24 ต.ค.61- นายวรรณี ขันขวา ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าโคกหนองม่วง ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น กล่าวถึงข้อกังวลในการปกป้องพื้นที่ป่าโคกหนองม่วง ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสาธารณะที่ขึ้นทะเบียนเป็นที่ นสล. เลขที่ 17426 , 17427 เนื้อที่ 209 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้เมืองบ้านไผ่และยังคงความอุดมสมบูรณ์ให้ชุมชนได้เก็บหาผลผลิตและพึ่งพิง ทั้งนี้ ด้วยความเป็นป่าที่อยู่ใกล้เมือง จึงเริ่มมีการบุกรุกแผ้วถาง เข้าไปจับจอง และขายพื้นที่ ในขณะที่ชุมชนบ้านหนองร้านหญ้า ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เป็นชุมชนที่ดูแลรักษาพื้นที่มาตั้งแต่บรรพบุรุษ เห็นว่าป่าเริมมีการบุกรุก และหากปล่อยไปจะรุนแรงมากขึ้น
นายวรรณี กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์การบุกรุกป่าที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมา กลุ่มชาวบ้านจึงได้มีการดำเนินการ การจัดตั้งคณะกรรมการกลุ่มอนุรักษ์ป่าโคกหนองม่วง -คณะกรรมการได้มีการทำกิจกรรมการอนุรักษ์ และพื้นฟูป่า เช่น กิจกรรมธรรมชาติยาตรา และการบวชป่า กิจกรรมการปลูกป่า การขอคืนพื้นที่ป่าหัวไร่ปลายนาจากชุมชน นอกจากนี้ ยังได้ ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดทำ“โครงการศึกษาแนวทางการอนุรักษ์ และพื้นฟูพื้นที่ป่าสาธารณะในเขตใกล้เมือง โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน กรณีป่าโคกหนองม่วง ซึ่งผลจากการวิจัยชุมชนได้มีมติร่วมกันว่าแนวทางในการรักษาพื้นที่ป่าที่เหมาะสมกับพื้นมากที่สุด คือ การจัดทำคลองดักน้ำชลอความชื้นและทำคันคูรอบป่าเพื่อกันแนวเขต /การพัฒนาพื้นที่เพื่อเป็นห้องเรียนทางธรรมชาติของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองร้านหญ้า-โนนข่า และประชาชนทั่วไป / การส่งเสริมการปลูกพันธุ์ไม้เศรษฐกิจพื้นถิ่นเพื่อฟื้นฟูป่าให้ให้ชุมชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
นายวรรณี กล่าวต่อว่า ต่อมาชุมชนได้ประสานเสนอโครงการขุดลอกทำคันคูดินกันแนวเขตป่า เพื่อขอรับการสนับสนุนจาก มูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสำนักงานสารสนเทศน้ำเพื่อการเกษตรกรรม (สสนก.) ในการพัฒนาแหล่งน้ำประจำปี 2561 ทั้งนี้ ทางมูลนิธิได้พิจารณา เห็นชอบและอนุมัติโครงการงบประมาณสนับสนุนการดำเนินโครงการ 444,000 บาท และให้ทางชุมชนมีการประชาคมหมู่บ้านรับฟังความคิดเห็นจากชุมชนร่วมกับ อบต. เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 61 ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำชุมชนบ้านหนองร้านหญ้าเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ขณะเดียวกัน กรรมการได้มีการประสานเพื่อเสนอขอดำเนินโครงการการตามระเบียบของส่วนราชการเนื่องจากเป็นพื้นที่ นสล. เพื่อขอดำเนินโครงการ
ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าโคกหนองม่วง กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐ ภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้มีการปรึกษาหารือ และมีข้อกังวลถึงปัญหา ในข้อกฎหมายเนื่องจากการดำเนินโครงการไม่ได้ดำเนินการโดยภาครัฐ ซึ่งดำเนินการโดยชุมชน ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิอุทุกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งรัฐมองว่าเป็นเอกชน ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ อาจมีข้อจำกัดในการให้งบประมาณดำเนินการหน่วยงานของรัฐ จึงแจ้งด้วยวาจาว่าจะส่งเรื่องให้รัฐส่วนกลางพิจารณา ทางกลุ่มชาวบ้านมีข้อกังวลเรื่องดังกล่าว และอยากให้พิจารณาหาช่องทางในการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าโคกหนองม่วง ระบุว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ชุมชนมีข้อสงสัยถึงปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการ เนื่องจากการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวมีการดำเนินการในหลายพื้นที่แล้ว ทางชาวบ้านจึงได้เดินทางไปกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอความกระจ่างโดยมีข้อเสนอ คือ 1. ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย พิจารณา หาช่องทางเพื่อให้ชุมชนดำเนินการจัดทำร่องน้ำ และคันคูเพื่อกันแนวเขตภายใต้งบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิอุทกพัฒน์ร่วมกับชาวบ้าน เพื่อรักษาพื้นที่ป่าสาธารณะซึ่งเป็นป่าใกล้เมืองผืนสุดท้ายที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ให้คนจนและชุมชนได้พึ่งพิงในการใช้ประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งเป็นปอดของเมืองบ้านไผ่ที่กำลังเป็นพื้นที่ศูนย์กลางการพัฒนาเส้นทางขนส่งภาคอีสาน สู่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
2. ขอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาตรวจสอบ และรับรองการอยู่ของชุมชนดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ชายป่าโคกหนองม่วงมายาวนาน โดยกำหนดกฎกติกา ขอบเขตของการอยู่ที่ไม่สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ป่า และให้มีการป้องกันสกัดกั้นนายทุน คนภายนอกที่มาซื้อพื้นที่ ทั้งนี้ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ชาวบ้านในพื้นที่มีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมที่ดิน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการปกครอง ลงพื้นที่ป่าโคกหนองม่วง ณ วัดบูรณะสิทธิ์พระเจ้าใหญ่ผือบัง ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ เพื่อหาข้อยุติร่วมกันด้วย .
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |