร เพราะไม่ใช่หมอดู เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับประชาชน ใครจะพูดอะไรก็ตาม แต่ตนขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในฐานะนักการเมือง เรามั่นใจและเชื่อว่าประชาชนจะร่วมมือกับเราหาทางออกจากความทุกข์ สิ่งที่รองนายกฯ ทำนายนั้น คิดว่าไม่ใช่การทำนาย แต่เป็นเป้าหมายมากกว่าที่ผู้มีอำนาจอยากมีอำนาจต่อไป
ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้มีผู้สนใจเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคจำนวนหลายคน อาทิ นายสวาป เผ่าประทาน กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย จาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค พร้อมนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค และนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายสวาปกล่าวว่า ได้รับการชักชวนจากแกนนำพรรคให้มาช่วยงานพรรค และเห็นว่าพรรคมีแนวนโยบายที่ดีในการแก้ปัญหาประชาชน จึงตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรค
นอกจากนี้ นายประสงค์ นามเสถียร จาก จ.กำแพงเพชร, นายบรรพต กำไลแก้ว จาก จ.เพชรบุรี, นายไพฑูร สี่สง่า จาก จ.เพชรบุรี, นายกล้าหาญ เจริญธรรม จาก จ.ราชบุรี, นายนภินทร ศรีสรรพพางค์ จาก จ.สุราษฎร์ธานี และนายพิชิตชัย รัชตามปา จากกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเช่นเดียวกัน
คนตราดต้อนรับ รปช.คึกคัก
ที่ จ.ตราด หลังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และคณะกรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ลงพบปะกับประชาชนชาวจันทบุรีในหลายพื้นที่ช่วงเช้าวันที่ 2 พ.ย.แล้ว ในเวลา 14.00 น. นายสุเทพนำคณะลงพบปะประชาชนชาว อ.ขลุง ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองขลุง โดยพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดและชาวขลุงที่มาจับจ่ายอาหาร ซึ่งนายสุเทพและคณะได้นำใบสมัครสมาชิกพรรคมาให้ร่วมลงชื่อสมัครด้วย ซึ่งมีส่วนหนึ่งได้ร่วมสมัครด้วย นอกจากนี้ ยังขอร่วมถ่ายรูปเซลฟี รวมทั้งมอบดอกไม้ระหว่างเดินผ่านมาที่ร้านค้าด้วย
เวลา 16.30 น. นายสุเทพเดินทางถึงตลาดเทศบาลแสนตุ้ง และลงเดินพบปะชาวแสนตุ้ง โดยมีนายกิตติธัช ไชยอรรถ แกนนำ กปปส.ตราด พาเดินไปพบประชาชน และได้รับการต้อนรับอย่างดี เนื่องจากพื้นที่ ต.แสนตุ้งที่เคยเป็นที่กลุ่ม กปปส.ตราดถูกระเบิดและยิงด้วยปืนกลระหว่างมีการปราศรัยทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 3 คน บาดเจ็บกว่า 33 คน ซึ่งนายสมชาย นิมิตรกุล เจ้าของร้านทองแสนตุ้ง ได้ร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรคทันที
นายสมชายกล่าวว่า บ้านเมืองที่มีปัญหาต้องมีคนอย่างท่านสุเทพเท่านั้นที่จะช่วยแก้ไขให้เท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ชาวแสนตุ้งได้เสียชีวิตและบาดเจ็บต่างจดจำเป็นอย่างดี และเมื่อวันนี้มาเราชาวแสนตุ้งพร้อมสนับสนุน
สำหรับชาวแสนหลายคนยังจดจำเหตุการณ์เมื่อ 4-5 ปีได้ และได้เข้าไปพบและสวมกอดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างเป็นกันเอง พร้อมสมัครเป็นสมาชิกจำนวนมาก โดยนายสุเทพกล่าวขอบคุณชาวแสนตุ้ง ที่ผ่านมาชาวแสนตุ้งได้พลีชีพเพื่อประเทศชาติ ซึ่งตนเองไม่รู้จักกับคุณสมชายมาก่อน และเมื่อมาก็สมัครเป็นสมาชิกทันที ต้องขอบคุณมาก และทำให้พวกเรามีกำลังใจในการทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป
ที่โรงแรมปทุมธานีเพลส จ.ปทุมธานี มีการประชุมพรรคพลังท้องถิ่นไท เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 29 คน โดยมีมติเลือกนายชัชวาลย์ คงอุดม อดีต ส.ว.เป็นหัวหน้าพรรค, นายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เป็นรองหัวหน้าพรรค, นายธีรศักดิ์ พานิชวิทย์ อดีตสปช. เป็นเลขาธิการพรรค, นายชื่นชอบ คงอุดม อดีตส.ส.กทม.พรรค ปชป. เป็นโฆษกพรรค, นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ศิลปินชื่อดัง เป็นรองโฆษกพรรค โดยจะมีการเปิดตัว กก.บก.ชุดใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 3 พ.ย.ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขตต่างๆ ของพรรค อาทิ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต ส.ส.ขอนแก่น, นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์, นายเกษม มาลัยศรี อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด รวมถึง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ที่จะลงสนามเปิดตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตดินแดง โดยตั้งเป้าส่งผู้สมัครครบทั้ง 350 เขต
ส่วนความคืบหน้าการหยั่งเสียงหัวหน้าพรรค ปชป. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวถึงอุปสรรคในการลงคะแนนหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคว่า พวกเราพรรคปชป.ทุกคนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ตนเห็นใจคนทำงาน เพราะเป็นเรื่องใหม่ ดังนั้นเมื่อเกิดอุปสรรคขึ้น ก็ต้องขอความกรุณาสมาชิกพรรคที่ตั้งใจมาลงคะแนนเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ให้มาลงคะแนนเสียงใหม่อีกครั้งในวันที่ 9 พ.ย.นี้ ส่วนกรณีที่การลงคะแนนเสียงในวันดังกล่าว ห่างจากวันประชุมใหญ่วันที่ 11 พ.ย. ไม่กี่วัน จะต้องเลื่อนวันประชุมใหญ่หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะต้องขึ้นกับกรรมการบริหารพรรค แต่เท่าที่ทราบยังไม่มีแนวความคิดที่จะเปลี่ยนวันประชุมใหญ่
เมื่อถามว่า ขณะนี้กลายเป็นว่ากองเชียร์ของผู้สมัครแต่ละเบอร์มีความขัดแย้งกันเอง จะมีการปรามอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พยายามพูดกันอยู่ แต่การแข่งขันก็ย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ก็อยู่ที่พวกเราจะช่วยกัน ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการทำงานร่วมกันต่อไป เพราะทุกคนยืนยันว่าจะทำงานให้พรรค
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัครรับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ปชป.หมายเลข 2 เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ว่า "ผมได้รับข้อความจากหลายท่านว่า ตัดสินใจซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ เพื่อจะโหวตผมให้ได้ผมมีความซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากครับ ทำให้ผมนึกถึง มีพี่คนหนึ่ง เอาเอกสารแคชเชียร์เช็คจีทูจีมาให้ผม บอกผมว่า เชื่อมั่นว่าผมจะไม่หาประโยชน์ใส่ตัว จะเอาไปปกป้องประโยชน์ประเทศ ต้องขอบคุณมากครับ ที่ลงทุนซื้อโทรศัพท์ใหม่ ผมรับรองได้เลยว่าผมจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ.........ซึ้งใจมาก น้ำตาแทบไหลครับ".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |