ไม่พลิก!วิโรจน์หัวหน้าพท.


เพิ่มเพื่อน    

    ตามคาด "เพื่อไทย" เลือก กก.บห.ชุดใหม่ "วิโรจน์" ยังนั่งหัวหน้าไว้เฝ้าพรรค "ภูมิธรรม"  เลขาฯ "หญิงหน่อย" ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง เผยแกนนำสาย "เจ๊แดง-พจมาน" เคลียร์กันก่อนเสนอชื่อวิโรจน์คนเดียว ร่อนแถลงการณ์แจงจะเป็นร่างทรงของใครขึ้นอยู่กับประชาชน "เสี่ยอ้วน" เตรียมแบ่ง 6 ทีมลุยพื้นที่ "เจ๊หน่อย" ออกตัวยังไม่ถึงเวลาเสนอชื่อเป็นนายกฯ มั่นใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด “จตุพร-ยงยุทธ”ตามเชียร์ตั้งสาขา พช. ถึงถิ่นภาคเหนือ 
    เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ตุลาคม ที่ลานอเนกประสง ค์ชั้น 7 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.) มีการจัดประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2561 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค   คณะกรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการคัดสรรผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยมีแกนนำพรรค อดีต ส.ส.  สมาชิก ผู้มีสิทธิโหวตกว่า 300 คน เดินทางมาอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์, นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายชูศักดิ์ ศิรินิล, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นต้น 
    โดยในการโหวตเลือก ทางพรรคได้จัดเตรียมหีบบัตรลงคะแนน คูหาลงคะแนน เตรียมพร้อมให้สมาชิกพรรคลงคะแนน และมีตัวแทนจากสำนักงาน กกต.มาร่วมสังเกตการณ์ ส่วนบรรยากาศในห้องประชุมของสมาชิกพรรค ได้นำผ้าสีดำมาขึงล้อมรอบห้องประชุมสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน ผู้ที่มาร่วมโหวตเลือกต่างนัดกันแต่งกายด้วยสีดำอีกด้วย
    ก่อนการประชุม นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส.ลพบุรี และสมาชิกพรรค พท. กล่าวถึงข่าวยุบพรรคพท. ที่มีข่าวอย่างต่อเนื่อง อาจจะเกิดขึ้นในช่วง 90 วันก่อนเลือกตั้ง ทำให้สมาชิกพรรคหาสังกัดพรรคใหม่ไม่ทันว่า การยุบพรรคไม่ได้ทำง่ายๆ ต้องใช้เวลานาน แต่ก็อยากถามผู้มีอำนาจ หากยุบไปแล้วจะได้อะไร มีแต่สมาชิกพรรค คนจะศรัทธาพรรคเดิมมากขั้น แต่จะไปเพิ่มความเกลียดชังอีกฝ่าย ข้อหาในการยุบพรรค เมื่อดูแล้วไม่น่าไปถึงขั้นนั้น ตนและเพื่อนสมาชิกจะปักหลักสู้กับพรรคเพื่อไทยไปตลอด ขณะเดียวกันเรื่องที่ตนขอยื่นให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ จากวันนั้นถึงวันนี้ เรื่องยังไปไม่ถึงไหน ทั้งที่ข้อมูลหลักฐานค่อนข้างชัดเจน  
    นายภูมิธรรมกล่าวถึงกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมาเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่า เป็นเรื่องของนายพานทองแท้และพรรค ทษช. ไม่เกี่ยวกับพรรค พท. เพราะพรรค ทษช.ไม่ใช่สาขาพรรค พท. และเชื่อว่าหากนายพานทองแท้ไปเป็นกรรมการบริหารพรรคดังกล่าว จะไม่ทำให้สมาชิก พท.เกิดความสับสน เพราะทุกคนมีสิทธิตัดสินใจร่วมทางการเมืองกับพรรคใดก็ได้ 
    ส่วนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่พร้อมรับตำแหน่งอะไร เพราะตอนนี้เป็นซีอีโอบริษัทบางแห่งอยู่ ที่เดินทางมาพรรคในฐานะสมาชิกพรรค มาทำหน้าที่ผู้ร่วมโหวตเลือกหัวหน้าพรรคเท่านั้น กระแสข่าวที่จะได้รับการเสนอเป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีนายกรัฐมนตรีนั้นยังอีกไกล    
    ภายหลังการประชุมลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในส่วนของคณะกรรมการบริหารพรรค มีทั้งสิ้น 15 คน ประกอบด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นหัวหน้าพรรค, นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายเกรียง กัลป์ตินันท์ พล.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ เป็นรองหัวหน้าพรรค,  นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นเลขาธิการพรรค, นายดนุพร ปุณณกันต์ น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล นายธวัชชัย สุทธิบงกช เป็นรองเลขาธิการพรรค, นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ เป็นโฆษกพรรค, นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธุ์ เป็นเหรัญญิกพรรค, นายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค, นายพิทยา พุกกะมาน และนายปรีชา ธนานันท์ เป็นกรรมการบริหารพรรค
เป็นร่างทรงใครอยู่ที่ ปชช.
    คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง 11 คนประกอบด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง, นายปลอดประสพ สุรัสวดี, นายภูมิธรรม เวชยชัย, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล, นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายชัยเกษม นิติสิริ, นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย นอกจากนี้ ยังมีการตั้งนายเสนาะเป็นประธานพรรค และคุณหญิงสุดารัตน์เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง
     หลังจากนั้นหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้ขึ้นบนเวทีถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โดยทุกคนได้ชูกำปั้นด้านขวาพร้อมเปล่งเสียงไชโย 3 ครั้ง
    จากนั้น นายดนุพร ปุณณกันต์ รองเลขาธิการพรรค เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ เนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า พวกเราพรรคเพื่อไทยจะร่วมมือกับประชาชนในการบูรณะความหวังของสังคม จะร่วมกันสร้างความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจในสังคม ที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยปัญญา ด้วยความน่าเชื่อถือแห่งหลักยุติธรรม อันจะนำมาซึ่งเกียรติยศและความน่าเชื่อถือของโลก ทลายกำแพงที่ปิดกั้นโอกาสและความมั่งคั่งของชีวิต พรรคเพื่อไทยเชื่อว่า พรรคการเมืองจะเป็นเพียงร่างทรงทางการเมืองของคนบางคน หรือเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณของประชาชนนั้น ขึ้นอยู่กับว่าพรรคการเมืองอยู่กับประชาชน ไม่ว่าประชาชนจะมีความสุขหรือมีทุกข์ และเมื่อประชาชนมีทุกข์ พรรคการเมืองย่อมมีทุกข์ร่วมกับประชาชน 
    "วันนี้เราจึงต้องหาทางออกมุ่งสู่อนาคตซึ่งมีความหวัง ถึงแม้หนทางนั้นจะเต็มไปด้วยขวากหนามขนาดมหึมา เราจะใช้ประสบการณ์ทั้งชีวิตของพวกเราทุกคน ร่วมมือกับประชาชน สร้างสังคมไทยที่มีโอกาส มีความหวัง มีชีวิตที่มีคุณภาพ และเกิดความสงบสุขที่มีอนาคต พรรคเพื่อไทยจะคว้าโอกาสจากโลกยุคใหม่ ให้คนไทยทุกคน" นายดนุพรระบุ
    แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า สำหรับการเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้ ที่เป็นไปอย่างมีระเบียบเรียบร้อยดีนั้น ก็เพราะมีผู้ใหญ่สายของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และสายของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร เดินเกมเคลียร์ปัญหาการชิงตำแหน่งผู้นำพรรค โดยมีการขอร้องไปที่อดีต ส.ส.กลุ่มต่างๆ ให้เข้าใจตรงกันว่าผู้ใหญ่ในพรรคไม่ต้องการให้พรรคเกิดความแตกแยก จึงได้ขอร้องให้อดีต ส.ส.เสนอชื่อ พล.ต.ท.วิโรจน์ขึ้นชิงหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียว ในที่ประชุมใหญ่ นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย จึงได้เสนอชื่อ พล.ต.ท.วิโรจน์เพียงชื่อเดียว โดยที่ไม่มีอดีต ส.ส.คนใดเสนอชื่อคนอื่นเข้าแข่งขัน 
    รวมทั้งในการประชุมครั้งนี้ ผู้ที่เตรียมตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคเพื่อชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสายเสื้อแดงที่สนิทสนมกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ได้เดินทางมาร่วมด้วย อาทิ นายอารีย์ ไกรนรา, นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ เช่นเดียวกับแกนนำที่มีข่าวไปร่วมงานจะไปเป็นแกนนำพรรคเพื่อธรรม อาทิ นายสมชาย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็ไม่ได้เดินทางมาร่วมการโหวตเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เช่นกัน
เตรียม 6 ทีมลุยพื้นที่
    พล.ต.ท.วิโรจน์ให้สัมภาษณ์ว่า ขอขอบคุณสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจในการเลือกตนเป็นหัวหน้า  การดำเนินการของพรรคคงไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นกรรมการชุดเดิม ภาระใหญ่ของพรรคที่ต้องดำเนินการในขณะนี้คือการเตรียมการเลือกตั้ง วันนี้เราได้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร 11 ท่าน ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่มาให้กำลังใจ และมาเลือกพวกเราให้ทำงานต่อไป ซึ่งจากนี้เราก็จะดำเนินการทุกอย่างอย่างเข้มข้น
    นายภูมิธรรมกล่าวว่า จากนี้จะมีการประชุมคณะกก.บห. และส่งมอบงาน แม้จะเป็น กก.ชุดเก่า แต่ก็มีการเพิ่มเติม กก.ขึ้นมาหลายตำแหน่ง จะใช้เวลาในการเตรียมการประมาณ 2-3 สัปดาห์ จากนั้นจะเดินสายออกไปพบพี่น้องประชาชนตามภาคต่างๆ เพื่อที่จะเชิญมาร่วมอุดมการณ์กับพรรคในการเป็นสมาชิก และคัดเลือกคณะกรรมการประจำจังหวัด คิดว่าจะลงพื้นที่ 6 ทีม ออกไป 4 จังหวัดต่อสัปดาห์ ใน 3 สัปดาห์เราจะได้ 73 จังหวัด เราจะมีความพร้อมตามกฎหมายการเลือกตั้งทั้งหมด และพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำแหน่งหัวหน้าพรรคนี้จะเป็น 1 ใน 3 รายชื่อที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า กฎหมายไม่ได้กำหนด เราสามารถเลือกหัวหน้าพรรคหรือคณะกรรมการของเราก็ได้ เป็นเรื่องที่เราจะต้องคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ยังไม่ใช่เวลาที่จะตอบตอนนี้ เมื่อกฤษฎีกาออก เราพร้อมที่จะตกลงกันภายใน เราจะเลือกตัวแทนของเราที่มีความเหมาะสมที่สุดที่จะทำหน้าที่เป็นนายกฯ ของพรรค
    เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หากจะมีการยุบพรรคจนนำไปสู่การตัดสิทธิ์ทางการเมือง เลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า เชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำทั้งหมด ทุกอย่างที่เราดำเนินการมาตลอด เราดำเนินการตามกฎหมายทั้งสิ้น ไม่คิดว่าสิ่งที่เราทำจะมีปัญหาใดๆ พรรคเพื่อไทยเผชิญกับภัยคุกคามมาตลอด ยังคิดว่าเรายังไม่ได้ปลอดภัยจากภัยคุกคามต่างๆ ไม่เชื่อว่าจะมีอะไรมาทำลายเราได้ภายใต้การโอบอุ้มของพี่น้องประชาชน เชื่อว่าจิตวิญญาณของพรรค ไม่สามารถทำลายได้ ถ้าทำลายก็ทำลายได้เพียงโครงสร้างเท่านั้น มีประสบการณ์ของเรามาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน พลพรรคเพื่อไทย ทั้งหมดไม่มีใครคิดย่อท้อ จะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าเราจะถูกดำเนินการด้วยวิธีการใดก็ตาม ไม่มีพรรควันนี้ ก็ยังจะคงมีพรรคเพื่อไทยในจิตวิญญาณอยู่ต่อไปแน่นอน
    "นายทักษิณไม่เคยเกี่ยวพันหรือมาดำเนินการใดๆกับพรรค สิ่งที่นายทักษิณจะดำเนินการใดๆ ก็ตาม ก็เป็นสิทธิและภารกิจของท่าน วันนี้กฎหมายมีอยู่แล้ว ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่างมีหลักนิติรัฐ นิติธรรม เชื่อว่าหากยึดตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เราจะไม่มีปัญหาใดๆเลยทุกฝ่าย" นายภูมิธรรมกล่าวถึงบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร ในพรรค 
    ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ไม่ได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรคว่า ไม่ได้เสนอตัวตั้งแต่แรก วันนี้พวกเรามีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าพล.ต.ท.วิโรจน์เหมาะสมจะเป็นหัวหน้า เพราะที่ผ่านมาได้เสียสละทำงานในช่วงเวลาที่ยากลำบากตั้งแต่การปฏิวัติ กระแสข่าวที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ นั้น  เมื่อเวลาและขั้นตอนมาถึง เราจะมีการเสนอชื่อ วันนี้ยังไม่มีการพูดถึง และยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะเสนอ ส่วนช่วงเวลาที่จะเปิดเผยชื่อนั้น คงต้องไปตาม กกต.และคสช. ซึ่งเป็นคนที่กำหนดวันว่าจะให้กระบวนการทำงานเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่ 
    "ก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวว่าคนนั้นจะเสนออีกคนเป็นหัวหน้า ทำให้พรรคดูมีความแตกแยก แต่ท้ายที่สุดวันนี้ก็เห็นเป็นเอกฉันท์ร่วมกัน ดังนั้นพรรคเพื่อไทยมีความสามัคคี อาจจะมีคนที่ผิดหวังอยู่บ้าง บางท่านก็อาจไปพูดจาที่เสมือนว่ามีความขัดแย้งในพรรค แต่วันนี้พิสูจน์แล้วว่าเราไม่มีความขัดแย้งใดๆ"
ยังไม่ถึงเวลาเสนอชื่อนายกฯ
    ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสมาชิกมีเจตจำนงในการเสนอชื่อคุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกฯ จะรับหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า ขอให้ถึงเวลาก่อน วันนี้รับหน้าที่เป็นประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ขอทำหน้าที่นี้ก่อน เมื่อเราได้รับหน้าที่ไหน ขอทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด โดยจะเป็นการกำหนดการทำยุทธศาสตร์การเลือกตั้งทั้งหมดว่าจะเดินงานอย่างไร จะมีแนวทางและกลยุทธ์วางแผนการทำงานอย่างไร ส่วนหัวหน้าพรรคจะดูแลบริหารจัดการทั้งพรรค ส่วนตนจะดูแลยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานของท่าน แต่เป็นทีมนำรับผิดชอบการเลือกตั้งอยู่ภายใต้การทำงานของหัวหน้าพรรค นอกจากนี้ จะมีนายชัชชาติ รวมถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง  และนายโภคิน พลกุล มาเป็นทีมช่วยกันทำงานด้วย 
    ถามว่า การที่หัวหน้าพรรคไม่ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ จะทำให้ประชาชนสับสนหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ยังไม่หารือว่าจะเสนอชื่อใคร อย่าเพิ่งไปเดาว่าหัวหน้าพรรคจะไม่ถูกเสนอชื่อ ท่านเป็นคนดี สมาชิกเห็นใครเหมาะสมก็สามารถเสนอได้ ทั้งนี้ตนตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด โดยมุ่งเน้นประชาชนป็นศูนย์กลาง เรามองเห็นศักยภาพคนไทยและประเทศไทยว่าจะเติบโตได้อีก ทุกนโยบายที่เราทำได้ปรึกษาหารือและร่วมกันคิดกับประชาชน จึงไม่ต้องสงสัยว่านโยบายของเราทำไมจึงถูกใจประชาชน เรามั่นใจว่านโยบายที่เกิดจากการฟังประชาชนนั้นจะตอบโจทย์ประชาชนได้ และไม่เคยประกาศว่าจะได้ส.ส.เกิน 200 ที่นั่ง เป้าหมายเราจะทำให้ได้มากที่สุด เมื่อถึงเวลาเราจะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ และมั่นใจ เมื่อเราจะเริ่มรณรงค์เลือกตั้ง เราจะเคลียร์ภาพทั้งหมดว่าเราคือใคร และเราคือผู้ตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาของประชาชนได้พรรคเดียว
    "เราถูกกระทำมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย เราเผชิญมาหลายครั้ง หลายยุค หลายสมัย ถามว่ากลัวหรือไม่ เราไม่กลัว มีทางรับมือ มั่นใจว่าสิ่งที่เขาพยายามกล่าวหานั้น เราไม่มีความผิดใดๆ ทั้งนี้ มีมาตรการที่จะรองรับให้พรรคพวกของเรารักษาชีวิตไปทำงานให้กับประชาชนต่อได้อย่างแน่นอน" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวถึงกระแสข่าวการยุบพรรคเพื่อไทย      หนึ่งในคนใกล้ชิดนายพานทองแท้เปิดเผยถึงกระแสข่าวว่านายพานทองแท้จะดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติว่า กระแสข่าวดังกล่าวได้สร้างความสับสนให้กับสมาชิกพรรค พท.เป็นอย่างมาก ทำให้หลายคนถึงกับมาสอบถามว่าข่าวดังกล่าวจริงหรือไม่ แล้วนายพานทองแท้จะไปอยู่พรรคการเมืองไหน นายพานทองแท้ทราบข่าวแล้ว และระบุกลับมาว่าเอาชื่อไปเขียนว่าจะไปดำรงตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ ถามกูแล้วหรือยัง
    ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา ในฐานะกองเชียร์พรรคเพื่อชาติ (พช.) ร่วมเป็นวิทยากร สถาบันพัฒนาการเมืองพรรค พช. หัวข้อฟื้นประชาธิปไตยก้าวไปด้วยกัน ที่สำนักงานสาขาพรรคพช. ประจำภาคเหนือ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งมีการจัดประชุมสมาชิกพรรค พช. และตั้งสาขาพรรค เมื่อ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา
    นายจตุพรกล่าวว่า ตนมาให้ความรู้กับประชาชนในฐานะวิทยากรของสถาบันพัฒนาการเมือง พรรคพช. เช่นเดียวกับโรงเรียนการเมืองของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ด้วยการเลือกตั้งในคราวนี้ไม่เหมือนในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการนับคะแนน การหาเสียงเลือกตั้ง ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมกันอีกแล้ว แต่สิ่งที่คาดหวังก็คือว่าเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ประชาชนมีส่วนในการกำหนดอนาคตของตัวเองอย่างแท้จริง 
    “ผมเองก็ได้ประกาศตั้งแต่ออกจากเรือนจำมาแล้วว่า ไม่ได้พกความแค้นเข้าไป และไม่ได้พกความแค้นออกมา ถ้ายังปล่อยให้บ้านเมืองเดินต่อไปด้วยความแตกแยก บ้านเมืองก็จะยิ่งถดถอย แต่ก็มิใช่ว่า เราจะไม่ให้มีความคิดแตกต่างกัน พรรคเพื่อชาติที่เรามาเป็นกองเชียร์ ที่เราพยายามชวนกันมาเป็นเกาะกลาง ที่จะพูดคุยอยู่ร่วมกันได้ ภายใต้หลักการประชาธิปไตย ไม่ใช่ให้เกิดการเปลี่ยนจุดยืน”
    ด้านนายยงยุทธกล่าวว่า เรามาในฐานะผู้ให้กำลังใจ มาสังเกตการณ์ในฐานะผู้มีประสบการณ์ เชื่อว่าจุดอ่อนที่สำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันคือ การทำลายขีดความสามารถของคนไทย ทำลายการมีส่วนร่วมของคนไทย ซึ่งจะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้คนเก่ง คนดี ไม่สามารถมาร่วมใช้ความรู้ ให้เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือพรรคการเมืองได้ เพราะสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้พรรคการเมืองถูกยุบ อีกทั้งรัฐธรรมนูญนี้ยังมีลักษณะที่ถอยหลังเข้าคลอง โดยให้ ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งร่วมมีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี ผิดหลักการประชาธิปไตยสากล
    “การที่มีพรรคการเมืองหนึ่งนำเอาชื่อนโยบายของรัฐบาลมาตั้งเป็นชื่อพรรค ให้นึกถึงคำที่เคยต่อว่ารัฐบาลหนึ่งว่า คอร์รัปชันเชิงนโยบาย ดูจะเป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ เป็นเรื่องอำพรางฉ้อฉลการเลือกตั้งหรือไม่” นายยงยุทธตั้งข้อสังเกต.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"