มันกลับมาอีกแล้วหรือ?
ปฏิบัติการตามล่าคนเห็นต่างชักจะถี่
การเดินคารวะแผ่นดินของ "กำนันสุเทพ" กำลังจะกลายเป็น การเดินให้ฝ่ายตรงข้ามด่าทั้งแผ่นดินไปเสียแล้ว
ปล่อยไปเรื่อยๆ ด่าทุกวัน มันจะเกิดการปะทะทางอารมณ์แล้วขยายเป็นความรุนแรงได้หรือเปล่า?
ย้อนกลับไปในอดีต นักการเมืองเคยตกอยู่ในสภาวะไปไหนไม่ได้ เพราะมีการรุมด่า
โดนกันทั่วหน้า
"ทักษิณ-หญิงอ้อ" เคยโดนแบบเบาๆ ถูกด่าในห้าง
"อภิสิทธิ์-สุเทพ" หนักกว่าเยอะ ไล่ทุบรถที่กระทรวงมหาดไทย
เรียกว่าไล่ฆ่าคงไม่ผิดนัก
แล้วลองหลับตานึกภาพดู จะมีการหาเสียงเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ หากผู้สมัครรับเลือกตั้งลงพื้นที่ไม่ได้ เพราะถูกอีกฝ่ายไล่ด่า
มันคือประชาธิปไตยหรือ
ที่ต้องดักคอไว้เช่นนี้เพราะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ "กำนันสุเทพ" วันสองวันนี้ ปรากฏว่ากองเชียร์จากฝั่งเสื้อแดง ฝ่ายระบอบทักษิณ พากันชอบใจ
แชร์กันรัวในโลกออนไลน์
ไหนบอกเป็นฝ่ายประชาธิปไตย
ฝ่ายจุดไฟให้เกิดความขัดแย้งเสียมากกว่ากระมัง
ที่น่ากังวลคือ เมื่อตามด่ากันเยอะๆ ต่อไปอีกฝ่ายเอาคืน การเผชิญหน้าจะตามมา
ทีนี้ก็ย้อนกลับไปสู่วงจรเดิม
ความเห็นที่แตกต่างในสังคมประชาธิปไตยนั้นถือเป็นสิ่งดีงาม
แต่เห็นต่างแล้วก่อความขัดแย้ง มันคือพฤติกรรมอันเลวทราม
เป็นภัยอันใหญ่หลวงต่อระบอบประชาธิปไตย
ฉะนั้น กิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมืองนับจากนี้ไป ไม่ว่าจะเป็นขั้วไหน ควรปราศจากการยั่วยุ ไล่ล่า
"บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ พูดไว้ก่อนหน้านี้ก็ชัดเจนดี "การเมืองไม่เป็นต้นเหตุแห่งการจลาจล มันก็ไม่นำไปสู่การปฏิวัติ...ระยะหลังเกิดเพราะการเมืองทั้งสิ้น"
ก็อย่ารนหาที่ให้ทหารยึดอำนาจอีก
ทั้งฝ่ายการเมือง และมวลชน พิจารณาตัวเองเสียบ้าง ว่าเป็นต้นเหตุให้ทหารรัฐประหารหรือไม่
อย่าเอาแต่ไล่ล่ากัน พอเกิดเหตุวุ่นวายก็ดีแต่โทษคนอื่น
โตๆ กันแล้ว!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |