เริ่มแล้วหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สั่งเจ้าหน้าที่ไอทีคุมเข้ม หวั่นผู้ไม่หวังดีเจาะระบบเปลี่ยนผล "มาร์ค" ยันไม่ได้นอนมา อ้อนแม่ยกกลัวนอนยาว "เสี่ยจ้อน" ย้ำใครได้เป็นไม่สำคัญ เพราะเป็นครอบครัวเดียวกัน ส่วน "หมอวรงค์" ลั่นถึงเวลาต้องเปลี่ยน
ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม คณะกรรมการการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (กกต.พรรค) แถลงข่าวถึงความพร้อมในกระบวนการการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค โดยนายชุมพล กาญจนะ ประธาน กกต.พรรค แถลงว่า อุปกรณ์ในการหยั่งเสียงได้เข้าสู่พื้นที่หน่วยออกเสียงครบถ้วนเกือบ 100% มีการติดตั้งทดลองระบบเรียบร้อยแล้วจำนวน 230 เครื่อง
โดยเฉพาะที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์จะมีการติดตั้งเครื่องลงคะแนนให้สมาชิกได้ใช้สิทธิ์เลือกผู้สมัครเข้ารับการหยั่งเสียงฯ จำนวน 25 เครื่อง โดยในวันที่ 1 พฤศจิกายน เวลา 07.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค จะเป็นผู้เปิดศูนย์บัญชาการการหยั่งเสียงฯ ของพรรค และจะเป็นผู้ใช้สิทธิ์เป็นคนแรก จากนั้นสมาชิกพรรคก็จะใช้สิทธิ์ไปตามลำดับจนถึงเวลา 18.00 น.
ด้านนางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ในฐานะเลขาฯ กกต. พรรค แถลงว่า ในส่วนของแอปพลิเคชันของการหยั่งเสียงฯ นั้น สมาชิกสามารถโหลดได้ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของคืนนี้ คือตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป และเมื่อโหลดแล้วก็สามารถใช้สิทธิ์ได้ทันที โดยการใช้สิทธิ์หยั่งเสียงผ่านแอปฯ จะสิ้นสุดในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 3 พฤศจิกายน
ทั้งนี้ หากสมาชิกคนใดมีปัญหาในการลงคะแนนทั้งในหน่วยและในแอปฯ ทางพรรคก็ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความชำนาญด้านไอทีไว้ติดต่อสอบถามและอธิบายให้สมาชิกเข้าใจได้ หรือจะโทรศัพท์สอบถามไปที่เบอร์ 0-2828-1000 ซึ่งจะมีทั้งหมด 10 คู่สายไว้บริการตอบคำถาม และยังมีสื่อโซเชียลทางการของพรรคเอาไว้คอยอธิบายและชี้แจงกับสมาชิกผู้มีสิทธิ์ด้วย อีกทั้งในการใช้สิทธิ์หยั่งเสียงที่พรรค ก็จะมีการตั้งเครื่องลงคะแนนไว้ที่ชั้นล่าง 5 เครื่อง สำหรับอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุอีกด้วย
ส่วนนายธนา ชีรวินิจ ในฐานะ กกต.พรรค ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม กกต.พรรคและเจ้าหน้าที่ด้านไอทีของพรรค และตัวแทนผู้สมัครเข้ารับการหยั่งเสียงทั้ง 3 ราย ได้ประชุมเพื่อกำหนดมาตรการที่สำคัญ โดยหวังให้การหยั่งเสียงเป็นไปอย่างถูกต้องและยุติธรรม โดยวางมาตรการไว้ 2-3 ประการ เพราะเกรงว่าอาจจะมีผู้ไม่หวังดีเข้ามาดำเนินการให้การหยั่งเสียงต้องเสียไป หรือเปลี่ยนแปลงผลให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง โดยหลักเกณฑ์ที่สำคัญที่กำหนดไว้คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ดำเนินการหยั่งเสียงนั้น ทางเจ้าหน้าที่ไอทีจะมีการตั้งระบบที่เซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณเตือนและตัดคะแนนเสียงที่มีความผิดปกติทันที ในกรณีที่มีการใช้สิทธิ์แบบรวดเร็วผิดปกติ กว่ามาตรฐานที่เครื่องจะรองรับได้ และหากว่ามีหน่วยลงคะแนนใด มีการใช้สิทธิ์เกินกว่าที่ตั้งไว้ เช่น หากมีคนใช้สิทธิ์ในหน่วยเกินกว่า 1,000 คน ก็ให้ กกต. พรรคใช้ดุลยพินิจว่ามีความผิดปกติหรือไม่ และจะต้องไปดำเนินการว่าจะให้คะแนนในหน่วยเลือกตั้งนั้น เป็นอย่างไร
“การที่ กกต.พรรคพยายามทำงานอย่างเต็มที่ เพราะว่าปัญหาระบบไอทีเป็นปัญหาที่แก้อีกจุดหนึ่ง ก็จะไปเจออีกจุดหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดเราก็เห็นพ้องต้องกันว่า ระบบที่จะดำเนินการในวันพรุ่งนี้ และก็วันที่ 5 พฤศจิกายน เป็นระบบที่ทุกคนยอมรับได้แล้ว และศูนย์บัญชาการของ กกต.พรรค ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ด้านไอทีจากทุกฝ่าย ก็ได้มามอนิเตอร์ว่า จุดเลือกตั้งไหนที่มีปัญหาหรือความผิดปกติ ก็จะรายงานให้ กกต. พรรคทราบ เพื่อให้มีการพิจารณาตัดสินว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป” นายธนากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวการหาเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันสุดท้าย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะผู้สมัครหมายเลข 1 พร้อมด้วยผู้สนับสนุน อาทิ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรค, นายวิรัช ร่มเย็น กรรมการบริหารพรรค, น.ส.อรอนงค์ กาญจนะชูศักดิ์ นายสามารถ มะลูลีม อดีต ส.ส.กทม. เป็นต้น ได้ลงพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดอำนาจเจริญ
ทั้งนี้ มีอดีต ส.ส.ในพื้นที่ อาทิ นายวิฑูรย์ นามบุตร, นายอิสสระ สมชัย, น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย, นายอภิวัฒน์ เงินหมื่น, นายวุฒิพงษ์ นามบุตร, นายวิทวัส พันธ์นิกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นรองนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เป็นต้น มาคอยให้การต้อนรับ
โดยในเวลา 09.00 น. คณะเดินทางถึงวัดบ้านนาควาย เทศบาลนครอุบลฯ เพื่อกราบสักการะพระประธานในพระอุโบสถ และกราบขอพรจากพระครูโสภณขันตยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัด โดยพระครูอวยพรให้นายอภิสิทธิ์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค และยังอวยพรให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งด้วย นอกจากนี้ยังได้ใช้ไม้พรมน้ำมนต์เคาะศีรษะของนายอภิสิทธิ์ จากนั้นคณะเดินทางถึงโรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) พบปะและปราศรัยต่อสมาชิกชาวพิบูลมังสาหาร
ต่อมาในช่วงบ่าย นายอภิสิทธิ์พร้อมคณะเดินทางถึงจังหวัดอำนาจเจริญ กราบสักการะพระมงคลมิ่งเมือง หรือพระใหญ่ ที่พุทธอุทยาน จากนั้นเดินทางไปยังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ อำนาจเจริญ เขต 2 โดยมีประชาชนเกือบ 1,000 คนมารอฟังการปราศรัย และมีคณะลิเกรำต้อนรับ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้ร่วมรำด้วย กระทั่งเวลา 15.10 น. นายอภิสิทธิ์กลับมาขึ้นเวทีปราศรัยสุดท้ายที่อาคารโอท็อป ภายในปั๊ม ปตท. อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลฯ ซึ่งมีประชาชน 2,000 คนโดยประมาณมาฟังการปราศรัย
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ปราศรัยย้ำทุกเวที เชิญชวนทุกคนร่วมสร้างประวัติศาสตร์ และขอให้โอกาสตนเพื่อทำหน้าที่หัวหน้าพรรคอีกครั้ง
"เรื่องที่กลัวที่สุดในการมาพบปะกับสมาชิกพรรค คือ แม้ทุกคนจะมีรอยยิ้มและมอบกำลังใจให้กัน แต่กลัวสมาชิกพรรคไม่ออกไปเลือกผม เพราะหลายคนอาจคิดว่าผมนอนมา ไม่ต้องไปเลือกก็ได้เป็นหัวหน้าอีกสมัยแน่นอน อยากจะบอกว่าห้ามคิดแบบนี้เด็ดขาด เพราะอาจได้นอนยาว ดังนั้นจึงขอความกรุณาทุกคนโปรดช่วยลงคะแนนสนับสนุนเบอร์ 1 ให้ผมได้เป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง เพื่อจะสานงานด้านต่างๆ ที่ตั้งใจจะทำให้สำเร็จ"
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Abhisit Vejjajiva ว่า "เลือกตั้งหัวหน้าพรรคครั้งนี้ คะแนนผมไม่ได้ทิ้งห่าง... โปรดอย่านิ่งนอนใจ อยากได้อภิสิทธิ์เข้าเส้นชัย เป็นหัวหน้าพรรค ต้องขอสมาชิกพรรคทุกท่านช่วยลงคะแนนให้ อภิสิทธิ์ เบอร์ 1 ได้สองช่องทาง (1) ผ่านแอปพลิเคชัน d-elect ใช้บัตรประชาชนตัวจริง! วันที่ 1 พ.ย.-3 พ.ย. รายละเอียดที่ http://bit.ly/2ES3guY (2) ผ่านหน่วยลงคะแนน ใช้บัตรประชาชนตัวจริง! ใกล้จุดไหนไปที่จุดนั้นได้เลยครับ เช็กรายละเอียดหน่วยเลือกตั้ง http://bit.ly/2CNacXJ *กทม. ภาคกลาง ภาคเหนือ วันที่ 1 พ.ย.61 *ภาคใต้ ภาคอีสาน วันที่ 5 พ.ย.61 กำหนดเวลาลงคะแนนเลือกตั้ง เวลา 08.00-18.00 น. มุ่งมั่นอุดมการณ์ มุ่งหน้าอนาคตไทย #MakeMyMark #ร่วมสร้างใหม่ไปกับมาร์ค #ประชาธิปัตย์ยุคใหม่"
นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครรับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 3 แถลงว่า พอใจในการรณรงค์หาเสียงครั้งนี้ เพราะสมาชิกมีความตื่นตัวที่จะมีส่วนร่วม ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ก็เป็นครอบครัวเดียวกัน จะรวมพลังประชาธิปัตย์นำชัยชนะมาสู่พรรคอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างจุดเปลี่ยนทางการเมืองและจุดเปลี่ยนประเทศไทย ด้วยการเมืองสีขาว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้สมัครรับการหยั่งเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 2 ได้ทำจดหมายส่งถึงสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ในวันที่ 1-5 พ.ย.นี้ จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของบ้านที่ชื่อประชาธิปัตย์ พวกเราทุกคนอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มาอย่างยาวนาน และพวกเราเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ร่วมกัน
ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ในบ้านประชาธิปัตย์หลังนี้ ทุกคนทราบดีว่าสภาพที่เป็นอยู่เป็นอย่างไรบ้าง ตนขอเสนอตัวดูแลบ้านหลังนี้ เพราะมองเห็นปัญหาและแนวทางปรับปรุง ตนเชื่อว่าการทำงานแบบใส่ใจและสัมผัสได้ เป็นทีมเวิร์ก และมีความมุ่งมั่น จะทำให้บ้านประชาธิปัตย์ของเราดีขึ้น แม้จะมีความเหนื่อยมาก และยากลำบากในการปรับปรุงบ้านของเรา ตนจะพยายามให้ถึงที่สุด เพราะต้องการทำให้บ้านเราดีขึ้น เข้มแข็งมากขึ้น และเป็นที่พึ่งของทุกคน
"ทุกคนล้วนมีการเปลี่ยนแปลง แต่บ้านประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยน ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงแล้วครับ เลือกหมอวรงค์เบอร์ 2 เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" นพ.วรงค์ระบุ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |