"หมอธี"แนะทางรอด องค์การค้า แปลงทรัพย์สิน ที่ดินแปลงสวยเป็นทุน


เพิ่มเพื่อน    


                   
    

22ต.ค.61-รมว.ศธ.ออกนโยบายสกสค. นำทรัพย์สิน องค์การค้าสกสค. มาแปลงเป็นทุน เผยมีที่ดินย่านลาดพร้าว 47ไร่ มูลค่า 5พันล้าน  และทรัพย์สินอื่นๆอีก โดยรวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน  "วีระกุล" เผยแผนเพิ่มรายได้ ร้านค้าศึกษาภัณฑ์ เล็งขยายเวลาเปิดบางแห่ง หวังเพิ่มยอดขาย ส่วนการลดรายจ่าย ชี้จำเป็นต้องลดการทำโอทีพนักงาน ลั่นปีหน้าต้องมีกำไรอย่างแน่นอน

นายวีระกุล อรัณยะนาค ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวว่า ขณะนี้องค์การค้าของ สกสค. จำเป็นที่จะต้องสร้างรายได้เพิ่ม โดยอาจจะต้องเปิดกิจการใหม่ เช่น อีบุค ขายของออนไลน์ และอาจจะต้องขยายเวลาในการเปิดร้านศึกษาภัณฑ์บางแห่ง โดยคงต้องดูทำเลด้วย เพราะจากข้อมูลปัจจุบันร้านศึกษาภัณฑ์ จำนวน 10 ร้าน มียอดขาย กว่า 600 ล้าน ขาดทุนเพียงแสนกว่าบาท ซึ่งเรื่องนี้ตนได้หารือและมอบการบ้านให้คณะผู้จัดการร้านศึกษาภัณฑ์ ไปดำเนินการทำแผนในการดูแลของแต่ละร้านมาหารือในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ก่อนที่จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค. วันที่ 29 ตุลาคม โดยได้รายงานให้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) รับทราบแล้ว


 และสำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบทรัพย์สินขององค์การค้าของ สกสค.นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นคาดว่ามีทรัพย์สินมูลค่าไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท เช่น ราคาที่ดินบริเวณลาดพร้าว จำนวน 47 ไร่ มีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาทแล้ว องค์การค้าของ สกสค. มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน และรมว.ศธ.ก็ให้นโยบายว่า ให้แยกทรัพย์สินที่เป็นขององค์การค้าของ สกสค.ออกจาก สกสค.และนำมาแปรสภาพในเป็นทุน เพื่อจัดการแก้ปัญหาหนี้สินที่มีอยู่ โดยการจะแปรสภาพรูปแบบไหนนั้นจะต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการองค์การค้าฯ ด้วย ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องมีการประเมินทรัพย์สินตามหลักที่ถูกต้อง จากนั้นต้องนำเหตุผลความคุ้มค่ามาชี้แจงในคณะกรรมการองค์การค้าของ สกสค. ส่วนเรื่องที่สหภาพแรงงานองค์การค้าของ สกสค.จะเสนอให้ รมว.ศธ.ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีการจัดพิมพ์หนังสือล่าช้านั้น ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้


ส่วนของการลดรายจ่ายนั้น ผอ.องค์การค้าฯ กล่าวว่า คิดว่าองค์การค้าของ สกสค.จำเป็นที่จะต้องลดการทำโอที แต่ถ้ามีการเปิดร้านศึกษาภัณฑ์ขาย 2 กะ สามารถทำได้เพราะเรามีคนอยู่แล้ว แต่ถ้าปิดแล้วอยู่เฉยๆก็จะยิ่งขาดทุน ดังนั้นจะเอาคนที่เราต้องจ่ายเงินเดือนอยู่แล้วมาเสริมกะแต่จะไม่ให้ทำโอที นอกจากนี้จะเดินหน้าส่งเสริมเรื่องการตลาด เพิ่มสินค้าร้านศึกษาภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยการเพิ่มช่องทางการฝากขายแต่จะไม่นำเงินสดไปซื้อของเข้ามา รวมถึงให้แต่ละพื้นที่สำรวจว่ามีสินค้าประเภทไหนบ้าง ที่ร้านศึกษาภัณฑ์ยังไม่เคยขาย และเป็นที่ต้องการของลูกค้า องค์การค้าของ สกสค.จะใช้งบฯบางส่วนมาตรงเพิ่มจุดนี้แทน


“ผมมีหน้าที่ทำให้ร้านศึกษาภัณฑ์ที่เคยขาดทุนได้กำไรในปีหน้า และทุกฝ่ายก็ยินดีที่จะช่วย เชื่อมั่นว่าสามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้และปีหน้าจะต้องมีกำไรอย่างแน่นอน "นายวีระกุลกล่าว
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"