"บิ๊กตู่” ฉุนถูกโจมตีบิดเบือนว่าต่างประเทศไม่ต้อนรับ ลั่นยิ่งทำให้สู้หนักกว่าเดิม วันนี้ทำเพื่อชาติไม่มีวันท้อ "ประวิตร" ปัด คสช.ไม่เกี่ยว รปช.เดินคารวะแผ่นดิน โยน กกต.-ตร.ไปดูแลไม่ให้เกิดวุ่นวาย "เพื่อแม้ว" ซัด "สุเทพ" โดนด่าเหตุชัตดาวน์กทม.-ตระบัดสัตย์ "ลุงกำนัน" ย้ำกลุ่มอำนาจเก่าทำเป็นขบวนการ นำคนมาตามป่วนเป็นจุดๆ โป๊ะแตก! ก๊วนเดิมเคยป่วน ปชป.ปี 57 มาชูป้ายด่าคนโกหก ขณะที่ "หญิงหน่อย" ขายฝันดันโคราชศูนย์กลาง ศก.อีสาน  มวลชนเชียร์แต่ไก่โห่ "นายกฯ หญิงสุดารัตน์ๆๆ” 
     ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 31 ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวกับนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่จำนวน 500 คน ที่ร่วมจัดกิจกรรม “นักวิทย์รุ่นใหม่ นำไทยไปด้วยกัน” ตอนหนึ่งว่า เราต้องเอาวิทยาศาสตร์มาช่วยคนที่อยู่ในยุค 1.0 ที่ใช้แรงงานอยู่ 2.0 เป็นเครื่องจักรขนาดเล็ก 3.0 เป็นเครื่องจักรขนาดกลาง และพัฒนายุค 4.0 แต่ไม่ใช่ทุกคนจะไปวุ่นวายแต่เรื่องการเมือง เรื่องต่างๆ ที่วุ่นวายในขณะนี้ ซึ่งความสงบเรียบร้อยจะทำให้เกิดความคิดที่ไม่ไขว้เขว ไม่ถูกบิดเบือน จะทำให้เกิดสมาธิในการคิด แต่ถ้าเกิดความวุ่นวาย ก็จะไม่มีสมาธิในการคิดพัฒนาเรื่องต่างๆ ดังนั้นเราต้องคำนึงอยู่เสมอว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอดีตต้องไม่เกิดขึ้นอีกในปัจจุบันและอนาคต อยากเห็นยีนความร่วมมือ
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วิทยาศาสตร์คือความหวังคืออนาคต ทำให้คนเกิดความสงสัยเกิดการเรียนรู้ นี่คือมนุษยชาติที่มีแรงบันดาลใจ มีอารมณ์ ซึ่งตนแม้เป็นนายกฯ แต่ก็มีอารมณ์เหมือนกัน แต่ก็พยายามระมัดระวังอย่างที่สุดในเวทีสาธารณะ 
     "ทุกวันนี้ผมสวมหัวโขน บางเวลาก็สวมพระลักษมณ์ พระราม บางเวลาก็ทศกัณฐ์ บางครั้งก็มีบทผู้ร้ายบ้าง ซึ่งเป็นธรรมดาเพราะทำหลายหน้าที่ แต่จริงๆ แล้วผมเป็นคนใจดี จิตใจดีไม่ใช่ผู้ร้าย" 
     นายกฯ กล่าวอีกว่า บางทีไปต่างประเทศต้องใส่เฝือกมือ เพราะต้องจับมือทั้งวัน แล้วมีคนออกมาโจมตีว่าคนไม่รัก ไม่ต้อนรับ ไม่เข้าใจจริงๆ วันนั้นที่มีรูปออกไปในสื่อโซเชียล รถนำตำรวจ 6-7 คัน เขาให้จอดข้างประตูโรงแรม แต่กลับไปจากที่ประตูหน้า ตนก็ต้องเดินอ้อมไปขึ้น แต่กลับมาบอกกันว่าประเทศเขาไม่ต้อนรับตน มาหาว่าตนกำลังไปหาโรงแรมไปหาที่นอนอยู่ 
    "ก็ช่างเขียนช่างคิดกันจริงๆ ตอนจับมือกันนายกฯฟินแลนด์ ก็มาหาว่ารัฐบาลไปจ้างคนที่มีรูปร่างคล้ายกัน นายกฯ ฟินแลนด์ก็ยังมีคนไปเชื่ออีก แบบนี้ยิ่งที่ให้ผมสู้หนักกว่าเดิม ไม่มีวันท้อแท้ ทำเพื่อชาติประชาชนไม่มีวันท้อแท้จำคำพูดผมไว้" นายกฯ กล่าว 
    ต่อมาก่อน พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางขึ้นห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธตอบแบบถามสื่อมวลชน กรณีการเดินคารวะแผ่นดินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จะนำไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่ จากนั้นสื่อมวลชนสอบถามถึงเรื่องอาการเจ็บมือของนายกฯ และสภาพอากาศ พล.อ.ประยุทธ์ตอบเพียงสั้นๆ ว่า หนาว และมีอาการเจ็บมือเล็กน้อย
    ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีการเดินคารวะแผ่นดินของพรรค รปช. ที่นำโดยนายสุเทพ เป็นวันที่ 6 และพบว่าที่ผ่านมามีคนไปต่อต้านและป่วนการเดินดังกล่าวว่า จะทำอย่างไรได้ เป็นสิทธิเสรีภาพของคนเขา คนเขาไม่ชอบก็ว่า ถ้าชอบก็ไม่ว่า เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่กลับมาสู่วงจรเดิม เพราะเป็นเรื่องของตัวบุคคล เขาก็แค่ไปหาสมาชิก ก็ไม่เห็นจะมีคนเยอะเท่าไหร่
     ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกระทบ คสช.หรือไม่ เพราะการเคลื่อนไหวของนายสุเทพ เหมือนกับสนับสนุน คสช.พล.อ.ประวิตรตอบว่า คสช.ไม่เกี่ยว จะไปเกี่ยวกับนายสุเทพเรื่องอะไร ส่วนเรื่องการหาสมาชิกพรรคของเขา ต้องให้ตำรวจกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปดูว่า ถ้ามันไม่ไหว ก็ไปบอกเขา เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินไปในพื้นที่ที่อาจเกิดความวุ่นวายได้ 
ชัตดาวน์ กทม.เหตุสุเทพโดนด่า
     เมื่อถามว่า จะนำมาสู่การพิจารณาปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ถ้าปลดก็ต้องปลด จะถามทำไม รอดูนายกฯ ว่าง สิ้นเดือน พ.ย. หรือต้นเดือน ธ.ค.ก็ปลด ไม่มีอะไรหรอก 
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสุเทพระบุว่าเป็นฝีมือของกลุ่มอำนาจเก่าอยากกลับมามีอำนาจ เลยมาขัดขวางก่อกวนว่า นายสุเทพจะพูดแก้เกี้ยว ที่เสียหน้าอย่างไรก็ได้ แต่ประชาชนรู้ดี คำพูดมีความน่าเชื่อถือหรือเป็นโมฆบุรุษ การเดินถนนอีกครั้งประชาชนมีภาพจำที่เลวร้ายกับการเป็นแกนนำม็อบชัตดาวน์ประเทศก่อจลาจลขัดขวางการเลือกตั้ง ทำให้ประเทศเสียหายหลายแสนล้านหรือไม่ นายสุเทพเคยประกาศจะไม่เล่นการเมือง ก็เล่น บอกจะไม่ตั้งพรรคการเมือง ก็มาตั้ง อ้างว่าตระบัดสัตย์เพื่อชาติ ไม่รู้ว่าในอนาคตจะตระบัดสัตย์เพื่อใคร หรือเพื่ออะไรอีกหรือไม่ 
     "คำว่ากลุ่มอำนาจเก่าของนายสุเทพ ไม่รู้ว่าหมายถึงกลุ่มใด แต่กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากการชัตดาวน์ประเทศ เป็นกลุ่มที่ถืออำนาจรัฐอยู่ในปัจจุบันหรือไม่ สังเกตจากการมีแกนนำ กปปส.ได้รับการตกรางวัลเข้าไปรับตำแหน่งในรัฐบาลมากมาย ขณะที่พรรคที่มีจุดยืนตรงกันข้ามกับรัฐบาล คสช.ทำอะไรก็ต้องระวัง แต่พรรคของนายสุเทพ ทำอะไรก็ได้ไฟเขียวผ่านตลอดหรือไม่ ดังนั้นการมีคนไปต่อต้านก่อกวน มีห้างไม่ยอมให้เข้า แทนที่นายสุเทพจะโทษคนอื่นต้องสำรวจพฤติกรรมของตัวเองด้วยว่าไปทำอะไรไว้" นายอนุสรณ์กล่าว  
    นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นนิสัยอันถาวรของนายสุเทพ แก้ไขไม่ได้ ตอบมาว่าอำนาจเก่าคือใคร คือจอมพลถนอม จอมพลสฤษดิ์ นายชวน หลีกภัย หรือหมายถึงพรรคเพื่อไทย อย่าตีกินแบบโบราณอย่างนี้ เมื่อไม่ได้อะไรดังใจก็ฟาดงวงฟาดงาไปเรื่อย อยากเดินหาสมาชิกก็ทำไป คนเขาด่าคุณ เขาไม่ให้คุณเข้าห้างฯ มันเกี่ยวกับอำนาจเก่าตรงไหน ทำไมไม่พิจารณาว่าที่เขาว่าคุณโกหกจริงหรือไม่ คุณทำให้คนทำมาหากินเดือดร้อนจริงหรือไม่ คุณมีคนในรัฐบาลหลายคน มีอำนาจมากมาย ก็สั่งให้ไปจัดการกับกลุ่มอำนาจเก่าที่มารบกวนคุณได้ 
    นายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่คน กทม.ที่เคยต้อนรับนายสุเทพในอดีต แต่กลับด่าทอ และไม่เห็นด้วยในตอนนี้ สะท้อนความจริงว่าคุณสุเทพสำคัญตัวเองผิดว่าคนกรุงเทพฯ ชอบและรักคุณสุเทพ คนกรุงเทพฯ เพียงใช้คุณสุเทพเพื่อประโยชน์ชั่วคราวเท่านั้น เมื่อการกระทำดังกล่าวกลับส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้กับคนกรุงเทพฯ และครอบครัวของพวกเขาอย่างแสนสาหัส จึงทำให้เปลี่ยนเป็นความเกลียดชังและความเคียดแค้น อาจคิดเหมือนคุณสุเทพเป็นต้นเหตุของความย่ำแย่ทางเศรษฐกิจ และนำพามาซึ่งรัฐบาลที่บริหารประเทศล้มเหลว มีข้อครหาการคอร์รัปชัน แถมยังจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน 
     ทางด้านนายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่เดินคาราวะแผ่นดิน เป็นวันที่ 6 ถึงกรณีถูกกลุ่มคนต่อต้าน ก่อกวนว่า ยังไม่มีการปรับแผนการรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด ซึ่งพบมีกลุ่มบุคคลดังกล่าว แฝงตัวมาในคราบนักข่าวที่เดินตามขบวนของตน และทันทีที่เห็นว่ามีการก่อกวนเกิดขึ้น ก็จะรีบเข้าไปบันทึกภาพและขอสัมภาษณ์ทันที
    “ทำกันเป็นขบวนการ นำคนมาวางเป็นจุดๆ ผมก็พูดดีๆ ด้วย และบอกคนติดตามว่าอย่าไปตอบโต้ กลุ่มที่ทำตัวเป็นนักข่าว เวลาที่ผมให้สัมภาษณ์ก็จะไม่สนใจ แต่เมื่อทานข้าวเสร็จ ก็จะเข้ามาขอสัมภาษณ์พิเศษ ซึ่งผมก็ปฏิเสธ เพราะไม่ใช่สื่อมวลชนปกติ ผมรู้ว่ากลุ่มอำนาจเก่า พยายามทำทุกวิถีทาง แต่ผมจะทำแบบสุจริต ตรงไปตรงมา” นายสุเทพกล่าว
ก๊วนเดิมตามป่วนกำนัน
    นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีการต่อต้านการลงพื้นที่ของ รปช.เพิ่มขึ้น และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำของพวกกลุ่มอำนาจเก่า ซึ่งคนที่รับจ้างมาแบบนี้ตนจะไม่ให้เกียรติ แต่ก็จะไม่ทำร้าย หรือใช้วิธีรุนแรง 
และจะบอกให้รู้ว่าตนรู้เท่าทัน เป็นการต่อต้านของกลุ่มสมุนบริวาร ซึ่งจะไม่ดำเนินคดี อยากทำไรก็ทำ ตนจะใช้วิธีสงบ สันติ และวันนี้ 31 ตุลาคม เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตนได้ชวนประชาชนมาต่อสู้กับรัฐบาลทรราช วันนี้จึงออกมาเชิญชวนประชาชนมาตั้งพรรคการเมืองเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ให้ทรราชกลับมามีอำนาจ มาทำร้ายประชาชน ทำร้ายชาติอีก ขอยืนยันว่าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ จะไม่ท้อถอย 
     สำหรับการลงพื้นที่วันที่ 31 ต.ค.นี้ มีนายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ม.รังสิต และนายสำราญ รอดเพชร ร่วมขบวน ได้เริ่มต้นเดินจากหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ย่านถนนราชปรารภ ประตูน้ำ บริเวณคลองแสนแสบ และห้างแพลทินัม โซน 1, 2, 3 ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า และถนนเพชรบุรี สี่แยกราชประสงค์ ข้างโรงแรมอินทรา ซอยเพชรบุรี 21 ท่าเรือประตูน้ำ ถนนราชดำริ ห้างบิ๊กซีราชดำริ เกษรพลาซ่า และศาลเอราวัน ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร
     ทั้งนี้ เมื่อมาถึงด้านหน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ ได้มีชายสวมแว่นดำ ยืนชูป้ายข้อความว่า “LIAR LIAR” ซึ่งมีความหมายว่า คนโกหก หลอกลวง ต่อหน้านายสุเทพและคณะ โดยนายสุเทพได้ยกนิ้วโป้งให้ พร้อมถามว่า “เขาจ้างคุณมาเท่าไหร่” ซึ่งชายคนดังกล่าวตอบว่า “เปล่าครับ ผมเป็นประชาชนคนไทย อย่าหลอกลวงประชาชน อย่าเป็นไม้ค้ำยันเผด็จการ” แล้วก็เดินหนีไปโดยไม่มีเหตุวุ่นวายใดๆ
    จากการตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวคือ นายเอก อัตถากร นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และเคยชูป้าย “Respect My vote” ระหว่างการประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2557 
    นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาล คสช.จะเชิญพรรคการเมืองไปหารือก่อนปลดล็อกว่า มองไม่เห็นเหตุผล และนึกไม่ออกว่าจะหารือพรรคการเมืองเรื่องอะไร คสช.และรัฐบาลควรทราบความต้องการของพรรคการเมืองที่เรียกร้องตลอดมาเพื่อให้ คสช.ปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมและไปพบปะประชาชนเพื่อรับฟังความเห็นและจัดทำนโยบาย รวมทั้งให้สามารถสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียได้ ดังนั้น เมื่อ คสช.ทราบความต้องการของพรรคการเมืองส่วนใหญ่แล้ว จึงไม่เห็นความจำเป็นของการเชิญพรรคการเมืองไปให้ความเห็นอะไรอีก 
    นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำกลุ่มคนรุ่นใหม่ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์เตรียมพิจารณาปลดล็อกทางการเมือง ในช่วงปลาย พ.ย. หรือต้นเดือน ธ.ค.ว่า ในส่วนของพรรคการเมืองไม่มีปัญหา เพราะสามารถทำงานได้ทัน และคาดว่าช่วงการปลดล็อกดังกล่าวจะต้องเกิดขึ้นก่อนที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 ธ.ค.61 เพราะเมื่อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ส่วนที่เกี่ยวข้องต้องจัดการเลือกตั้งให้ได้ตามปฏิทินที่กำหนดไว้
    นายวราวุธยังกล่าวถึงกรณีที่นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ลาออกจากชาติไทยพัฒนา และย้ายสังกัดไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยว่า ตนขอให้กำลังใจในการทำงานทางการเมือง นายสิริพงศ์ถือเป็นคนในครอบครัว ดังนั้นอนาคตยังถือว่าทำงานร่วมกันได้ ส่วนการย้ายพรรคตนเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการดูแลในพื้นที่ศรีสะเกษ หรือพื้นที่ภาคอีกสาน เนื่องจากนายอนุรักษ์ จุรีมาศ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นผู้ที่ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน ดังนั้นหากมีบุคคลที่เหมาะสมจะลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ จะพิจารณาส่งสมัคร
ภท.ต้อนรับ"เสี่ยโต้ง"
    ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายสิริพงศ์เดินทางมายื่นใบสมัครสมาชิกพรรค ภท. โดยมีนายสรอรรถ กลิ่นประทุม กรรมการบริหารพรรค ภท., นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค และนายวัชรพงศ์ คูสุวรรณ อดีต ส.ส.สระบุรี ให้การต้อนรับ พร้อมสวมเสื้อแจ็กเกตพรรค ภท.ให้ด้วย
    นายสรอรรถกล่าวต้อนรับตอนหนึ่งว่า วันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยติดภารกิจต่างจังหวัด จึงได้มอบหมายให้พวกเรามาต้อนรับ ซึ่งขอต้อนรับคนรุ่นใหม่เข้าสู่ครอบครัวภูมิใจไทย ยินดีที่ได้ร่วมงาน หวังว่าจะมาร่วมกันสร้างสีสันให้กับคนไทย และเป็นประโยชน์ให้กับประเทศต่อไป
    นายสิริพงศ์กล่าวว่า ขอขอบคุณที่พรรคภูมิใจไทยให้โอกาส การร่วมงานครั้งนี้ไม่มีข้อต่อรองใดๆ ซึ่งตนจะลงสมัคร ส.ส.ในระบบเขต จ.ศรีสะเกษ โดยจะช่วยงานในการหาผู้สมัครใน 2 จังหวัด คือศรีสะเกษและอุบลราชธานี ส่วนเนื้องานจะเน้นในเรื่องการทำกีฬาในจ.ศรีสะเกษ เป็นเมืองกีฬาเหมือน จ.บุรีรัมย์ 
    อย่างไรก็ตาม ทางพรรคยังได้ต้อนรับ น.ส.เพรชาพร ภูมิรัตนประพิณ นายกเทศมนตรีตำบลคอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ที่จะลงเลือกในระบบเขต 6 ชัยภูมิ อีกด้วย
    นายสรอรรถกล่าวถึงกรณีที่หลายส่วนมองว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคแบบกั๊กๆ ไม่เลือกฝั่งใดระหว่างทหารและการเมืองเก่าว่า ไม่เป็นความจริง เรายึดหลักการเมืองแบบภูมิใจไทย เราต้องการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าภูมิใจไทยจะได้ ส.ส.มากน้อยแค่ไหน แต่ขอให้ดูหลังเลือกตั้งจะดีกว่า 
     นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข จะย้ายไปร่วมงานกับพรรค ชทพ.ว่า ไม่เป็นความจริง คงมีใครปล่อยข่าว แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ในกลุ่มสามมิตรทราบดี กระแสความนิยมของนายปรีชานั้นก็ดีมาก เพราะทำงานใกล้ชิดประชาชนมาโดยตลอด รวมไปถึงสมาชิกกลุ่มสามมิตรทุกคนก็กระแสดี เพราะลงพื้นที่พบปะช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอดเช่นกัน ส่วนกระแสความนิยมของพรรคพลังประชารัฐยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี 
    ส่วนนายปรีชากล่าวปฏิเสธข่าวย้ายไปอยู่พรรคชทพ.ว่า ไม่เป็นความจริง ตนยังอยู่กับกลุ่มสามมิตรเพื่อเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งอย่างแน่นอน ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการรอ กกต.รับรองการตั้งพรรค พปชร.ให้เรียบร้อยก่อน กลุ่มสามมิตรจึงจะได้เข้าไปร่วมอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีรัฐมนตรีและอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยมาร่วมอีกหลายคน เพราะมั่นใจนโยบายของรัฐบาล และจะมีนโยบายดีๆ ให้กับประชาชนอีกมาก
    เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ จ.นครราชสีมา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย, นายภูมิภัทร ลีลาปัญญาเลิศ บุตรชายคุณหญิงสุดารัตน์, นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ประธานภาคอีสาน, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมช.มหาดไทย,  นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค พท. พร้อมด้วยอดีต ส.ส.นครราชสีมา อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง, นายศรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ, นายโกศล ปัทมะ, นายสุชาติ ภิญโญ รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เช่น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด อดีตรองโฆษกพรรค พท. ที่จะผันตัวเองมาลงสมัครรับเลือกตั้งเขต 1 นครราชสีมา เดินทางมาสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี มีชาวโคราชให้การต้อนรับนับร้อยคน พร้อมตะโกนว่า “นายกฯ หญิงสุดารัตน์ๆๆๆ”
"หน่อย"ขายฝันคนโคราช
    จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์และคณะเดินแจกจ่ายใบสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยทักทายประชาชนที่ตลาดแม่กิมเฮง ได้จับจ่ายซื้ออาหารและผักผลไม้ เช่น ผักหวาน คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า จะซื้อไปแกงทำบุญให้แม่ เนื่องจากวันนี้เป็นวันครบรอบ 10 ปีที่คุณแม่เสียชีวิต ซึ่งคุณแม่ชอบแกงผักหวานมาก และที่มาลงพื้นที่โคราชเป็นที่แรก เพราะเป็นชาวโคราช จากนั้นแวะทานมื้อเที่ยงที่ขนมจีนน้ำยาประโดกเจ้าประจำที่ทานมากว่า 10 ปี ชื่อร้านยายเป้ากระเด้าหม้อ ระหว่างทางมีประชาชนมารอทักทายและมอบดอกกุหลาบสีแดง
    ต่อมาเวลา 13.40 น. คุณหญิงสุดารัตน์เดินทางมาที่โรงแรมลีโอซอ ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย พบปะกับประชาชน ได้กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า ขอสืบสานปณิธานของพ่อ ที่เป็นอดีต ส.ส.นครราชสีมา ทุ่มเททำงานมาโดยตลอด โคราชคือประตูสู่อีสาน อะไรที่เป็นอุปสรรคที่จะขัดขวางความเจริญเราจะต้องแก้ไข จะทำให้โคราชมีการขนส่งที่ดี เป็นศูนย์กลางท่าเรือทางบกของประตูอีสาน จะต้องเชื่อมทุกเส้นทางไปยังแหลมฉบัง และจะต้องทำให้โคราชเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา แต่เราต้องมาช่วยกันสมาชิกพรรคต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะแก้ไขปัญหาร่วมกัน จากนี้เราจะทำให้อีสานเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพ และเป็นฐานการผลิตอาหารที่จะส่งไปทั่วโลก นโยบายที่ผ่านมาเราทำไว้ดี ซึ่งเรารู้ว่าเราจะทำอย่างไรให้สิ่งดีๆ เหล่านั้นกลับคืนมา ทำให้ความสุขของคนไทยกลับคืนมาให้ได้
     จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ได้แนะนำอดีต ส.ส.นครราชสีมาและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา รวมทั้งอดีต ส.ส.อีสานหลายจังหวัดที่เดินทางมาร่วมให้กำลังใจ
    คุณหญิงสุดารัตน์ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุเลือกมาเปิดตัวที่ จ.นครราชสีมาเป็นจังหวัดแรกเพราะ 1.เป็นลูกหลานคนโคราช เลือดเนื้อเชื้อไขโคราช เป็นหลานย่าโมโดยแท้ 2.วันนี้ครบ 10 ปีที่คุณแม่จากไป และเดือนหน้าครบ 4 ปีที่คุณพ่อจากไป จึงถือโอกาสมาทำบุญที่วัดแจ้งนอก และถือโอกาสมารับสมัครสมาชิกในพื้นที่ เท่าที่พูดคุยชาวบ้านหลายคนมากอด มาร้องไห้ ถือเป็นความทุข์ยากลำบากของประชาชนด้านเศรษฐกิจ
     เมื่อถามถึงการจัดสรรตัวผู้สมัครลงรับสมัครทั้ง 14 เขต คุณหญิงสุดารัตน์ยอมรับว่า ขณะนี้ยังไม่ลงตัว เพราะการแบ่งเขตยังไม่ชัดเจน ซึ่งมีผู้พยายามเสนอการแบ่งเขตในรูปแบบใหม่นอกเหนือจาก 3 แบบที่ กกต.เสนอไว้ ซึ่งอาจจะขัดกับรัฐธรรมนูญ เพราะทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ และทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก อดีต ส.ส.ของพรรคได้ไปยื่นร้องต่อ กกต.เพื่อให้ กกต.ทบทวนการแบ่งเขตดังกล่าวแล้ว
    เมื่อถามถึงกรณีที่อดีต ส.ส.นครราชสีมาย้ายไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ จะมาดึงคะแนนของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ประชาชนมีความคิดเป็นของตัวเอง รู้ว่าจะเลือกใครที่จะทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น ส่วนตัวบุคคลที่ย้ายไปก็ไม่ใช่ปัญหา เราเคยโดนสึนามิเมื่อปี 2549 มาแล้ว ตอนนั้นออกไปครึ่งหนึ่ง ยังอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ยืนยันว่าวันนี้เราพร้อมสู้ 
    นายประเสริฐ จันทรรวงทอง หัวหน้าทีมโคราช กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ กกต.แบ่งเขตการเลือกตั้งอย่างเป็นธรรม ไม่ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบต่อพรรคใดพรรคหนึ่ง 
     ที่สำนักงาน กกต. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ พร้อมด้วยนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย และ ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยทธ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือถึงประธาน กกต.เพื่อสอบถามถึงรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่กทม. ที่ไม่มีความเหมาะสมในเรื่องของการแบ่งพื้นที่ จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็ว.