ธนาธรชี้หลังเลือกตั้งนองเลือด!


เพิ่มเพื่อน    

  ตามคาด ชทพ.เลือก "กัญจนา" ขึ้นนั่งหัวหน้าพรรค "บิ๊กบัง" หอบสมาชิกมาตุภูมิ 15 คนมาซบ ขณะที่ "ยังบลัด" กระอักเลือด "เสี่ยโต้ง" ไขก๊อกหนีไป ภท.หลัง ชทพ.ดันผู้อาวุโสขึ้นนำพรรคแทน "ธนาธร" ฟันธงหลังเลือกตั้งนองเลือดอีกหากฝ่าย ปชต.ชนะจะมีรัฐประหาร ปชช.ทนไม่ได้เดินลงท้องถนน "ประยุทธ์" ได้เป็นนายกฯ ก็ลุกฮือเกิดความแตกแยก โฆษก อนค.โวยลงพื้นที่ภาคอีสานถูกทหารติดตาม ดัน พธ.รองรับผู้สมัครเกรดเอ หาก พท.ถูกยุบ  

    เมื่อวันศุกร์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ปัญหาวันสอบทดสอบความถนัดทั่วไป(GAT) และทดสอบความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพเฉพาะ (PAT) ซึ่งตรงกับช่วงวันเลือกตั้ง 24 ก.พ.2562  ว่า มีหลายวิธีที่ไม่ยุ่งยาก เพราะเคยจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จะเปลี่ยนวันหรือเลื่อนเวลาสอบออกไป เพื่อให้เด็กไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในช่วงบ่าย หากวันสอบตรงกับวันเลือกตั้ง ทั้งนี้ ต้องยึดหลักให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ใช้สิทธิ์ และให้ผู้ที่จะไปสอบได้มีโอกาสสอบ ให้ทำทั้งสองอย่างได้ โดยกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นผู้พิจารณา โดยใช้วันเลือกตั้งเป็นตัวตั้งก่อนมากำหนดวันสอบ ซึ่งเบื้องต้นยังเป็นวันที่ 24 ก.พ.2562
     นายวิษณุกล่าวถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมหารือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และพรรคการเมืองว่า ยังไม่ได้ติดต่อนัดหมายกัน ต่างฝ่ายต่างเตรียมการในส่วนของตัวเอง หากนัดกะทันหันจะได้ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก ในการหารือไม่ได้มีการเจาะจงว่าเป็นเรื่องใด คำถามในส่วนของ กกต.คงมาจากสิ่งที่พรรคการเมืองส่งคำถามเข้ามา และ กกต.ยังตอบคำถามไม่ได้ หรือไม่ใช่เรื่องของ กกต. ขณะที่คำถามของ คสช.จะเป็นสิ่งที่ กกต.ตั้งใจบอก เรื่องใดที่ กกต.ตอบได้ก็จบ เรื่องใดที่ตอบไม่ได้ก็ส่งมาให้ คสช.รับมาพิจารณาหาทางออก ส่วนวันนัดประชุมคาดว่าจะใช้ช่วงเวลาที่นายกฯ ไม่มีภารกิจในต่างประเทศ
    เมื่อถามว่า จะแนะนำกลุ่มการเมืองและพรรคการเมืองในการลงพื้นที่อย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า บอกหลายครั้งแล้วว่าต้องระวังตัวเอง เพราะทุกกลุ่มทุกพรรคมีฝ่ายกฎหมายของตัวเองคอยดูอยู่แล้ว ขอให้เตือนกันเองแล้วกัน อย่าไปรอฟังใครบอกว่าถูกหรือผิด ทำได้หรือไม่ได้ เรื่องใดที่คิดว่าทำแล้วไม่ผิด ก็ให้เตรียมหลักฐานไว้ยืนยันว่าไม่ผิด เพราะอะไร หากทำไปแล้วสงสัยว่าผิด ให้รับแก้ไขตั้งแต่ตอนนี้
     เช้าวันเดียวกัน ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น มีการประชุมใหญ่ของพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ที่น่าสนใจมีสมาชิกใหม่ที่ย้ายมาร่วมกับพรรค โดยเฉพาะ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้าพรรคมาตุภูมิและอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้พาอดีตสมาชิกพรรคมาตุภูมิมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ชทพ. 15 คน, โดยมีนายประภัตร โพธสุธน, นายนิกร จำนง, นายธีระ วงศ์สมุทร และ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา แกนนำ ชทพ.ให้การต้อนรับ 
    นอกจากนี้ยังมีอดีต ส.ส.เดินทางมาเปิดตัวกับพรรค ชทพ.ด้วย อาทิ นางลักษณา แก้วกล้าหาญ ภรรยานายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ อดีต ส.ส.ขอนแก่น, นายอนุชา สะสมทรัพย์ อดีต ส.ส.นครปฐม,  นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร เป็นต้น
    พล.อ.สนธิกล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค เนื่องจากรอเกี่ยวกับกระบวนการพรรคการเมืองให้ชัดเจนก่อน ซึ่งอยู่ระหว่างรอเรียกประชุมเพื่อยื่นกกต. ให้พรรคมาตุภูมิสิ้นสภาพความเป็นพรรค ส่วนตัวได้นำอดีตสมาชิกพรรคจำนวน 15 คน มาร่วมงานกับพรรค ชทพ.ก่อน โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายภาคใต้และสงขลาบางส่วน ซึ่งตั้งความหวังจะได้ ส.ส.ระบบแบ่งเขตเลือกตั้งให้มากที่สุด เพื่อมาเติมพื้นที่ให้กับ ชทพ. อีกทั้งส่วนตัวชื่นชอบในนโยบายในการสร้างความปรองดองและความเป็นกลาง และสอดคล้องกับความรู้สึกส่วนตัวที่ต้องการร่วมแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในชาติ จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรค
"หนูนา"ขึ้นนั่ง หน.ชทพ.
     ต่อมานายธีระ วงศ์สมุทร รักษาการหัวหน้าพรรค ได้ขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้มีมติเลือก น.ส.กัญจนาเป็นหัวหน้าพรรค และนายประภัตร โพธสุธน เป็นเลขาธิการพรรค ส่วนกรรมการบริหารพรรคในตำแหน่งอื่น ประกอบด้วย รองหัวหน้าพรรค 5 คน ได้แก่ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ, นายอนุชา สะสมทรัพย์, นายวิจิตร พรพฤฒิพันธุ์, นายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ และนายยุทธพล อังกินันทน์
    จากนั้น น.ส.กัญจนาขึ้นเวทีกล่าวขอบคุณสมาชิกที่เลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคว่า คงเห็นว่าสถานการณ์เช่นนี้พรรคต้องการให้คนรุ่นใหม่กับรุ่นอาวุโสทำงานด้วยกัน ส่วนใหญ่อาจเห็นว่าตนเองเป็นคนที่อยู่ระหว่างสองรุ่นนี้ ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะไม่ให้เสียชื่อหัวหน้าพรรคแน่นอน การรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคครั้งนี้ ก็มีเวลาตัดสินใจไม่นาน แต่วันนี้ไม่มีนายบรรหาร ศิลปอาชา อีกแล้ว แต่สิ่งที่เหมือนเดิมคือยังคงตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนเหมือนเดิมต่อไป วันนี้นายบรรหารได้จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งเลือดความเป็นนายบรรหารไว้ในตัวของตนเองและน้องชาย ทั้งเรื่องการถือสัจจะและการสร้างมิตรมากกว่าศัตรู 
    หัวหน้าพรรค ชทพ.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พรรคได้มีผู้ใหญ่ทางการเมืองมาร่วมงานหลายคน เช่น พล.อ.สนธิ และนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ที่วันนี้ได้ส่งตัวแทนคือ นายอนุชามาร่วมงานในวันนี้ แสดงให้เห็นว่าในอนาคตพรรคจะมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ได้เป็นพรรคการเมืองเฉพาะพื้นที่เท่านั้น
    น.ส.กัญจนาให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า การส่งบัญชีบุคคลที่พรรคจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ นั้น ต้องรอพิจารณากับแกนนำพรรค ส่วนจุดยืนทางการเมือง หรือการร่วมงานการเมืองกับพรรคการเมืองใดหลังการเลือกตั้งนั้น ตนไม่ขอให้ความเห็นส่วนตัว เพราะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแกนนำพรรคเช่นกัน
    ผู้สื่อข่าวถามว่า การเตรียมร่วมงานของ พล.อ.สนธิ จะทำให้พรรคใกล้ชิดกับทหารมากขึ้นหรือไม่ น.ส.กัญจนากล่าวว่า พรรคไม่ได้มองความเป็นทหารหรือพลเรือน เพราะต้องการขยายฐานไปสู่พื้นที่ภาคใต้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาพรรคถูกมองว่าเป็นพรรคของคนภาคกลาง ขณะที่การตกลงร่วมงานกับอีกหลายกลุ่มการเมืองนั้น เชื่อว่าจะเป็นการเพิ่มตัวเลือกทางการเมืองให้คนของพรรคสามารถเข้าไปแก้ปัญหาให้ประเทศได้ ส่วนอดีตสมาชิกของพรรค ชทพ.ที่ลาออกนั้น ตนไม่มีพลังที่จะไปห้ามใครได้ เพราะเป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล
    "ยังคงทำงานร่วมกับพรรคแน่นอนเพื่อเป็นฟันเฟืองที่จะทำงานร่วมกัน ส่วนตำแหน่งที่เลือกกันไปนั้น เป็นเพียงนามธรรม เพราะสิ่งสำคัญคือการทำงานร่วมกันเหมือนเดิม นายวราวุธไปไหนไม่ได้หรอก ต้องอยู่กับพรรค ส่วนตำแหน่งที่เลือกนั้น อย่างดิฉันที่ได้เป็นหัวหน้า ก็ไม่คิดหรือหวังว่าจะได้เป็น หรือมาไกลถึงขนาดนี้ ซึ่งไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งนายกฯ ต่อจากนี้เลย เพราะดิฉันไม่ได้คิดไม่ได้ฝันเช่นกัน" น.ส.กัญจนากล่าวถึงการดำรงตำแหน่งของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในพรรค ที่นำโดยนายวราวุธ ศิลปอาชา 
    มีรายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังที่ประชุมใหญ่ ชทพ.มีมติเลือก น.ส.กัญจนาเป็นหัวหน้าพรรค และนายประภัตรเป็นเลขาธิการพรรค ล่าสุด นายสิริพงษ์ อังสกุลเกียรติ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พรรค ชทพ. แกนนำกลุ่มนิวบลัดของ ชทพ. ที่เดิมถูกวางตัวให้เป็นเลขาธิการพรรค คู่กับนายวราวุธ ที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค แต่หลังจากมีอดีต ส.ส.ที่เป็นระดับผู้ใหญ่ เข้ามาอยู่ในพรรคจำนวนมาก ทำให้แกนนำพรรค ชทพ.ต้องปรับยุทธศาสตร์ใหม่ เอาคนที่มีบารมีมากกว่าคือ น.ส.กัญจนา และนายประภัตร มาเป็นหัวหน้าและเลขาธิการพรรคแทน เพื่อเป็นการให้เกียรติ ทำให้นายสิริพงษ์ กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริมงคลพร๊อพเพอร์ตี้ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ธนาธร"ฟันธงนองเลือดอีก
     ขณะเดียวกัน พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นำโดย ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวม รปช.ในฐานะประธานคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนเป็นสมาชิกพรรค นำคณะผู้จัดตั้งพรรค ร่วมกิจกรรม “เดินคารวะแผ่นดิน” เพื่อเชิญชวนประชาชนสมัครเป็นสมาชิก รปช. ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 2 โดยเริ่มเดินจากมาร์เก็ต เพลส ทองหล่อ และเดินไปตามถนนสุขุมวิท ผ่านศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ศูนย์การค้าไทม์สแควร์ จากนั้นในช่วงบ่ายจะเดินต่อไปที่ห้าง เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลเวิลด์ ศูนย์สยามพารากอน และสยามสแควร์
     ทั้งนี้ ก่อนเริ่มเดินรณรงค์หาสมาชิกพรรค นายสุเทพ กล่าวกับสมาชิกพรรคและทีมงานว่า การเดินรณรงค์ครั้งนี้ เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนสมัครเป็นสมาชิกพรรคนั้น ห้ามพูดลักษณะเชิญชวนให้เลือกพรรค รปช. และต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน            
    ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้รับเชิญให้ไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ในหัวข้อ “การเมืองไทยหลังการคลายล็อกทางการเมือง” โดยมีนิสิตทั้งสงฆ์และฆราวาสเข้าร่วมฟังกว่า 100 คน โดยนายธนาธรกล่าวถึงอุปสรรคที่พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน นั่นก็คือการถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการทำกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งเรื่องนี้กระทบถึงประชาชนด้วย เพราะการที่พรรคการเมืองจะทำอะไรยังต้องขออนุญาตจาก คสช. จะบอกนโยบายก็ไม่ได้ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับทราบข้อมูลที่ควรจะได้รับทราบเพื่อตัดสินใจในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง 
    นายธนาธรยังกล่าวถึงการใช้ข่าวปลอมจงใจโจมตีนักการเมืองที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย เช่น ตนเองถูกปล่อยข่าวปลอมว่าเป็นมุสลิม หรือไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน แต่เป็นการจงใจกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะตนไปท้าทายผู้มีอำนาจ  
    "ไม่ว่าความเป็นไปได้จะไปทางไหน มีโอกาสสูงที่ประเทศจะกลับสู่ความวุ่นวายหลังเลือกตั้ง หากฝ่ายประชาธิปไตยชนะ อาจเกิดรัฐประหารอีก และประชาชนอาจทนไม่ไหว ลงสู่การเมืองบนท้องถนน หรือหาก พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ ต่อผ่านกลไกที่วางไว้ในรัฐธรรมนูญ คนก็อาจลุกฮือ เพราะหมดความอดทนเช่นกัน นำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกและนองเลือดอีกครั้ง กลับสู่วังวนเดียวกับทศวรรษที่ผ่านมา" นายธนาธรกล่าว
    นายธนาธรกล่าวต่อว่า ข้อเสนอเดียวที่มีอยู่ในสังคมตอนนี้คือ การที่ฝ่ายประชาธิปไตยต้องได้เสียงรวมกันในสภาเกิน 375 เสียง หรือกึ่งหนึ่งของรัฐสภา เพื่อผลักดันการลงประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ถอนรากถอนโคนการสืบทอดอำนาจรัฐบาล คสช. และลบล้างผลพวงของการรัฐประหาร มีการประชาพิจารณ์และประชามติรับรองร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายอย่างแท้จริง
    ทั้งนี้ ในงานมีผู้สนใจถ่ายรูปร่วมกับนายธนาธรจำนวนมาก รวมถึงพระสงฆ์ โดยพระรูปหนึ่งได้ขอถ่ายรูปร่วมกับนายธนาธรและอวยพรว่า “ขอให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี”
    น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค อนค. กล่าวว่า การเดินทางมายังอีสานใต้ของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ตั้งแต่ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ก็เพื่อรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชน และรับสมัครสมาชิกพรรค สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่ประสบ คือการที่เจ้าหน้าที่รัฐติดตามไปแทบจะในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะทหารในชุดลายพราง ซึ่งตามเข้าไปถึงยังตลาดของเอกชน ที่พรรคขออนุญาตแล้วว่าจะมาประชาสัมพันธ์รับสมัครสมาชิก ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนแทบจะในทันที จากที่ประชาชนยินดีรับโบรชัวร์แนะนำพรรค ยิ้มแย้ม และขอถ่ายรูปรูปด้วย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามา ทุกอย่างกลับกลายเป็นความเงียบ
อย่ายกหางตัวเอง
    "ประเทศกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง พรรคการเมืองทุกพรรคควรที่จะสามารถเดินทาง จัดกิจกรรมได้อย่างเสรี ไม่ว่าจะเป็นพรรคที่หนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. หรือพรรคที่ไม่หนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. ก็ตามอยากถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ดูแลด้านความมั่นคงว่า ท่านได้รับรู้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้หรือไม่ ทำไมพรรคการเมืองบางพรรคสามารถเดินได้อย่างเสรี แต่พรรคอนาคตใหม่กลับมีเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบเข้ามาติดตามคุกคาม" น.ส.พรรณิการ์กล่าว
    ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร กล่าวว่า ขณะนี้เข้าสู่บรรยากาศของการเลือกตั้งแล้ว อยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่ขัดแย้งกัน แต่กลับมีบางกลุ่ม บางพรรคการเมืองพยายามใช้วาทกรรมสร้างบรรยากาศที่ไม่ดีเพื่อหวังผลคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง เช่น การกล่าวหาคสช.ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร ว่ามีทหารติดตามการเดินสายหาสมาชิก ทั้งๆ ที่ผ่านมากลุ่มสามมิตรลงพื้นที่รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนมา 5 เดือน มีทหาร ตำรวจ มาดูแลความปลอดภัยบ้าง แต่ก็ยังไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ จะกล่าวหาโจมตี สร้างเงื่อนไขกันทำไม สู้เอาเวลาไปคิดนโยบายดีๆ ให้กับประชาชนดีกว่า ไม่ใช่เที่ยวกล่าวหาพรรคนั้นพรรคนี้ว่าสนับสนุนเผด็จการ แล้วยกหางตัวเองว่าเป็นพรรคที่สนับสนุนประชาธิปไตย อย่าผูกขาดความรักความศรัทธาของประชาชนไว้คนเดียวด้วยการสร้างความเกลียดชังให้อีกฝ่าย
    มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า สำหรับแนวทางการรองรับหากกรณีพรรคเพื่อไทยมีแนวโน้มจะโดนยุบพรรคจริง จะให้สมาชิกย้ายไปยังพรรคเพื่อธรรมที่เป็นพรรคหลัก โดยผู้ที่จะไปร่วมงาน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีโอกาสได้รับการเลือกตั้งในระบบเขตเลือกตั้งกลับมา ขณะที่พรรคไทยรักษาชาติ จะเป็นพรรคทางเลือกอีกหนึ่งแนวทาง โดยจะเน้นดึงคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อเป็นหลัก ในส่วนของการเลือกหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่ 28 ต.ค. เป็นที่ลงตัวแล้วว่าจะใช้ระบบ 2 ขา ในแง่นิตินัย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ทำหน้าที่หัวหน้าพรรค ดูแลกิจการภายในพรรคเป็นหลัก แต่ในแง่พฤตินัย การกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์การเมือง จะมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เข้ามาทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ร่วมกับคณะทำงานคนใกล้ชิด ที่จะมีการตั้งคณะทำงานมาช่วยงาน 
      ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ กรุงเทพ กรุงเทพ ในแวดวงของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหนีคดีโกง โพสต์ข้อความและรูปเหน็บแนม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และกลาโหม กรณีนาฬิกาเพื่อนว่า ลุงแม้วซื้อเอง ไม่ได้ยืมเพื่อน Patek Philippe Grandmaster Chime Ref. 6300 ราคา 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำจากทองคำขาว 18K มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 47.4 มม. และหนา 16.1 มม.  ตกแต่งด้วยด้านข้างด้วย guilloched เป็นนาฬิกาข้อมือที่มีความซับซ้อนที่สุดในโลก Patek Philippe The Grandmaster Chime #เรื่องนาฬิกาไม่มีการเมือง ภาพถ่ายที่ร้าน Omnia Baharat เป็นร้านอาหารอินเดีย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"