'บิ๊กป้อม' แก้เกม 'แม้ว' ขู่ 'ยุบพรรค' หลอน พท.


เพิ่มเพื่อน    


    ปกติ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แทบไม่เคยพูดถึงชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีก่อน ถ้าไม่ถูกผู้สื่อข่าวถามถึง
    นั่นเพราะส่วนหนึ่งที่ผ่านมา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ต้องการให้คนพูดถึง เพื่อทำให้ “ทักษิณ” กลับมามีความสำคัญหรือเกิดกระแสภายในประเทศ
    แต่ครั้งนี้ผู้สื่อข่าวไม่ได้ถาม แต่เป็น “บิ๊กป้อม” พูดขึ้นมาก่อน พร้อมกับตำหนิว่า เหตุใดจึงนำเสนอข่าวเรื่องที่ “ทักษิณ” บงการพรรคเพื่อไทย เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ยิน
    แน่นอนแม้ “บิ๊กป้อม” จะอ้างว่าไม่สามารถไปสั่งการ  กกต.ให้ตรวจสอบ แต่เป็นที่รู้กันว่าบุคคลอิสระที่ได้รับการแต่งตั้งในยุคของ คสช. ส่วนใหญ่ถูกคัดกรองมาจากผู้มากบารมีในรัฐบาลปัจจุบันทั้งสิ้น
    แต่การที่ “บิ๊กป้อม” พูดขึ้นเองผ่านสื่อ เพราะเจตนาต้องการส่งสัญญาณไปยังพรรคเพื่อไทย และอยู่เบื้องหลังพรรคอย่าง “ทักษิณ”
    เนื่องจากระยะหลังมานี้ หลังจากรัฐบาลมีความชัดเจนว่าจะจัดการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 มีการคลายล็อกให้พรรคการเมืองเตรียมตัว “ทักษิณ” กลับมามีความเคลื่อนไหวที่ถี่และหนักขึ้น
    ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนมาใช้ยุทธศาสตร์ “แตกพรรคสาขา” กำเนิดพรรคเพื่อธรรม พรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติไทย และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน เพื่อมาเก็บคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ เนื่องจากระบบการนับคะแนนแบบจัดสรรปันส่วนผสม จะทำให้ปริมาณ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยมีปริมาณลดลง
    การบินมารอบๆ ประเทศ เพื่อบัญชาการเองในการจัดทัพ การเลือกผู้นำ ตลอดจนการออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งในประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้น
    เริ่มตั้งแต่การให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่น ว่า ฝ่ายทหารกำลังจะหมดอำนาจ หากฝ่ายประชาธิปไตยได้ที่นั่งในสภาเกิน 300 ที่นั่ง
    นอกจากนี้ ในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ “ทักษิณ” มีกำหนดการบรรยายหัวข้อการเลือกตั้งและอนาคตของประชาธิปไตย ที่มหาวิทยาลัยสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
    เป็นการออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับก่อนการเลือกตั้งปี 2554 เพื่อดึงดูดความสนใจมาที่ตัวเอง และพรรคเพื่อไทย เพื่อสร้างกระแสให้เกิดขึ้นภายในประเทศ
    ขณะเดียวกัน ยังคิดว่า การตั้งพรรคสาขาแล้ว ไม่จำเป็นต้องกลัวการถูกยุบพรรค จึงให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ไม่เกรงกลัวต่อวิธีการดังกล่าวของฝ่ายตรงข้าม
    ทว่า การส่งสัญญาณของ “บิ๊กป้อม” ครั้งนี้ ก็กระทุ้งกันให้เห็นว่า ฝ่ายอำนาจสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น ไม่ใช่แค่ยุบพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว
    โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า การให้สัมภาษณ์ของ “ทักษิณ” กระทบกับทุกพรรค ซึ่งถูกตีความว่า แม้แต่พรรคสาขาที่ตั้งขึ้นมาก็ย่อมอยู่ในจุดเสี่ยง
    แต่เจตนาครั้งนี้ดูเหมือนว่า “บิ๊กป้อม” ต้องการเพียงแค่ขู่เพื่อเป็นการตอบโต้การเคลื่อนไหวที่หนักหน่วงของอีกฝั่งให้หวาดระแวง เพราะหากจะทำจริงย่อมไม่เหนือบ่ากว่าแรง เพราะหลักฐานที่เชื่อมโยงว่า “ทักษิณ” ครอบงำพรรคเพื่อไทย และพรรคสาขานั้นมีอยู่ไม่น้อย เพียงแค่หยิบขึ้นมา
    หนำซ้ำเรื่องยุบพรรคเป็นเรื่องที่คนในพรรคเพื่อไทยบางคนเองแสดงออกมาบ่อยครั้งว่า ยังกลัวจะเกิดขึ้น เมื่อ “บิ๊กป้อม” กระทบชิ่งมาถึงมันจึงเกิดปฏิกิริยาผวาในทันที
    โดยเฉพาะแผลของคณะกรรมการบริหารพรรค 9 คน ที่แถลงประเมินผลงาน 4 ปี คสช. จนถูกดำเนินคดีข้อหาขัดคำสั่ง คสช. ซึ่งอัยการจะสรุปว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้
    ขณะที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ผู้ที่จะสมัคร ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมืองก่อน 90 วันที่จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งถ้าการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 วันสุดท้ายที่ผู้จะสมัคร ส.ส.ต้องมีสังกัดคือ 26 พฤศจิกายนนี้
    นั่นหมายความว่า ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อธรรม เพื่อชาติ ฯลฯ จะได้สมาชิกที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ครบหมดแล้ว ไม่สามารถย้ายพรรคได้อีกหลังจากนั้น
    ถ้ามีพรรคใดถูกยุบหลังวันที่ 26 พฤศจิกายน จะทำให้คนเหล่านี้ไร้สังกัด ไม่สามารถลงสมัคร ส.ส.ได้ เพราะขาดคุณสมบัติ และนี่จึงเป็นเหตุทำให้เกิดความหวาดระแวงอย่างมากในการจัดทัพ
    ซึ่ง “บิ๊กป้อม” รู้ว่า นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกลัว เลยกระทุ้งไปที่ “บาดแผล”.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"