28ต.ค.61-นายวีระ โรจน์พจนรัตน์รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 2 ก่อนการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่ จ.เชียงราย ว่าวธ.มีแผนที่จะร่วมมือกับกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาศักยภาพวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่โดดเด่น โดยผูกโยงธรรมชาติ กับเรื่องราวเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของการช่วยชีวิต 13 ชีวิตหมูป่าอะคาเดมี โดยวธ.ยินดีสนับสนุนการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ถ้ำหลวงในพื้นที่วนอุทยานด้วย ขณะเดียวกันได้หารือถึงการถ่ายทำภาพยนตร์และสื่อวีดิทัศน์ กรณี13 หมูป่า เพื่อเป็นแนวทางให้แก่ผู้ผลิตที่เสนอเข้ามาผ่านคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวงจ.เชียงราย ซึ่งเสนอขณะนี้มีจำนวน 22 โครงการนอกจากนี้จะมีการพิจารณาแนวทางการนำข้อมูลจดหมายเหตุบันทึกประวัติศาสตร์เหตุการณ์สำคัญของชาติ กรณีถ้ำหลวงมาใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม โดยการให้ความรู้ ที่ถูกต้อง และครบถ้วนประกอบการท่องเที่ยว ผ่านนิทรรศการ และ จัดทำระบบอีบุ๊ค ด้วย
รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน จะเร่งรัดติดตามการดำเนินงานการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชื่อมจ.แพร่ น่าน พะเยา และเชียงรายให้มีความเชื่อมโยงกับการยกระดับ จ.เชียงรายเป็นเมืองศิลปะโดยจะบูรณาการร่วมกับศิลปินล้านนา รวบรวมข้อมูลเรื่องราวความเก่าแก่ของสถานที่สำคัญทางศิลปวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมและความร่วมสมัย ตลอดจนหอศิลป์ ที่จัดแสดงงานศิลปะ ให้มีความกลมกลืนกัน จากนั้นจัดเป็นเส้นทางแนะนำแก่นักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังจะประสานงานกับชุมชนคุณธรรมน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่มีอยู่ในพื้นที่ในการนำผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย หรือ CPOT มาจัดจำหน่ายในแหล่งต่างๆ เพื่อสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนทั้งนี้มีกำหนดการไปเยี่ยมชมการพัฒนาเชื่อมต่อเส้นทางวัฒนธรรม เช่นวัดร่องขุ่น ขัวศิลปะ วัดพระธาตุจอมกิตติ ชุมชนคุณธรรมบ้านวัดบ้านจ้อง รวมถึงศรีดอนมูล อาร์ตสเปซ รวมถึงสถานที่จัดนิทรรศการปฏิบัติการถ้ำหลวง วาระแห่งโลก อย่างถาวร ที่วัดดอยเวา ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลสรุปผลเสนอต่อที่ประชุม ครม. ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามจะมีการประสานงานกับวัดพระแก้ว ในการเตรียมความพร้อมต้อนรับนายกรัฐมนตรี และครม. ที่จะเดินทางมาสักการะด้วย