ฉุนรถทัวร์ปล่อยลงข้างทาง โพสต์เฟซเรียกร้องให้ปรับปรุงบริการ


เพิ่มเพื่อน    

29 ต.ค.61 - จากกรณีที่มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ “Pungpound Tana” ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่าถูกรถทัวร์สายกรุงเทพฯ–สุรินทร์ ของบริษัทแห่งหนึ่งปล่อยตนเองกับลูกชายวัย 8 ขวบลงข้างทางตอนตี 2 กว่า ซึ่งเป็นที่เปลี่ยวและมืด โดยระบุว่า “ขึ้นครั้งแรกก็ประทับใจเลย เพิ่งเห็นข่าวรถโดยสารประจำทางปล่อยผู้โดยสารยายหลานลงข้างทาง ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง จองตั๋วผ่านคอลเซ็นเตอร์ ระบุชัดเจนว่าลง รพ.นางรอง ไปรับตั๋วก็บอกชัดเจนว่าลง รพ.นางรอง พนักงานบอกขอตีตั๋วว่าลงประโคนชัย ค่าตั๋ว 600 บาท 2 คน ก็บอกไม่เป็นไร พี่จะลงหน้า รพ.นางรอง สรุปรถขับเลยมาไกลถึง 30 กิโลเมตร เดินลงหาพนักงานชั้นบนชั้นล่าง 2 รอบ 3 รอบไม่เจอเลยไปเคาะห้องคนขับเห็นพนักงานนอนอยู่ เลยถามว่าถึงไหนแล้ว พนักงานบอกว่ากำลังจะเข้าประโคนชัย

อ้าว เลย รพ.นางรองแล้ว ทำไงละทีนี้ พนักงานบอกว่า ผู้โดยสารจะลงหน้า รพ.ประโคนชัยไม่ใช่เหรอครับ เลยบอกว่าน้องคะพี่แจ้งลงหน้า รพ.นางรอง พนักงานเลยไปถามคนขับได้คำตอบมาว่า ให้ลงประโคนชัยแล้วต่อรถมานางรองอีกที ถามหน่อยนี่มันตี 2 พี่มากับลูก 2 คนกระเป๋าอีก 2 ใบ น้องแน่ใจเหรอว่าจะให้ตรงนี้ เลยขอลงปั้มน้ำมันที่ปลอดภัย ตามภาพเลย นี่ถ้าไม่มีสามีมารับถามหน่อยสิจะเป็นยังไง #เสียเวลาเสียเงินเสียความ รู้สึกพอกันที #ขอบคุณไฟข้างทางที่ส่องสว่างให้เราสองแม่ลูก #พลาดเองที่เผลอหลับ #ความทรงจำที่แย่ #ไม่ได้ยินแม้แต่คำขอโทษ”

หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวแชร์ไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างแสดงความเห็นห่วง 2 แม่ลูกที่ต้องตกอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว บางคนก็แนะนำให้ร้องเรียนเรื่องเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก

ล่าสุดผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังผู้ที่โพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าว เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยผู้ประสบเหตุชื่อ นางชลรชา ทานา อายุ 35 ปี ชาวกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ที่ออกมาโพสต์เรื่องราวดังกล่าว ไม่ได้อยากจะเอาเรื่องหรือให้บริษัทออกมารับผิดชอบ เพียงแค่อยากให้เป็นตัวอย่างเพื่อให้บริษัททัวร์และพนักงานปรับปรุงแก้ไขการบริการและใส่ใจผู้โดยสารให้มากกว่านี้  เพราะที่ผ่านมาก็เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาหลายครั้ง ซึ่งบางคนอาจจะไม่โชคดีเหมือนกับตนเอง

ด้านนายพีรเดช ทานา อายุ 44 ปี สามีของนางชลรชา บอกว่า หลังภรรยาไลน์มาบอกว่าใกล้จะถึง อ.นางรอง แล้ว ตนก็ออกไปรอรับภรรยาและลูกที่หน้า รพ.นางรอง เห็นรถทัวร์ผ่านไปหลายคันก็ยังไม่เห็นภรรยามาถึง จนเลยเวลาที่แจ้งไว้แล้วว่าจะถึงประมาณตี 2  กระทั่งภรรยาโทรกลับมาบอกว่า รถทัวร์ขับเลยหน้า รพ.นางรอง มาถึงแยกตะโกแล้ว ก็รู้สึกตกใจและเป็นห่วงภรรยากับลูกมาก เพราะไม่ใช่คนในพื้นที่ จึงไม่รู้ว่าแยกตะโกอยู่ตรงไหน จึงเช็คเส้นทางผ่านโทรศัพท์ก็จะรีบขับรถไปภรรยากับลูก เห็นทั้ง 2 ปลอดภัยก็รู้สึกดีใจ สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้อยากจะเอาผิดใคร แค่อยากให้เป็นอุทาหรณ์เพื่อให้รถทัวร์หรือพนักงานใส่ใจลูกค้ามากกว่านี้

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"