ธ.ก.ส. แจงปี 62 จ่อปล่อยสินเชื่อเพิ่ม 5 แสนล. ช่วยเกษตรกร-วิสาหกิจชุมชน


เพิ่มเพื่อน    

 

ธ.ก.ส. วาดแผนดำเนินงานปีบัญชี 2562 ปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น 5 แสนล้านบาท เล็งกลุ่มลูกค้ารายย่อย-กลาง และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน-เอสเอ็มอีเกษตรเป็นหลัก พร้อมวางยุทธศาสตร์นโยบายเกษตรยั่งยืน วางกรอบทำเกษตรกรรม 5 รูปแบบ สร้างเกษตรกรไทยสู่ความยั่งยืน

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการทำแผนดำเนินงานปีบัญชี 2562 (1 เม.ย. 2562- 31 มี.ค. 2563) เบื้องต้นตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นสุทธิ 5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้ารายย่อยและรายกลาง ประมาณ 3 แสนล้านบาท และกลุ่มลูกค้านิติบุคคล เช่น วิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอีเกษตร อีก 2 แสนล้านบาท โดยปัจจุบันธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้าง อยู่ที่ 1.36 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ ในปีบัญชี 2561  (1 เม.ย. 2561 – 31 มี.ค. 2562) ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น 7.5 แสนล้านบาท แต่เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการพักชำระหนี้ 3 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 3.8 ล้านราย และมีการแสดงความประสงค์เข้าโครงการแล้ว 3.5 ล้านราย ซึ่งอาจทำให้เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อต้องปรับตัวลดลงเหลือ 5 แสนล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา 2 ไตรมาส สามารถปล่อยสินเชื่อได้แล้วกว่า 3 แสนล้านบาท  

นอกจากนี้ ในโอกาสที่ ธ.ก.ส.ครบรอบ 52 ปี ได้กำหนดยุทธศาสตร์การนำนโยบายเกษตรยั่งยืน ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติ มาใช้เป็นกรอบในการพัฒนาเกษตรกรและภาคการเกษตรเพื่อสร้างความยั่งยืน ประกอบด้วยการทำเกษตรกรรม 5 รูปแบบ คือ เกษตรทฤษฎีใหม่ วนเกษตร เกษตรผสมผสาน เกษตรธรรมชาติ และเกษตรอินทรีย์ เป้าหมายพื้นที่ 5 ล้านไร่

โดยด้านเกษตรอินทรีย์ ธ.ก.ส. มีเป้าหมายชุมชนเข้าร่วมโครงการจำนวน 600 ชุมชน และขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 6 หมื่นไร่ ภายในปี 2563 โดยมีโครงการสินเชื่อส่งเสริมและสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Credit ) วงเงิน 5 พันล้านบาท และสินเชื่อชุมชนปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อพัฒนาอาชีพของผู้มีรายได้น้อย (XYZ) วงเงิน 2 พันล้านบาท  ด้านวนเกษตรและสิ่งแวดล้อม ธ.ก.ส พร้อมสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกต้นไม้ตามแนวทาง ป่า 3อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง โดยชุมชนเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อน ภายใต้โครงการธนาคารต้นไม้เชื่อมโยงไปสู่โครงการชุมชนไม้มีค่าตามนโยบายของรัฐบาล โดยปัจจุบันมีชุมชนที่ร่วมปลูกต้นไม้กับ ธ.ก.ส. ตามโครงการธนาคารต้นไม้จำนวน 6.8 พันชุมชน มีสมาชิก 1.15 แสนราย มีจำนวนต้นไม้ที่ปลูกเพิ่มขึ้นในประเทศกว่า 11.7 ล้านต้น

ด้านความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการบริหารจัดการหนี้ให้กับเกษตรกรที่มีภาระหนัก ผ่านมาตรการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ซึ่งมีลูกค้าเป้าหมาย 3.8 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้รวมกว่า 9 แสนล้านบาท ส่วนเรื่องมาตรการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนเฟส 2 ที่พัฒนาอาชีพหารายได้เพิ่ม ซึ่งทางกระทรวงการคลัง ตั้งเป้าหมายให้ช่วยเกษตรกรลูกค้า 8 แสนรายที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจน ให้มีรายได้สูงกว่า 3 หมื่นบาทต่อคนต่อปีคิดเป็นสัดส่วน 30 % ของกลุ่มเป้าหมายภายในปีนี้ 

โดยผลดำเนินงานล่าสุด ธนาคารสามารถยกระดับเกษตรกรผู้มีบัตรสวัสดิการ ที่มีรายได้ไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อปี มีจำนวน 5.99 แสนราย ยกระดับรายได้ให้เกิน 2 หมื่นบาท ได้แล้วจำนวน 1.46 แสนราย คิดเป็น 24.42% และผู้มีรายได้ระหว่าง 20,001-30,000 บาทต่อปี จำนวน 2.84 แสนราย สามารถยกระดับรายได้ให้เกิน 3 หมื่นบาท ต่อปี ได้แล้วจำนวน 7.43 หมื่นราย คิดเป็น 26.15%  คาดว่าจะสามารถยกระดับรายได้ผู้ถือบัตรสวัสดิการได้ครบ 2.4 แสนราย หรือ 30% ได้ตามเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้ ด้านการออมของผู้ที่ประสงค์พัฒนาตัวเอง 2.76 ล้านราย พบว่ามีเงินออมเพิ่มขึ้น จำนวน 1.63 พันล้านบาท เฉลี่ยมีเงินฝากเพิ่มขึ้นรายละ 591 บาท


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"