"บิ๊กบัว" เผยผลสอบข้อเท็จจริงพบมีมูล 5 ตำรวจช่วย "เอมี่" พ้นข้อหาค้ายาไอซ์ เตรียมตั้งกรรมการสอบวินัย ยันถ้าเข้าข่าย ม.157 ฟันแน่ เตรียมสั่งย้ายพ้นพื้นที่เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีตำรวจ 5 นายเข้าไปมีส่วนช่วยเหลือให้ น.ส.อาเมเรีย หรืเอมี่ จาคอป อดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 หลุดพ้นคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด คาดว่าได้ไม่เกินวันพรุ่งนี้ เบื้องต้นได้รับรายงานทางวาจาว่า พบความผิดปกติจากการเบิกความ เห็นควรให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยตำรวจ 5 นาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์กล่าวว่า ก็มีโอกาส ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องกังวล จะทำงานอย่างยุติธรรมแน่นอน เพราะเรื่องยาเสพติดเป็นธรรมดาไม่มีใครอยากช่วยเหลืออยู่แล้ว ในเบื้องต้นมีสถานีตำรวจนครบาล 2 แห่งที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีพื้นที่ชัดเจนคือ พื้นที่เกิดเหตุ สน.สายไหม ส่วนทางพนักงานอัยการจะมีการเสนอขอตัวผู้เกี่ยวข้องมาซักถามอย่างไรนั้น ให้ทางพนักงานอัยการเป็นผู้ดำเนินการในส่วนทางอัยการ ตนจะดำเนินการในส่วนของตำรวจ หากพบว่ามีความผิดทางอาญาด้วยก็จะดำเนินคดี
"ส่วนมีมูลความผิดในประเด็นไหนบ้างนั้น น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการให้การและการเบิกความที่แน่ชัด ส่วนจะให้เสนอย้ายตำรวจที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ รวมถึงจะตั้งคณะกรรมการชุดใดมาพิจารณาต่อนั้น ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดดังกล่าวก่อน เนื่องจากยังอยู่ระหว่างรอรับผลสรุปมาตรวจสอบ"
มีรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รรท.รอง ผบช.น. พร้อมคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และอธิบดีอัยการคดียาเสพติด ร่วมประชุมสรุปผลการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีได้รับร้องเรียนว่าคดียาเสพติดซึ่งมีนายปุณยวัจน์ หิรัณย์เตชะ และ น.ส.อาเมเรีย ตกเป็นผู้ต้องหา มีตำรวจหลายฝ่ายร่วมกันทุจริตในการช่วยเหลือให้ น.ส.อาเมเรียหลุดพ้นคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดในชั้นศาล การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เริ่มเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา มีคณะกรรมการ 11 คน ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ชุดจับกุม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และตำรวจที่ไปจับกุมคดียาเสพติดเพื่อช่วยลดโทษให้ผู้ต้องหาตามมาตรา 100/ 2 พ.ร.บ.คดียาเสพติด
สรุปผลการตรวจสอบพบว่า การดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมไม่เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของตำรวจ ทำให้มีความบกพร่องหลายประเด็น แม้ยังไม่พบการกระทำผิด แต่มีข้อเท็จจริงที่ปิดบัง จึงเสนอให้ ผบช.น.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย หากพบการกระทำความผิดในชั้นกรรมการวินัยก็สามารถที่จะดำเนินคดีได้ หากผิดไม่ร้ายแรงก็จะลงโทษทางวินัย รวมถึงเสนอให้ย้ายไปช่วยราชการ เพื่อไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน โดยพบว่าตำรวจ 5 นายยศสูงสุดคือร้อยตำรวจเอก
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้าร้องเรียน พล.ต.ท.ชาญเทพ ว่าคดียาเสพติดซึ่งมีนายปุณยวัจน์ หิรัณย์เตชะ และ น.ส.อาเมเรีย หรือเอมี่ จาคอป ตกเป็นผู้ต้องหา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายฝ่ายร่วมกันทุจริตในการช่วยเหลือให้ น.ส.อาเมเรียหลุดพ้นคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดในชั้นศาล โดยตำรวจที่พัวพันสังกัด สน.สายไหม และ สน.ศาลาแดง ในเบื้องต้นทราบว่าผู้ที่ร่วมกระทำผิด มีพลเรือนไม่ต่ำกว่า 4 คน ตำรวจ 2 คนขึ้นไป โดยแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน
ด้านนายสรัลชา ศรีชลวัฒนา เลขาธิการสภาทนายความแห่งประเทศไทย ก็แจ้งว่า ทางสภาทนายความได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการพาดพิงว่าทนายความรายหนึ่งเข้าไปร่วมขบวนการช่วยเหลือผู้ต้องหา ซึ่งหากมีการกระทำผิดตามมรรยาททนายความจริง ก็จะลบชื่อออกจากสารบบการเป็นทนายความ
มีรายงานด้วยว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นผู้ว่าความแก้ต่างคดีให้แก่ น.ส.อามาเรีย จาคอป จำเลยคดีมียาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และเพื่อเสพ ต่อมาศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษาจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท ในข้อหาเสพยาเสพติด โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี และให้ยกฟ้องความผิดฐานจำหน่ายยาไอซ์ เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |