พรรคเพื่อไทยโปรดทราบ.....
    ฟัง "ทักษิณ" มากระวัง หลังเลือกตั้งจะกระอักเลือดตาย
    ไอ้ที่ขี้โม้ว่า เพื่อไทยได้ ๓๐๐ เสียง ฝากฝ่ายกฎหมายพรรคไปอ่านรัฐธรรมนูญ แล้วแปลเป็นไทยให้ลูกพรรคฟังหน่อย
    จะได้ไม่มั่วทีหลัง 
    โอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะได้ ๓๐๐ ที่นั่งนั้นเป็นศูนย์
    เพราะอะไร? 
    ที่จริงมีการอธิบายไปเยอะว่ากติกาตามรัฐธรรมนูญใหม่ เอื้อพรรคขนาดกลาง มากกว่าพรรคขนาดใหญ่ 
    ดูเหมือนว่าคนในพรรคเพื่อไทย ไม่เข้าใจ
    คงไม่อ่าน เพราะเห็นว่าเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการ จึงไม่อยากจะทำความเข้าใจ
    กระนั้นก็ตาม เกลียดตัวกินไข่ เตรียมสมัครรับเลือกตั้ง 
    แต่...ปล่อยให้ "ทักษิณ" หลอก ว่าได้แน่ ๓๐๐ ที่นั่ง 
    พวกอดีต ส.ส.ก็เฮตามนายใหญ่
    "จตุพร พรหมพันธุ์" คงใช้เวลาในคุกทำความเข้าใจรัฐธรรมนูญ นั่นทำให้เขาเข้าใจรัฐธรรมนูญมากกว่าทุกคนในเพื่อไทย 
    การแยกมาตั้งพรรคเพื่อชาติ ก็คือกลยุทธ์ทางการเมือง เพราะมองเห็นว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.ปร์ตี้ลิสต์ไม่กี่คน หรืออาจไม่ได้เลย!    
    พรรคขนาดกลาง ขนาดเล็กจะได้ประโยชน์จากการบวกลบคูณหารระบบปาร์ตี้ลิสต์แบบใหม่ไปเต็มๆ 
    นักการเมืองในพรรคเพื่อไทยควรไปดูที่ "จตุพร" ยกตัวอย่าง จะได้ตาสว่าง
    การเลือกตั้งเมื่อ ปี ๒๕๕๔ พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ในระบบเขต ๒๐๔ เขต จากจำนวนเขตทั้งหมด  ๓๗๕  เขต 
    ได้ ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ ๖๑ ที่นั่ง จากจำนวน ๑๒๕ ที่นั่ง
    หากนำคะแนนเดียวกันนี้ มาคิดตามหลักรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๖๐ ตามระบบบัตรใบเดียว พรรคการเมืองที่จะได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จะมาด้วยการนำยอดผู้มาใช้สิทธิ์หารด้วยจำนวน ส.ส.ทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ 
    คือ ๕๐๐ คน 
    ในปี ๒๕๔๔  เฉลี่ยแล้ว ส.ส. ๑ คน จะต้องมีคะแนน ๗ หมื่นคะแนน
    ดังนั้นเมื่อพรรคเพื่อไทยได้ ๒๐๔ เขต เอาคะแนนรวมกันแล้ว นำ ๗ หมื่นไปหาร จะได้ประมาณ  ๑๘๗ ถึง ๑๙๐ ที่นั่ง 
    ทำให้ไม่ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
    นั่นคือสูตรของ "จตุพร" 
    แต่อธิบายง่ายๆ แบบนี้
    พรรคไหนจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง วิธีคำนวณคือ นำคะแนนทั้งหมดที่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่งได้รับทั้งประเทศ มาคำนวณจากสัดส่วนทั้งหมดของคนมาลงคะแนนว่าจากจำนวนเต็ม ส.ส. ๕๐๐ คน พรรคนั้นควรจะได้กี่คน 
    ยกตัวอย่างพรรคเพื่อไทยควรได้ ๒๐๐ คน หากได้ ส.ส.เขตแล้ว ๑๙๕  คน ก็จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพิ่มมาอีกเพียง ๕ คนเท่านั้น
    เพราะเต็มเพดาน ๒๐๐ คน
    แต่หากได้ ส.ส.เขตแล้ว ๒๐๐ คนหรือมากกว่า ก็จะไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แม้แต่คนเดียว
    และผลการเลือกตั้งวันที่ ๒๔ ก.พ. พรรคเพื่อไทยไม่น่าจะได้เกิน ๒๐๐ เสียง หรืออาจจะต่ำกว่านั้น
    ฉะนั้นทักษิณเอา ๓๐๐ มาจากไหน พรรคเพื่อไทยต้องไปหาคำตอบ 
    ต้มกันทำไม.