นักประดาน้ำกู้กล่องดำของโบอิ้ง 767 แมกซ์ของสายการบินไลออนแอร์ได้แล้ว 1 กล่องเมื่อวันพฤหัสบดี หวังเป็นกุญแจสำคัญเฉลยสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโดยสารลำนี้ดิ่งทะเลนอกชายฝั่งชวาเมื่อวันจันทร์ คร่าทั้ง 189 ชีวิตในเที่ยวบินนี้

เจ้าหน้าที่นำกล่องดำของโบอิ้ง 737 แมกซ์ 8 เที่ยวบิน เจที 610 สายการบินไลออนแอร์ แสดงต่อนักข่าวหลังเก็บกู้ได้จากก้นทะเลนอกชายฝั่งชวาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 / AFP

    โซร์จันโจ จาห์โจโน ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมแห่งชาติของอินโดนีเซีย เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ว่าทีมค้นหาพบกล่องดำ 1 ใน 2 กล่องของเครื่องบินลำนี้แล้ว แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ากล่องนี้เป็นกล่องบันทึกข้อมูลการบินหรือบันทึกเสียงสนทนาในห้องนักบิน

    โบอิ้ง 737 แมกซ์ 8 ลำนี้เพิ่งถูกนำมาให้บริการเมื่อเดือนสิงหาคม ระหว่างเส้นทางบินจากกรุงจาการ์ตาไปยังเมืองปังกัลปีนังเมื่อเช้าวันที่ 29 ตุลาคม เครื่องได้ขาดการติดต่อกับหอควบคุมการจราจรทางอากาศ 12 นาทีหลังทะยานขึ้น แล้วปักหัวลงทะเลชวาที่มีความลึก 30-40 เมตร

    เครื่องบินรุ่นนี้เป็นแบบทางเดินเดี่ยวและเป็นเครื่องบินโดยสารรุ่นใหม่ที่สุดและก้าวหน้าที่สุดรุ่นหนึ่งในโลก

    ภาพจากจุดค้นหาซากเครื่องบินเผยให้เห็นนักประดาน้ำ 2 คนว่ายมายังเรือสนับสนุน แล้ววางอุปกรณ์สีส้มชิ้นหนึ่งลงในกล่องพลาสติก อุปกรณ์นี้แม้จะมีสีส้มแต่ถูกเรียกขานว่ากล่องดำที่บังคับให้ติดตั้งไว้กับเครื่องบินพาณิชย์ทุกลำ กล่องดำนี้ถูกออกแบบมาให้ทนทานความลึกและอุณหภูมิร้อนสุดขีด และยังติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณที่สามารถส่งสัญญาณได้นาน 1 เดือน ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินกล่าวกันว่า ข้อมูลจากกล่องดำช่วยอธิบายสาเหตุของเครื่องบินตกได้เกือบ 90%

    ที่กรุงจาการ์ตา เจ้าหน้าที่จากบริษัท โบอิ้ง และคณะกรรมการความปลอดภัยคมนาคมแห่งชาติของสหรัฐ ได้ร่วมทำงานกับคณะเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียตรวจค้นชิ้นส่วนโลหะที่บิดเบี้ยวและข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวที่เก็บขึ้นมาได้จากทะเล ซึ่งมีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า ไปจนถึงกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือ

    ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์กำลังเร่งพิสูจน์ดีเอ็นเอชิ้นส่วนศพที่เก็บกู้ได้ และสามารถระบุชื่อของผู้เสียชีวิตรายแรกได้แล้วเมื่อค่ำวันพุธ คือจันนาตุน ซินตยา เดวี อายุ 24 ปี ครอบครัวของเธอนำร่างไปประกอบพิธีที่บ้านเกิดในจังหวัดชวาตะวันออกแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี