30 ต.ค.61- ศาสตราจารย์ เกษียร เตชะพีระ โพสต์กลอนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Kasian Tejapira ระบุว่า
สุเทพเป็นแพะรับบาปความไร้เดียงสาทางการเมืองของคนชั้นกลางกรุงเทพฯ
ลักษณะร่วมของมวลมหาประชาชนกปปส.ที่ออกมาเป่านกหวีดโดยเชื่อตามคำเรียกร้องเชิญชวนของคุณสุเทพว่าจะสร้าง "ประชาธิปไตยสมบูรณ์" ให้เมื่อปลายปี ๒๕๕๖ - ต้นปี ๒๕๕๗ คือ:ตื่นตัวทางการเมืองเฉียบพลัน ไม่ค่อยเคยมีประสบการณ์ทางการเมืองโดยตรงด้วยตัวเองมาก่อน จึงคาดหวังว่าด้วยการลงขันทุ่มเทเรี่ยวแรงขนาดนี้จะบรรลุชัยชนะสุดท้ายแก้ไขได้ทุกปัญหาการเมืองในไทยได้อย่างเบ็ดเสร็จ (ม้วนเดียวจบ) ด้วยการต่อสู้เพียงครั้งเดียวรอบเดียวรวดเดียว
ซึ่งจะว่ากันไปก็ไม่ต่างจากบุคลิกทางการเมืองของคนชั้นกลางกรุงเทพฯที่เข้าร่วมขบวนนักศึกษาประชาชนสมัย ๑๔ ตุลาฯ ๒๕๑๖ ที่ครูเบ็น แอนเดอร์สันได้วิเคราะห์ไว้ในบทความลือชื่อเรื่อง "บ้านเมืองของเราลงแดงฯ" (Withdrawal Symptoms)
และก็ไม่ต่างจากบุคลิกทางการเมืองของคนชั้นกลางกรุงเทพฯสมัยม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยของคุณสนธิยึดทำเนียบรัฐบาลเมื่อปี ๒๕๕๑
ดังนั้นเมื่อผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นไปดังคำมั่นสัญญาของคุณสุเทพ ณ กปปส. คือแทนที่จะได้ "ประชาธิปไตยสมบูรณ์" กลับได้ "ระบอบเผด็จการทหารที่นิยมอำนาจและด้อยความสามารถทางเศรษฐกิจที่สุด" เมื่อเทียบกับประวัติเผด็จการทหารไทยที่ผ่านมา พวกเขาย่อมผิดหวังเป็นธรรมดา
แต่จะให้โทษใครเล่า ในฐานที่พวกเขาร่วมมือกับ กปปส.ของคุณสุเทพ กรุยทางให้ คสช. มาด้วยตัวเอง (จนถึงแก่ลุงกำนันจัดปาร์ตี้ลายพรางเฮฮาอย่างสะสาแก่ใจหลังรัฐประหาร)?
แน่นอนว่า พวกเขาย่อมเทบาปกรรมทั้งหมดให้แพะสุเทพ เพราะสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาจะโทษคือความไร้เดียงสาทางการเมืองของตัวเอง
และเพราะคนชั้นกลางกรุงเทพฯแต่ละรุ่นไม่เคยโทษตัวเองเลยในความผิดพลาดล้มเหลวของฝันการเมืองกลางวันแสก ๆ แต่ละครั้ง ในที่สุดพวกเขาจึงไม่เคยเรียนรู้บทเรียนทางการเมืองจากความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าของตัวเอง เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าตัวเองผิด
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |