ตำรวจเยี่ยม "ฮาวา" แจงตั้งด่านถูกระเบียบ ขณะที่ผู้เสียหายยังติดใจ ชี้รวบรัดสรุปคดีทั้งที่พฤติกรรมเจ้าหน้าที่ไม่ถูกต้อง ทนายเกิดผลรับว่าความเอาผิด 2 เจ้าหน้าที่ ผบ.ตร.สั่งปรับยุทธวิธี
เมื่อวันที่ 30 มกราคมนี้ พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล ผกก.1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เข้าเยี่ยม น.ส.อรวี ชูชื่น หรือฮาวา นักร้องสาว ที่โรงพยาบาลวิภาวดี หลังประสบอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกพุ่งชนรถเก๋งที่เธอนั่ง บนถนนบางปะหันมุ่งหน้าบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับบาดเจ็บ สืบเนื่องจากตำรวจทางหลวง 2 นาย พยายามจับกุมรถบรรทุกที่วิ่งช่องทางขวา โดยยืนกลางถนนโบกให้จอด ทำให้คนเก๋งคันหน้าเข้าใจผิดเบรกกะทันหัน รถที่ น.ส.อรวีนั่งจึงเบรกตาม แต่รถบรรทุกที่วิ่งตามหลังเบรกไม่ทันพุ่งชนท้าย ซึ่งหลังจากมีการเผยแพร่เรื่องราวไปในสังคมออนไลน์ ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่าตำรวจตั้งด่านลอยใช่หรือไม่
พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์เปิดเผยภายหลังว่า ได้อธิบายถึงวิธีการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร โดยยืนยันว่าในวันดังกล่าว ตำรวจทางหลวงทั้ง 2 นายปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่ด่านลอย ซึ่งเชื่อว่าผู้เสียหายจะเข้าใจ ส่วนการสอบสวนข้อเท็จจริงจะมีการเรียกผู้ขับขี่รถทุกคันที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลกับตำรวจ และรวบรวมพยานแวดล้อมอื่นๆ เพื่อสรุปถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น
"ส่วนเรื่องที่คนขับรถบรรทุกอ้างว่าพื้นผิวการจราจรช่องซ้ายชำรุด จึงต้องมาใช้ช่องทางจราจรด้านขวานั้น ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะได้รับการยกเว้นทางกฎหมาย ซึ่งในอนาคตตำรวจทางหลวงอาจปรับปรุงยุทธวิธีในการเรียกหยุดรถที่ฝ่าฝืนกฎจราจร โดยการนำกล้องอัตโนมัติมาใช้จับภาพและออกใบสั่งแทน" พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ระบุ
ด้าน น.ส.อรวี และนายกชกร มิ่งบุญ แฟนหนุ่มคนขับรถที่ประสบเหตุ ยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุเห็นสัญญาณมือของตำรวจทางหลวง ในลักษณะที่ทำให้เข้าใจว่าให้หยุดรถ ประกอบกับรถคันหน้าก็เบรกกะทันหันจึงต้องหยุดรถตาม ซึ่งส่วนตัวมองว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจครั้งนี้สุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดอันตรายกับผู้ขับขี่บนถนน อยากให้เจ้าหน้าที่ออกมารับผิดชอบต่อการกระทำ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะว่าหลังเกิดเหตุยังไม่ได้รับคำขอโทษจากตำรวจทั้ง 2 นาย และมองว่าการสอบสวนก็เสร็จสิ้นเร็ว โดยระบุคนขับขี่รถบรรทุกเป็นฝ่ายผิดแต่เพียงผู้เดียว ทั้งไม่มีการเรียกสอบปากคำฝ่ายตนเอง ว่าสาเหตุที่ต้องหยุดรถกะทันหันเพราะเหตุใด
ขณะที่นายมนตรี ยาประดิษฐ์ อายุ 47 ปี คนขับรถบรรทุก กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุวิ่งมาด้วยความเร็วประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในช่องทางด้านขวา เนื่องจากช่องทางด้านซ้ายสุดชำรุด อาจทำให้เกิดอันตรายรถพลิกคว่ำ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เห็นตำรวจทางหลวงโบกให้จอดกระชั้นชิด ระยะประมาณ 30 เมตร ทำให้ตนเองหยุดรถไม่ทัน เนื่องจากเป็นรถบรรทุกน้ำจำนวนมาก และหากหักพวงมาลัยหลบก็จะทำให้พลิกคว่ำ ซึ่งตนเองก็ยอมรับว่าทำผิดกฎจราจรที่วิ่งเลนขวา แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุรถชนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์การขับรถบรรทุกที่ผ่านมา ส่วนตัวเห็นว่าวิธีการของเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อนข้างที่จะเสี่ยงอันตรายต่อตนเองและผู้ขับขี่รายอื่น ซึ่งที่ผ่านมาก็มีตำรวจทางหลวงถูกรถบรรทุกชนเสียชีวิต เนื่องจากรถบรรทุกเบรกไม่ทันในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง อย่างเช่นในพื้นที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เมื่อไม่นานมานี้
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งให้ตำรวจทุกนายต้องตั้งด่านตรวจตามกฎหมาย คำนึงถึงความปลอดภัยของตำรวจเองและประชาชน ทั้งนี้ การตั้งด่านตรวจจุด ว.43 มี 3 ลักษณะ คือ การตั้งด่านตรวจ, การตั้งจุดตรวจ และการตั้งจุดสกัด กรณีตำรวจทางหลวงพระนครศรีอยุธยา เป็นการตั้งจุดสกัดเร่งด่วน ซึ่งเห็นความผิดซึ่งหน้า โดยรถบรรทุกใช้ช่องขวาสุดและทำความเร็ว เจ้าหน้าที่จึงสกัด แต่รถบรรทุกไม่สามารถหยุดรถได้กะทันหัน จึงเกิดอุบัติเหตุ ต่อไปจะปรับยุทธวิธีให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมมากขึ้น จากแต่เดิมที่ใช้วิธีโบกเรียก อาจเปลี่ยนใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้น เช่น ถ้าจะเรียกรถตรวจต้องมีป้ายสัญญาณไฟ เป็นต้น
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ผบ.ตร.ขอบคุณประชาชนที่แชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์นำไปปรับปรุงในการบริการของตำรวจให้ดียิ่งขึ้น ขอยืนยันเหตุดังกล่าวไม่ใช่ด่านลอย แต่เป็นเหตุซึ่งหน้า ปกติรถบรรทุกต้องขับเลนซ้าย แต่ตอนเกิดเหตุกลับไปขับเลนขวาจึงต้องเรียกโบก ส่วนตำรวจ 2 นายที่ออกไปตรวจจับรถบรรทุก ขณะนี้ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้ไปรายงานตัวที่ บก.ทล.แล้ว เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง
วันเดียวกัน นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความอิสระ ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ได้ประสานกับนายกชกร แฟน น.ส.อรวี หรือฮาวา เรียบร้อยแล้ว โดยนายเกิดผลจะดำเนินคดีกับตำรวจที่ก่อเหตุให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สินต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |