ว่าด้วยความตายและการเปลี่ยนแปลง


เพิ่มเพื่อน    

      ฮื่ออ์อ์อ์...ต้องถือเป็นเรื่องช็อกโลก ช็อกสังคมไทย พอสมควร สำหรับการเสียชีวิตของท่าน เสี่ยวิชัย คิงเพาเวอร์ ที่จู่ๆ เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว ดันร่วงผล็อยๆจากฟากฟ้าซะยังงั้น ทิ้งอุทาหรณ์ สอนใจ ไว้ให้ใครต่อใครได้สำนึกและตระหนัก ว่าไม่ว่าผู้ดี มีจน เศรษฐี ยาจก ผู้มีฤทธิ์ มีอำนาจ หรือไม่มีอะไรเอาเลยก็แล้วแต่ ล้วนแล้วแต่หนีไม่พ้น ความตาย ไปด้วยกันทั้งนั้น...

                                                           ---------------------------------------------

      และไม่ใช่แค่เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของ เสี่ยวิชัย เท่านั้น...ขนาดเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 เพิ่งซื้อ เพิ่งแกะกล่อง มาหมาดๆ ใช้งานได้เพียงแค่ 2 เดือน อย่างเครื่องบินของสายการบิน ไลออนแอร์ อินโดนีเซีย จู่ๆ ก็ยังร่วงจากฟากฟ้าเอาดื้อๆ หลังกรณี เสี่ยวิชัย แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง จำนวนผู้สูญเสียเห็นว่าปาเข้าไปร่วม 200 ชีวิต ตอกย้ำให้ได้เห็นๆ กันอีกดอก ว่านี่แหละหนาความตาย ความเปลี่ยนแปลง ช่างเป็นอะไรที่ไม่เข้าใคร-ออกใคร ไม่ได้เลือกสถาน-กาล-เวลา ถึงที่ตายย่อมต้องตายถึงจังหวะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้...

                                                          ------------------------------------------------

      อย่างไรก็ตาม...สำหรับเครื่องบินส่วนตัวของผู้ที่ใครต่อใครในบ้านเราเรียกขานกันในนาม นายใหญ่ นั้น คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า ช่างเป็นอะไรที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง คือขนาดบินไป-บินมา ร่อนไป-ร่อนมา เกือบนับสิบๆ ปีเข้าไปแล้ว แถมยังมีผู้เผาพริก-เผาเกลือ แช่งๆ ด่าๆ ให้เครื่องบินตกตาย ให้สิ้นเรื่อง-สิ้นราว ไปซะที แต่ยมบาล พญามัจจุราช ท่านก็ยังไม่ได้คิดจะปฏิบัติหน้าที่ซะยังงั้น ซึ่งคงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือเพราะมีใครไปทิ้ง ถุงขนม เอาไว้ในเมืองนรกขุมที่ 19 อะไรประมาณนั้น แต่อาจเพราะยังไม่ถึงที่ ไม่ถึงจังหวะและเวลาเท่านั้นเอง...

                                                          ----------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...หลังจากหายช็อก กันในกรณี เสี่ยวิชัย  คงหนีไม่พ้นต้องหันมา ช็อก กันต่อ ในเรื่องการเมือง การเลือกตั้ง ที่กำลังเดินหน้าต่อไป อย่างมิอาจแตะเบรก เชนจ์เกียร์ ไปเป็นอื่น เพียงแต่ว่าจะต้นปี กลางปี หรือปลายปี อันนั้น...คงต้องไปว่ากันอีกที แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกองคาพยพ ต่างได้เดินเครื่อง ชนิดรั้งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ต่อไปอีกแล้ว ดังนั้น...หลังจากเข้าโค้ง ผ่านโค้งต่างๆ ไปจนสิ้นสุดกระบวนการกันภายในปีหน้า จากนั้น...มันจะนำไปสู่การ แหกโค้ง ตกน้ำ ตกท่า หรือต้องร่วงลงไปในหุบเหวแบบเดิมๆ หรือไม่ อย่างไร อันนี้นี่แหละ...ที่บรรดาเซียนการเมือง หรือมังกือการเมืองทั้งหลาย ยังต้องนั่งถก นั่งเถียง ชนิดหาข้อสรุปแทบมิได้...

                                                           -----------------------------------------------------

      ด้วยเหตุเพราะตราบใดที่ นายใหญ่ ยังไม่ได้ตกเครื่องบินตาย...ตราบนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเป็นไปได้เสมอๆ ตามแบบฉบับ ถ้าผมยังอยู่ไม่เป็นสุข...อย่าหวังเลยว่าใครจะอยู่เป็นสุขได้ อีกทั้งด้วย เงื่อนไข-เหตุปัจจัย ที่ยังวางกองระเกะระกะอยู่ในสังคมไทย โอกาสที่จะหยิบเอามาปั้น เอามาแต่ง ให้กลายเป็น เพลงแรป หรือ เพลงนรก ก็แล้วแต่ ย่อมสามารถอุบัติขึ้นมาได้ทุกเมื่อ ยิ่งถ้าหากนำเอา คณิตศาสตร์ทางการเมือง มาบวก-ลบ-คูณ-หาร ถอดรูท ถอดสมการ เทียบบัญญัติไตรยางศ์ ออกมาเป็นขั้นๆ โอกาสที่แต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง มันจะยุ่งเหยิงยิ่งกว่าหนวดแขกพันกับฝอยขัดหม้อ ย่อมมีความเป็นไปได้ยิ่งขึ้นเท่านั้น...

                                                         ------------------------------------------------------

      เพราะแม้จะมีการออกแบบ ดีไซน์ กฎและกติกาต่างๆ เอาไว้ให้ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศเพียงใดก็ตาม แต่ถ้าหากยังไม่สามารถสรรค์สร้าง สิ่งที่เรียกว่า ความชอบธรรมทางการเมือง ไว้รองรับ ได้อย่างหนักแน่น มั่นคง อย่างเป็นจริง เป็นจัง ขึ้นมาแล้วล่ะก็ อะไรต่อมิอะไรมันก็คง ไม่ง่าย หรือไม่ถึงกับสะดวกสบายแบบเบิร์ดๆ กันซักเท่าไหร่นัก ยิ่งถ้าดูจากโพลวิจัย นิด้า เที่ยวล่าสุด จู่ๆ เครื่องบินของ บิ๊กตู่ ก็ทำท่าว่าชักจะ หัวตก เอาดื้อๆ ทั้งที่อุตส่าห์ ตู่ ดิจิตอล กันไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงกับเงยหน้า อ้าปาก เชิดหัวขึ้นมาได้มากมายซักเท่าไหร่...

                                                         -------------------------------------------------------

      แถมบรรดา ก๊กเอาบิ๊กตู่ ทั้งหลาย...ก็ดูจะออกอาการ เหี่ยวปลาย ลงไปตามลำดับ ไม่ว่าจะแยกไปเป็นแม่น้ำสายไหนต่อสายไหนก็ตามที แต่สุดท้าย...ทำท่าว่าอาจต้องไหลไปลง คลองแสนแสบ ซะเป็นหลัก คือไม่ว่าจะ ฮึด อย่างไร ก็ฮึดไม่ค่อยขึ้น ไม่ว่าจะคิดมุก เปลี่ยนมุก ไปในลักษณะไหน แต่โดยสีสัน บรรยากาศ ของบ้านเมืองในช่วงระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา คงต้องยอมรับว่ามันไม่ได้เอื้ออำนวยช่วยให้เกิดความคึกคัก ความแปลก ความใหม่ อะไรมากมายซักเท่าไหร่ ดังนั้น...แม้จะมีวุฒิสมาชิก 250 เอาไว้ในมือ แต่ถ้าเสียงในสภาผู้แทนราษฎร ไปได้แค่ไม่กี่ร้อย ไม่ถึงครึ่ง ถึงค่อน ตู่ ดิจิตอล อาจต้องกลายเป็น ตู่ อนาล็อก เอาง่ายๆ...

                                                         -------------------------------------------------------------

      และถึงจังหวะนั้นนั่นเอง...ที่จะต้อง เข้าโค้ง กันอย่างประณีต และละเอียด รอบคอบ เอามากๆ จะกระทืบเบรก กระชากเกียร์ กันอย่างไม่ปรานี ปราศรัย ไม่ได้เลย ต้องอาศัยความนิ่ม ความประณีต อย่างเป็นพิเศษ เพราะถ้าต้อง แหกโค้ง กันในคราวนี้ มันมีสิทธิ์ไปไกล ในระดับไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี กันทั้งประเทศเอาเลยก็ยังได้ ไม่งั้นอาจต้องอาศัย ภูมิปัญญา อันเคยเป็น ภูมิคุ้มกันสังคมไทย มาโดยตลอด ถึงอาจพอผ่อนหนัก ให้เป็นเบา ลงไปได้มั่ง...

                                                           ------------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก E.B. White... There’s no limit to how complicated things can get, on account of one thing always leading to another.- เรื่องราวต่างๆ สามารถทวีความสลับซับซ้อนได้โดยไม่มีที่สิ้นสุด เนื่องจากเพราะสิ่งหนึ่ง ย่อมนำไปสู่อีกสิ่งหนึ่งเสมอๆ...

                                                            -----------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"