สวป.เฉลิมพระเกียรติยืมเงินชาวบ้าน 1 ล้าน แต่หาใช้ไม่ทันตามกำหนด แจ้งเรื่องถูก ผอ.กองคดี 1 ปปง.อายัดเงินไว้ โดยให้เพื่อนตำรวจรับสมอ้างพูดคุยทางโทรศัพท์ กระทั่งเจ้าทุกข์บุกไปหาถึงที่ทำงานจึงรู้ความจริง เจ้าตัวขอเวลาถึงสิ้นเดือนคืนเงินได้แน่ บิ๊กโจ๊กชี้มีโทษทางวินัย 
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 22 ตุลาคมนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงกรณีมีผู้แอบอ้างเป็นนายพีรพัฒน์ อิงพงพันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ไปกู้ยืมเงินจำนวน 1 ล้านบาท โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นสัญญาบัตรเข้าไปเกี่ยวข้อง ว่า ได้เชิญทั้ง 2 ส่วนเข้ามาพูดคุยกระทั่งความจริงปรากฏ นายพีรพัฒน์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เป็นการแอบอ้างของ พ.ต.ต.อธิสรรค์ โพธิ์ศรี สวป.สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา โดยได้ไปยืมเงินประชาชนมาจำนวน 1 ล้านบาท แต่ไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ จึงโกหกว่าเงินที่จะนำมาคืนถูกนายพีรพัฒน์อายัดไว้ พร้อมให้เบอร์โทรศัพท์ตำรวจอีกนายปลอมเป็น ผอ.พีรพัฒน์ เพื่อพูดคุยและส่งข้อความกันนานนับเดือน 
    ต่อมานายพีรพัฒน์ทราบเรื่อง จึงเรียกผู้เสียหายและตำรวจนายดังกล่าวมาพูดคุย เรื่องนี้ไม่ใช่การฉ้อโกง แต่เป็นการกู้ยืม โดย พ.ต.ต.อธิสรรค์ยินดีจะคืนเงินจำนวน 1 ล้านบาทให้ภายในสิ้นเดือนนี้ และทางผู้เสียหายก็ไม่ติดใจเอาความ แต่ในทางวินัยถือว่ามีความผิดแน่นอน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ได้เชิญผู้เสียหายและ พ.ต.ต.อธิสรรค์ มาชี้แจงด้วย ซึ่งผู้เสียหายเป็นชายเผยว่า พ.ต.ต.อธิสรรค์ได้มายืมเงินจำนวน 1 ล้านบาท บอกว่าจะนำเงินสหกรณ์มาคืน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด และมีบุคคลแอบอ้างเป็น ผอ.พีรพัฒน์ จึงได้มีการติดต่อพูดคุยถึงความเป็นมาต่างๆ กระทั่งมารู้ความจริงเมื่อเดินทางมาหา ผอ.พีรพัฒน์ ที่สำนักงาน ปปง. ท่านไม่รู้เรื่องอะไร จึงรู้ว่าถูกหลอก 
    ด้าน พ.ต.ต.อธิสรรค์กล่าวว่า ขอโทษผู้บังคับบัญชา ที่กระทำไปไม่ได้ตั้งใจจะพาดพิงถึง ผอ.พีรพัฒน์แต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการยื้อเวลาในการชดใช้หนี้
    ขณะที่นายพีรพัฒน์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ ปปง.ถูกแอบอ้างอยู่เรื่อยๆ หลายคน ขอชี้แจง การทำงานของ ปปง.มีการตรวจสอบถ่วงดุลเป็นมาตรฐานสากล ยืนยันว่าไม่มีช่องตรงไหนที่จะไปวิ่งเต้นดำเนินการเพื่อให้เกิดการบิดเบือนคดีได้ การเคลียร์คดีใน ปปง.ยืนยันเกิดขึ้นไม่ได้ แต่การแอบอ้างไม่มีทางที่จะหมดไปได้ ปปง.ทำงานแบบเชิงรุก ไม่ใช่เชิงรับเหมือนอดีต ถ้าองค์กร ปปง.เสียหายจะกระทบกับเรื่องมาตรฐานสากล ที่เราเพิ่งผ่านเทียร์มาได้ 3 ปี จากเดิมเคยถูกเฝ้าระวังการฟอกเงิน ขณะนั้นนักลงทุนต่างชาติไม่สามารถมาลงทุนบ้านเราได้ด้วยเหตุผลเป็นประเทศถูกเฝ้าระวัง แต่ขณะนี้ไม่มีตรงนั้น ยืนยันว่า ปปง.ไม่สามารถวิ่งเต้นคดีได้ เรื่องนี้ตนได้รับความเสียหาย องค์กรได้รับความเสียหาย แต่ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีอะไร ให้ทางตำรวจคนดังกล่าวเคลียร์เงินกับผู้เสียหายเสียก่อน จากนั้นค่อยว่ากัน.