เลือกตั้งแล้วหายจน?


เพิ่มเพื่อน    


    จริงหรือเปล่า?
    ที่พูดกันว่ารัฐบาลเลือกตั้งเศรษฐกิจจะดีกว่ารัฐบาลจากรัฐประหาร
    ไม่มีคนจนในรัฐบาลประชาธิปไตย แต่รัฐบาลเผด็จการทหารเต็มไปด้วยคนจน 
    ช่วงหลังๆ มานี้นับแต่มีเสียงตีเกราะเคาะกะลาว่า การเลือกตั้งมีแน่ๆ ในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เกิดวาทกรรมหนาหู 
    เลือกตั้งแล้วความจนจะหมดไป!
    ก็ต้องถามคนจนว่า รู้สึกถึงความต่าง ได้จริงหรือเปล่า?
    วานนี้ (๑ พฤศจิกายน) "ชวลิต วิชยสุทธิ์" อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่พยายามแสดงบทเป็นกูรูเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์ว่า
    ...ลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาความเดือดร้อนประชาชนประกอบการจัดทำนโยบายพรรค จากการลงพื้นที่ ชาวบ้านทุกบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า 
    รายได้ไม่พอกับรายจ่าย 
    ชักหน้า ไม่ถึงหลัง 
    เปรียบเทียบกับเศรษฐกิจสมัย ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ชาวบ้านเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน พืชผลการเกษตรราคาดี ชาวบ้านมีรายได้ดีขึ้น มีเงินหมุนเวียนในตำบล หมู่บ้าน ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเริ่มลืมตาอ้าปากได้ 
    มันต่างอย่างสิ้นเชิงกับปัจจุบันนี้ ที่ความสุขมันหดหายไป 
    ความสุขมันไม่ได้กลับคืนมาตามเพลงที่โฆษณาไว้ เริ่มบ่นกันว่าไม่ไหวแล้ว ลำบากจริงๆ 
    ยิ่งตอนนี้ยิ่งวิตกกังวลไปหมดว่า ค่าเทอมลูกจะหาจากไหน 
    ยางเหลือเพียง ๑๕-๑๖ บาทต่อกิโลกรัม ปาล์มห้าสลึงต่อกิโลกรัม ชาวบ้านจึงขอให้พรรคเพื่อไทยจัดเตรียมนโยบายช่วยเหลือประชาชนในด้านเศรษฐกิจ ปากท้องเป็นหลักก่อนอย่างอื่น.... 
    อืม...ข้อมูลจากการยางแห่งประเทศไทย ณ วันที่ ๑ พฤศจิกายน ราคาน้ำยางสด อยู่ที่กิโลกรัมละ ๓๘ บาท 
    ถ้ายางพาราที่บ้าน "ชวลิต วิชยสุทธิ์" กิโลกรัมละ ๑๖ บาท แสดงว่า ผิดปกติอย่างแรง 
    แต่นั่นเป็นเรื่องเล็ก เพราะหากย้อนไปยุครัฐบาลระบอบทักษิณ อยู่ในอำนาจต่อเนื่องกว่า ๑๐ ปี เคยมีสัญญาณอะไรบ้างหรือไม่ว่า รัฐบาลที่กล่าวมานี้ได้วางรากฐานเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานรากในระยะยาว
    หากจะบอกว่ายุค "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" เศรษฐกิจเฟื่องฟู คนจนกินอิ่มทุกมื้อ มีแต่ความสุข แท้จริงแล้วเป็นเช่นนั้นหรือ?
    นั่นคือภาพลวงตา จากนโยบายประชานิยม 
    ที่ไม่มีอะไรยั่งยืน 
    เมื่อไหร่ที่หยุดแจก ความชะงักงันก็บังเกิด 
    เมื่อบอกว่าหยุดจำนำข้าวตันละหมื่นห้า ความทุกข์ยากก็กลับมา
    เข้าทำนองนักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด
    นโยบายประชานิยมไม่ได้สอนให้ประชาชนพึ่งพาตัวเอง แต่เป็นการทำให้ประชาชนเคยตัว
    วันนี้พรรคเพื่อไทยยังมีเป้าหมายพาชาติกลับไปสู่จุดเดิม 
    จุดที่มอมเมาให้ประชาชนแบมือขอ
    การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือในการเข้าสู่อำนาจ หากนักการเมืองได้อำนาจแล้วทำเพื่อประชาชน เมื่อนั้นประชาชนจะอยู่อย่างมีความสุข
    แต่ได้อำนาจแล้วหาประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง โยนเศษเนื้อเพียงเล็กน้อยให้ประชาชน เหมือนที่รัฐบาลระบอบทักษิณทำ 
    เลือกตั้งอีกร้อยชาติประชาชนก็ยังจนอยู่.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"