31 ต.ค. 61 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่จำนวน 500 คน ร่วมจัดกิจกรรม “นักวิทย์รุ่นใหม่ นำไทยไปด้วยกัน” พร้อมยื่นสมุดปกขาวการวิจัยขั้นแนวหน้าต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยนายกฯได้กล่าวให้กำลังใจและการสนับสนุนกลุ่มนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ว่า วิทยาศาสตร์จะเป็นเครื่องมือช่วยให้รายได้ประชาชนในประเทศสูงขึ้น ด้วยการนำวัตกรรมทางเทคโนโลยีไปเพิ่มมูลค่าสินค้า หากประเทศไม่พึ่งพาวิทยาศาสตร์ในการขับเคลื่อนรายได้ของประชาชนก็จะน้อยลง ทั้งนี้ต้องเอาวิทยาศาสตร์ไป เป้าหมายคือเราต้องเอาวิทยาศาสตร์มาช่วยคนที่อยู่ในยุค 1.0 ที่ใช้แรงงานอยู่ 2.0 เป็นเครื่องจักรขนาดเล็ก 3.0 เป็นเครื่องจักรขนาดกลาง และพัฒนายุค 4.0

ทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกคนจะไปวุ่นวายแต่เรื่องการเมือง เรื่องต่างๆที่วุ่นวายในขณะนี้ ซึ่งความสงบเรียบร้อยจะทำให้เกิดความคิดที่ไม่ไข่วเขว ไม่ถูกบิดเบือนจะทำให้เกิดสมาธิในการคิด แต่ถ้าเกิดความวุ่นวายก็จะไม่มีสมาธิในการคิดพัฒนาเรื่องต่างๆ ดังนั้นเราต้องคำนึงอยู่เสมอว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอดีตต้องไม่เกิดขึ้นอีกในปัจจุบันและอนาคตอยากเห็นยีนความร่วมมือ วิทยาศาสตร์คือความหวังคืออนาคต ทำให้คนเกิดความสงสัยเกิดการเรียนรู้ นี่คือมนุษยชาติที่มีแรงบันดาลใจ มีอารมณ์ ซึ่งตนแม้เป็นนายกฯแต่ก็มีอารมณ์เหมือนกันแต่ก็พยายามระมัดระวังอย่างที่สุดในเวทีสาธารณะ 

ส่วนความเท่าเทียมในสังคมนั้น สิ่งเดียวที่จะทำให้เกิดขึ้นได้คือกฎหมาย ถ้าทุกคนเคารพกฎหมายก็จะไม่เกิดปัญหาทางกฎหมาย แต่ถ้าทุกคนตั้งใจทำความผิดต่อต้านการทุกวันกฎหมายก็ไม่มีประโยชน์ นึกว่าตนอยากออกกฎหมายหรือ กฎหมายเดิมก็มีอยู่มากแต่ท่านก็ไม่เชื่อฟังกฎหมายจึงออกตามมา เพราะว่าไร้ระเบียบก็ต้องมีกฎหมายเพิ่ม แต่กฎหมายใหม่ต้องไม่สร้างภาระให้ประชาชน อย่าคิดว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายเพื่อควบคุมประชาชนจำกัดสิทธิเสรีภาพ วันนี้เอาแค่การทำผังเมืองจะเขียนได้ดีหรือไม่ตราบใดที่ประชาชนในพื้นที่ไม่ยืนยอม และคงบังคับการไม่ได้เพราะเป็นประเทศประชาธิปไตย แล้วจะเกิดได้หรือไม่ผังเมืองดีดี สิ่งต่างๆเหล่านี้คือยีน ยีนของคนไทยดีอยู่แล้วแต่ทำอย่างไรยีนแห่งความร่วมมือจะเกิดขึ้น
 
"ทุกวันนี้ตนสวมหัวโขน บางเวลาก็สวม พระลักษณ์ พระราม บางเวลาก็ทศกัณฐ์  บางครั้งก็มีบทผู้ร้ายบ้างซึ่งเป็นธรรมดาเพราะทำหลายหน้าที่ แต่จริงๆ แล้วผมเป็นคนใจดี จิตใจดีไม่ใช่ผู้ร้าย" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
 
นายกฯ กล่าวว่า บางทีไปต่างประเทศต้องใส่เฝือกมือเพราะต้องจับมือทั้งวัน แล้วมีคนออกมาโจมตีว่าคนไม่รักตน ไม่ต้อนรับตนไม่เข้าใจจริงๆ วันนั้นที่มีรูปออกไปในสื่อโซเชียลรถนำตำรวจ 6-7 คัน เขาให้จอดข้างประตูโรงแรม แต่กลับไปจากที่ประตูหน้า ตนก็ต้องเดินอ้อมไปขึ้น แต่กลับมาบอกกันว่าประเทศเขาไม่ต้อนรับตน มาหาว่าตนกำลังไปหาโรงแรมไปหาที่นอนอยู่ ก็ช่างเขียนช่างคิดกันจริงๆ ตอนจับมือกันนายกฯฟินแลนด์ ก็มาหาว่ารัฐบาลไปจ้างคนที่มีรูปร่างคล้ายกับนายกฯฟินแลนด์ ก็ยังมีคนไปเชื่ออีกแบบนี้ยิ่งที่ให้ตนสู้หนักกว่าเดิม ไม่มีวันท้อแท้ทำเพื่อชาติประชาชนไม่มีวันท้อแท้จำคำพูดตนไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางขึ้นห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเรื่องอาการเจ็บมือของนายกฯ และสภาพอากาศ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบเพียงสั้นๆว่า หนาว และมีอาการเจ็บมือเล็กน้อย.