1พ.ย.61-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จัดการประชุมบูรณาการแนวทางการจัดงานประเพณีลอยกระทงปี 2561 โดยมีหน่วยงานภาครัฐ 19 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคมกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง กรมการขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมประชาสัมพันธ์ สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว(กทม.) สภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ร่วมกันวางแนวทางการจัดงานประเพณีลอยกระทงของประเทศให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ประเพณีลอยกระทงปีนี้ภาพรวมของประเทศกำหนดให้จัดงานภายใต้แนวคิด “ลอยกระทงปลอดภัย สืบสานวัฒนธรรมไทย ใส่ใจสายน้ำและสิ่งแวดล้อม" นอกจากจัดงานสืบทอดประเพณีลอยกระทงที่สำคัญสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรมไทยที่มีคุณค่าและงดงามแล้ว ยังต้องวางมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง พร้อมรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพราะได้รับรายงานว่า ทุกจังหวัดจัดงานลอยกระทงอย่างถ้วนหน้า และมีไฮไลต์ในหลายจังหวัด เช่น ลอยกระทงสาย จ.ตาก, ลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จ.สุโขทัย ,งานประเพณียี่เป็ง จ.เชียงใหม่ แล้วยังมีเทศกาลลอยกระทงที่ยิ่งใหญ่ในอีสาน เช่น สีฐาน เฟสติวัล บุญสสมาบูชาน้ำ จ.ขอนแก่น นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านจัดลอยกระทงอาเซียน ที่จ.ขอนแก่น และจ.ระนอง ด้วย
ส่วนกิจกรรมในส่วนกลาง สวธ. และสภาวัฒนธรรมกทม. กำหนดจัดงานภายใต้ชื่องาน “ลอยกระทงปลอดภัย สืบสานวัฒนธรรมไทย ใส่ใจสายน้ำและสิ่งแวดล้อม” ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย.2561 ณ วัดราชาธิวาสราชวรวิหารกรุงเทพมหานคร มีนิทรรศการคุณค่าสาระของประเพณีลอยกระทง การแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น เพลงพื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้าน สาธิตอาหารพื้นบ้าน สาธิตประดิษฐ์กระทง ทั้งนี้ พิธีเปิดงานวันที่ 22 พ.ย. เวลา 17.00 น. จะเริ่มด้วยขบวนแห่รณรงค์ให้ประชาชาชนร่วมกิจกรรมลอยกระทงด้วยความปลอดภัย ร่วมสืบสานคุณค่าของวัฒนธรรม และรักษาสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจการจัดงานลอยกระทงปี 2560 มีผู้ร่วมกิจกรรม 6.3 ล้านคน สร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศกว่า 9 พันล้านบาท บางจังหวัดจัดงาน 3 วัน บางจังหวัดจัด 5 วัน ปีนี้ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟ จ.สุโขทัย ขยายเวลาจัดงานเป็น 10 วัน เช่นเดียวกับอีกหลายจังหวัดจะส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
" ปีนี้รัฐบาลขอความร่วมมือใช้กระทงที่ประดิษฐ์ด้วยวัสดุที่ย่อยสลายง่าย ไม่ใช้โฟม ไม่ใช้ พลาสติก เน้นวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งรณรงค์ครอบครัวละ 1 กระทง เพื่อลดปริมาณขยะ ขณะที่หน่วยงานดูแลเรื่องความปลอดภัยเน้นย้ำไม่เล่นพลุ ดอกไม้ไฟ โคมลอย โคมไฟ ตะไล ในที่ชุมชนหรือสถานที่ที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หรืออุบัติเหตุเพลิงไหม้ หากจุดพลุจะต้องไปขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จังหวัด อำเภอ และสำนักงานเขตในกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิตและรบกวนการคมนาคมของเครื่องบิน คาดว่าลอยกระทงปีนี้จะมีจำนวนผู้ร่วมงานมากขึ้น ส่งเสริมการท่องเที่ยวและรายได้สู่ท้องถิ่น อีกทั้งขอความร่วมมือไม่แต่งกายด้วยชุดล่อแหลม ร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนานรื่นเริงมีน้ำใจไมตรีให้กัน และเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจในประเพณีลอยกระทงไทย " นายวีระ กล่าว
ด้าน นางสาวผกาภรณ์ ยอดปลอบ ผู้อำนวยการกลุ่มสื่อสารสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ประเพณีลอยกระทงปีนี้เชิญชวนให้ใช้วัสดุธรรมชาติประดิษฐ์กระทง ลดใช้โฟม แม้สถิติปริมาณขยะกระทงธรรมชาติที่เก็บได้หลังวันลอยกระทงจะมีมากขึ้น แต่ยังมีกระทงโฟมอยู่ ขอรณรงค์กับชาวไทยให้ลอยกระทงปลอดโฟม 100 % เพื่อไม่เพิ่มเติมภาระของแม่น้ำ และรู้คุณค่าของน้ำ อีกทั้งเชิญชวนครอบครัว คู่รัก กลุ่มเพื่อนลอยกระทงใบเดียวกัน เนื่องจากปีนี้กระทรวงทรัพยฯ เง้มงวดเรื่องขยะพลาสติก โฟม ให้จัดการอย่างเป็นระบบ
" ขอเชิญชวนผู้จัดงานลอยกระทงในทุกพื้นที่ขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านค้า ร้านจำหน่ายอาหาร ใช้บรรจุภัณฑ์ ภาชนะอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ ทดแทนบรรจุภัณฑ์โฟม ถุงพลาสติก แก้วน้ำใช้ครั้งเดียวทิ้ง รวมถึงรับสมัครจิตอาสาคัดแยกขยะ เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติก โฟม ในงานลอยกระทง " นางสาวผกากรณ์ กล่าว
นายวิเชียร เปมานุกรรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม กรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่ามี 5 แนวทาง คือ แผนรักษาการณ์ทางน้ำ โดยออก 3 ประกาศ เน้นความปลอดภัย แจ้งเตือนให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือและการใช้เรือ กำหนดเขตควบคุมการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ห้ามเดินเรือทะเล เรือลำเลียง เรือบรรทุกสินค้าอันตราย เรือน้ำมัน และเรือลากจูง ผ่านเขตควบคุมการเดินเรือ ในวันที่ 22 พ.ย. เวลา 16.00-24.00 น. นอกจากนี้ จะตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสภาพความปลอดภัยเรือโดยสารและท่าเทียบเรือ ให้เจ้าที่ในสังกัดเข้มงวด กวดขัน และตั้งศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางน้ำเพื่อรับแจ้งเหตุ และศูนย์อำนวยความสะดวกพร้อมดูแลความปลอดภัยทางน้ำบริเวณท่าเทียบเรือที่ใช้บริการหนาแน่น มีเรือรักษาการณ์พร้อมเจ้าหน้าดูแลความเรียบร้อย