25 ต.ค.61- ที่กระทรวงสาธารณสุขศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการยกร่างพ.ร.บ.ยา พ.ศ....ว่า หลังจากพบว่าร่างพ.ร.บ.ยา ที่เสนอเข้าครม.ยังมีความคิดเห็นต่างกันอยู่จึงได้ถอนเรื่องออกมาเพื่อทำการปรับแก้ให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกัน ซึ่งพ.ร.บ.ดังกล่าวมีมากถึง 200 มาตรา และยังมีข้อถกเถียงในรายละเอียดอีกมาก ดังนั้นในการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (25 ต.ค.) ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำเอา 18 มาตราในร่างพ.ร.บ.ยาฉบับนี้ที่มีความเกี่ยวข้องกับคำสั่งคสช. มาตรา 44 ให้มาพิจารณาก่อน เพื่อความรวดเร็ว โดยให้มีการเชิญภาคเอกชน เภสัชกร อาจารย์มหาวิทยาลัย และผู้เกี่ยวข้องมารับฟังความเห็นในการปรับแก้และรับฟังความเห็นให้แล้วเสร็จภายในพ.ย.นี้
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการอย. กล่าวว่า ในวันที่26 ต.ค.จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อพิจารณาขอความเห็นชอบเกี่ยวกับ 18 มาตรา ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่มีปัญหา ไม่กระทบกับวิชาชีพใดมาขอความเห็นชอบอีกครั้ง ก่อนเสนอให้รมว.นำเสนอต่อครม. คล้ายร่างพ.ร.บ.ยาฉบับเล็กโดยเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องของการใช้มาตรา 44 เพิ่มประสิทธิภาพให้กับอย. ในการขึ้นทะเบียนตำรับยา อายุการขึ้นทะเบียนยา รวมถึงการแก้ไขอัตราค่าธรรมเนียม และยังเกี่ยวเนื่องกับการศึกษาวิจัย การส่งเสริมอุตสาหกรรมยา เป็นต้น
นพ.ธเรศ กล่าวต่อว่า ส่วนเนื้อหาร่างพ.ร.บ.ยา อื่นๆ ที่กระทบต่อวิชาชีพ อาทิ วิชาชีพเภสัชกรรม ใบอนุญาตจ่ายยาในขย. 2 เป็นต้น จำเป็นต้องรับฟังความคิดเห็นให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน โดยจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อรับฟัง รวมถึงหาคนกลางเข้ามาช่วยดูในบางเรื่องที่มีผลกระทบกับวิชาชีพ ผู้ประกอบการ เจ้าของร้านขายยา ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการทุกอย่างยังอยู่ในกรอบที่จะเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ทันภายในเดือน พ.ย. หรืออย่างช้า ภายในเดือน ธ.ค.นี้.