ต้องบอกว่า 1-2 วันนี้ คนกรุงเทพฯ เริ่มได้รับบรรยากาศลมหนาวมาเป็นกระสายบ้าง หลังจากช่วงต้นสัปดาห์ยังคงมีอากาศร้อนอบอ้าวอยู่ ซึ่งล่าสุด “กรมอุตุนิยมวิทยา” ก็พยากรณ์อากาศ สำหรับคนกรุงในช่วงวันที่ 31 ต.ค.-2 พ.ย. ว่า อากาศใน กทม.จะเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส รวมทั้งมีหมอกในช่วงเช้าด้วย ...๐ แม้อากาศเย็นลงบ้าง แต่ดูเหมือน “บรรยากาศทางการเมือง” กลับร้อนระอุมากขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อว่าหลัง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประชุมกับพรรคการเมือง เรื่องการ ปลดล็อกเต็มสูบ ก็เชื่อว่าน่าจะดุเด็ดเผ็ดมันส์กว่านี้แน่นอน ...๐ ดูง่ายๆ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยถึงกับต้องลงทุนไปกราบสักการะขอพรอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พร้อมใช้คำขวัญ "ลูกอีสาน หลานย่าโม" โดยอ้างอิงจากบิดา “สมพล เกยุราพันธุ์” ที่เคยเป็น ส.ส.นครราชสีมาเมื่อปี 2512!!! ทั้งที่ร้อยวันพันปี ชาวอีสานและชาวโคราชแทบไม่เคยเห็นหน้าคุณหญิงหน่อยซักเท่าไหร่ แหม! ก็ การเมืองนี่อะไรที่มันเป็นประโยชน์เข้าตัวได้ ไม่ว่ามันจะอยู่ลึกสุดติ่งขนาดไหนก็ต้องขุด ต้องลาก ต้องโยงมาให้เกี่ยวกับตัวให้ได้ ยิ่ง “ลุงตู่” ประกาศตัวเป็นลูกโคราชมาตลอด หญิงหน่อยที่จะเป็นหนึ่งในสามรายชื่อชิงนายกฯ ก็ ต้องประกาศตัวเป็น “ลูกสาวแม่ย่าโม” กันบ้างจริงไหม ...๐ ไม่ใช่มีแค่เพื่อไทย (พท.) ที่ร้อนฉ่า “พรรคชาติไทยพัฒนา” (ชพน.) ก็ไม่แพ้กัน แม้จะเงียบๆ แต่การลาออกของ “เสี่ยโต้ง” สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ กลุ่มยังบลัดที่เดิมถูกวางตัวเป็น “เลขาธิการพรรค” ต้องระเห็จไปซบ “ภูมิใจไทย” ของเสี่ยหนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” นั้น ก็สะท้อนการเมืองไทยว่า เพลานี้การเมืองก็ยังอยู่ในมือของบรรดา “เฒ่าชะแล แก่ชรา” ตามวังวนเดิมๆ ไม่ว่าจะเกิดรัฐประหารและการเมืองที่โหยหาประชาธิปไตยมา 4-5 ปีแล้วก็ตาม งานนี้ที่หวังกันว่าหลังการเลือกตั้งในปีหน้าจะได้ ”คนหน้าใหม่-คนรุ่นใหม่” มาจำนวนมากนั้น สุดท้ายก็คงเป็นเพียงแค่ “ผักชีโรยหน้า” เป็นกระสายเท่านั้นแล ...๐ นี่ก็ร้อนอย่างเงียบๆ อีกเช่นกัน สำหรับ “พรรคอนาคตใหม่” ของ “ไพร่หมื่นล้าน” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเรียกว่าถูกใจวัยโจ๋และคนโซเชียล กันอย่างมาก เพราะใช้การตลาดยุค 4.0 ไม่ต่างจากยุค “อัศวินคลื่นลูกที่ 3” ใช้ก่อนก้าวเข้าเป็นนายกฯ คนที่ 23 เมื่อปี 2544 แต่ก็อาจจะสะดุดหัวทิ่มได้ เพราะ ล่าสุด “ใจ อึ๊งภากรณ์” นักเคลื่อนไหวทางวิชาการและการเมือง ลูกชาย “ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์” อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติและอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขียนบทความเรื่อง "แรงงานไม่ควรหลงเลือกนายใหม่ในรูปแบบพรรคอนาคตใหม่" ชำแหละภาพ “ธนาธร” แบบไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว ซึ่งล่าสุด “ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี” แกนนำ อนค.ออกมาตอบโต้ แต่ก็ถูก “ใจ อึ๊งภากรณ์” สอนไปอีกรอบหนึ่ง ใครอยากอ่านถลกหนังไพร่แบบไม่เหลือชิ้นดีก็เข้าไปอ่านได้ที่ https://turnleftthai.wordpress.com …๐ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็น่าจะมาคุยาวๆ ไปถึงวันที่ 11 พ.ย. ที่จะรู้ผลแน่ชัดว่า “ไผเป็นไผ” กันแน่ และจะเกิดกรณีซ้ำรอย “กลุ่ม 10 มกรา” อีกรอบหรือไม่อย่างไร เพราะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผมครั้งนี้ เรียกว่าร้อนเสียจริงๆ ซึ่งในวันที่ 1-3 พ.ย.ก็จะเปิดให้สมาชิกหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าผ่านแอปพลิเคชันได้ ซึ่ง “พลทหารพริษฐ์ วัชรสินธุ์” หรือ "ไอติม" หลานชายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. ที่ได้ปลดประจำการ ก็ประกาศว่างานแรกทางการเมืองก็คือการเลือกหัวหน้านี่เอง แหม! ร้อนกันจริงๆ ...๐ พูดถึง ปชป.ไม่เอ่ยถึง “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” (รปช.) ที่ “จตุพร พรหมพันธุ์” วิเคราะห์ไว้หลายครั้งว่าเป็นยุทธศาสตร์แยกกันตีก็ไม่ได้ เพราะดูเหมือนช่วง 2-3 วันนี้ กิจกรรมคารวะแผ่นดินของ “กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ” โดนลองของและทดสอบมาต่อเนื่อง โดยมีตั้งแต่ระดับเจ๊ๆ อดีตนักข่าว จนล่าสุดถึงกับเป็นขาประจำที่เคยประท้วงที่พรรค ปชป. 2557 มาแล้ว ซึ่ง “กำนัน” ก็โชว์ความเก๋าทางการเมือง เมื่อยกนิ้วโป้งให้พร้อมถาม “เขาจ้างคุณมาเท่าไหร่” เรียกว่าใครต่อใครฟังแล้วสะดุดจริงๆ ...๐ กระแสแรป “ประเทศกูมี” เริ่มซาลง (หรือเปล่า) ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ดูเหมือน “บิ๊กป้อม” ยังติดใจอยู่ จึงให้ “พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์” ออกมาแถลงจี้กรรมการสิทธิฯ ทั้งหลายตรวจสอบกรณีการใช้เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มาประกอบ MV ขณะที่ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็ยิงคำถามที่น่าคิดว่า ในเมื่อบอกไม่มีอคติทางการเมืองใดๆ ก็ควรทำเพลงเชิญชวนท่องเที่ยว-อนุรักษ์ไทยบ้างได้ไหม อ้าว แรปเปอร์ส่งเสียงหน่อย โย่ๆ ...๐