“สนธิรัตน์” นำทีมบิ๊กเอกชน “ซีพีเอฟ-ใบหยก” และกลุ่มผู้ประกอบการด้านก่อสร้าง ออกแบบ สุขภาพและความงาม ค้าปลีก อัญมณีและเครื่องประดับ เยือนบาห์เรน หาโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุนของไทยเจาะเข้าสู่ตลาดตะวันออกกลาง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชน เช่น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กลุ่มใบหยก และผู้ประกอบการในภาคการผลิต การก่อสร้าง การออกแบบ สุขภาพและความงาม ค้าปลีก อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น เดินทางไปเยือนบาห์เรนระหว่างวันที่ 27-28 ต.ค.2561 เพื่อหาลู่ทางในการขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้กับผู้ประกอบการของไทยในการเจาะเข้าสู่ตลาดตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะใช้โอกาสนี้เข้าพบปะหารือกับนายซาเยด บิน ราชิด อัล ซายานี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมพาณิชย์และการท่องเที่ยวของบาห์เรน เพื่อสานต่อความร่วมมือทางการค้า การลงทุน และการผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตด้านอาหารให้กับบาห์เรน เนื่องจากไทยมีศักยภาพในการผลิต และบาห์เรนมีความต้องการนำเข้าอาหารและสินค้าเกษตรจากไทย เช่น ข้าว น้ำตาล น้ำมันพืช อาหารกระป๋อง ผักและผลไม้ ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยผลิตได้ถูกต้องตามมาตรฐานฮาลาล จึงมั่นใจว่าอาหารไทยจะเจาะเข้าสู่ตลาดบาห์เรนได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ จะมีการหารือถึงการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนการค้าและคณะนักธุรกิจ การติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งศูนย์การค้าปลีกสินค้าและบริการของไทยในบาห์เรน การส่งเสริมความร่วมมือในอุตสาหกรรมยางพารา การเชิญชวนบาห์เรนเข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และยังจะจัดให้มีกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการของบาห์เรนด้วย
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ยังได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไปสำรวจโอกาสในการขยายการค้าของไทยในตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และตะวันออกกลาง โดยให้ไปดูว่าจะใช้โอกาสในการส่งออกสินค้าไทยผ่านท่าเรือ Jebel Ali ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลางและอันดับ 6 ของโลกได้อย่างไร หรือจะใช้การเชื่อมโยงการขนส่งจากทางเรือสู่อากาศผ่านท่าอากาศยาน Al Maktoum ได้อย่างไร รวมถึงให้สำรวจโอกาสในการขยายตลาดอัญมณีและเครื่องประดับของไทย สินค้าหัตถกรรมและของตกแต่งบ้านของไทยเข้าสู่ตลาดตะวันออกกลางด้วย
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การเดินทางไปบาห์เรนครั้งนี้ จะไปหาโอกาสในการขยายตลาดสินค้าให้กับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะสินค้าอาหารที่ไทยมีศักยภาพ และการขยายตลาดการค้าบริการ โดยเฉพาะในด้านการก่อสร้าง ที่ปีหน้าในบาห์เรนและตะวันออกกลางจะมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เกิดขึ้นมาก จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะเข้าไปลงทุน
ปัจจุบัน บาห์เรนเป็นคู่ค้าลำดับที่ 65 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับ 9 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยการค้าสองฝ่ายในปี 2560 มีมูลค่า 290.12 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปบาห์เรนเป็นมูลค่า 155.91 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากบาห์เรนเป็นมูลค่า 134.21 ล้านเหรียญสหรัฐ เกินดุลการค้า 21.70 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ เครื่องซักผ้าและอบแห้งเม็ดพลาสติก และผลิตภัณฑ์พลาสติก สินค้านำเข้าสำคัญจากบาห์เรน ได้แก่ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูป และกึ่งสำเร็จรูป เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |