บิ๊กโจ๊กเผยยังมีอีกหลายกลุ่มจัดปาร์ตี้สวิงกิ้งประกาศหาลูกค้าทางโซเชียล ยันเดินหน้าจับแหลก พนักงานสอบสวนส่ง "สาวต่าย" ขออำนาจศาลฝากขังผลัดแรก ปรากฏไม่มีใครยื่นประกัน ต้องนอนคุก น้องชายเผยพี่แค่คนขายน้ำในวัดลาดพร้าว ไม่รู้ว่าที่ทำไปผิดกฎหมาย 
    วันที่ 22 ตุลาคมนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. กล่าวถึงการจับกุมปาร์ตี้สวิงกิ้งที่ย่านวังทองหลาง ว่า เป็นเพราะมีพลเมืองดีแจ้งมาที่เฟซบุ๊ก “สุรเชษฐ์ หักพาล” มีบุคคลผู้ใช้งานแอปพลิเคชันบีทอล์ก (Beetalk) ชื่อ "Taiza" ได้โพสต์ข้อความจัดหาคนและสถานที่สำหรับการสวิงกิ้ง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวคือ น.ส.ภัสสรัณญ์ ถึกป่าย หรือต่าย จะมีการจัดกิจกรรมสวิงกิ้งในวันที่ 20 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึงวันที่ 21 ต.ค. เวลา 03.00 น. ที่ห้องโคลงเคลงช้าง โรงแรมโยทะกาบูทีค ย่านวังทองหลาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน คือ น.ส.ภัสสรัณญ์ ในข้อหา “เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง เมื่อผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม" และนายมานะ เกณงูเหลือม อายุ 28 ปี ในข้อหา “ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่รับอนุญาต” พร้อมทั้งตรวจปัสสาวะและสารเสพคิดผู้เข้าร่วมกิจกรรมสวิงกิ้งชายหญิงจำนวน 19 คน ซึ่งทั้งหมดไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด 
    พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการขยายผล ยังพบว่ามีกลุ่มที่ได้กระทำในลักษณะดังกล่าวอยู่อีกหลายกลุ่ม มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบว่ามีการจัดกิจกรรมขึ้นอีกก็จะต้องถูกจับกุมมาดำเนินคดี
    วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ร.ต.อ.ไพสาร ใจซื่อ พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ได้นำตัว น.ส.ภัสสรัณญ์ มายื่นขออำนาจศาลขังเป็นครั้งแรก คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า สืบเนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ปัจจุบันมีผู้เปิดแอปพลิเคชันชื่อ “บีแอด” เป็นช่องทางสำหรับผู้มีรสนิยมทางเพศด้วยการมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่คู่สมรส ในลักษณะแลกเปลี่ยนคู่นอนกันไปโดยไม่จำกัด หรือเรียกกันว่า “สวิงกิ้ง” โดยมี น.ส.ภัสสรัณญ์ ผู้ต้องหา เป็นผู้ดำเนินกิจกรรม นัดหมายกันทางเฟซบุ๊กแล้วจัดให้ผู้สนใจได้ร่วมประเวณีกับคนแปลกหน้า โดยเรียกเก็บค่าบริการรายละ 1,800 บาท 
    ต่อมาเมื่อเวลา 23.30 น. วันเสาร์ที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลางร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายวางแผนเข้าล่อซื้อ โดยแฝงตัวเข้าไปใช้บริการในห้องพัก “โครงคราง” ภายในซอยลาดพร้าว 122 (ซอยมหาดไทย) พบชายหญิงกำลังใช้บริการ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ได้ตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางถุงยางอนามัยยี่ห้อต่างๆ ยาเสริมสมรรถภาพทางเพศผู้ชาย โทรศัพท์มือถือ บัญชีรายชื่อลูกค้า และธนบัตรฉบับใบละ 500 บาท ของกลางที่ทำตำหนิไว้ล่อ เหตุเกิดในห้องพัก “โคลงเคลงช้าง” โรงแรมโยทะกาบูทีค ซอยลาดพร้าว 122 (ซอยมหาดไทย) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีในฐานะผู้จัดการแสดง ข้อหาเป็นธุระจัดหาเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ตาม ป.อาญา มาตรา 282
    คดีนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบสวนมาตลอดแล้ว แต่ยังไม่เสร็จสิ้น จะต้องรอสอบพยานบุคคลอีก 4 ปาก รอผลพิสูจน์ต่างๆ จึงขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 22 ต.ค.-2 พ.ย.2561 และหากผู้ต้องหาขอปล่อยชั่วคราวขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล 
    ต่อมาศาลพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้องและออกหมายขังต่อไป
    ด้านน้องชายผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ญาติรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่คิดว่าจะเป็นข่าวใหญ่โต ปกติพี่สาวขายน้ำอยู่ที่วัดลาดพร้าว ตนไม่ทราบมาก่อนพี่สาวจะทำเรื่องแบบนี้ จากการพูดคุยกับพี่สาวไม่ได้มีอาการเครียด เพียงแต่ตกใจ เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่ทำจะผิดกฎหมาย
    ต่อมาจนสิ้นสุดเวลาราชการศาลแล้ว ไม่มีบุคคลใดมายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ภัสสรัณญ์ ผู้ต้องหา ซึ่งมูลค่าประกันข้อหาดังกล่าว ศาลวางเกณฑ์ไว้ที่ 200,000 บาท เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมตัว น.ส.ภัสสรัณญ์ไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ระหว่างฝากขังต่อไป.