อัยการส่งฟ้อง 'วีระ' คดีชุมนุมอยากเลือกตั้งชุด MBK39


เพิ่มเพื่อน    

22 ต.ค. 61 - ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ นำตัวส่งฟ้องนายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน  หนึ่งในผู้ต้องหาคดีชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ชุด MBK39 ในส่วนแกนนำ จากการชุมนุมบริเวณสกายวอล์ค แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2561 มาส่งฟ้องเป็นคนแรก เนื่องจากวันที่นัดส่งฟ้องอีก 8 คนที่เหลือ ในวันที่ 1 พ.ย. 2561 คือ นายอานนท์ นำภา, นายรังสิมันต์ โรม, นายสิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, นายเอกชัย หงส์กังวาน, น.ส.ณัฎฐา มหัทธนา, นายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ นั้น นายวีระไม่สามารถเดินทางมาได้ จึงเดินทางมาฟังคำสั่งในวันนี้

โดยคดีนี้ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฝ่าฝืนฝ่าฝืนคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12, ข้อหาชุมนุมภายในรัศมี 150 เมตร จากเขตพระราชฐาน ตามมาตรา 7  พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 รวม 3 ข้อหา  โดยได้บรรยายพฤติการณ์ของกลุ่มที่ถูกแจ้งข้อหาตามมาตรา 116 ด้วย สรุปได้ว่า ในเหตุการณ์วันดังกล่าว นายเนติวิทย์, นายวีระ, น.ส.ณัฎฐา, นายรังสิมันต์,  นายสิรวิชญ์, นายเอกชัย มีการเสวนาที่สวนครูองุ่น ในซอยทองหล่อ ในการเสวนามีการกล่าวถึงการชุมนุมที่สกายวอล์คหน้าห้าง MBK หลังเสวนาพวกเขาเดินทางไปรวมชุมนุมด้วย ซึ่งบริเวณที่ชุมนุมดังกล่าวอยู่ห่างจากวังสระปทุม 148.53 ม. ระหว่างชุมนุมได้มีการผลัดกันปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลและ คสช. ว่ามีการทุจริตใช้อำนาจไม่เป็นธรรม และเรื่องการเลื่อนเลือกตั้ง รวมถึงมีการชักชวนให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมโค่นล้มรัฐบาลและ คสช. โดยนายวีระ, นายสมบัติ, นายเอกชัยได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนพร้อมแสดงป้าย “หมดเวลา คสช.” โดยในชั้นพนักงานสอบสวนส่งฟ้องต่ออัยการ ศาลได้มีคำสั่งยกคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวน ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ 

โดยนายวีระ กล่าวว่า เบื้องต้นศาลเรียกหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว จำนวน 120,000 บาท แต่ด้วยตนไม่ได้เตรียมหลักทรัพย์มา เนื่องจากให้ทนายประสานมาแล้ว แต่ทางศาลแจ้งว่าไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ เพียงแค่สาบานตน ตนต้องทำเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยที่ไม่ต้องวางเงินประกัน จึงต้องเข้าโครงการประเมินความเสี่ยง กว่าจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ 

เมื่อถามว่าจากนี้จะเป็นบรรทัดฐานหรือไม่ว่าคดีของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัว นายวีระ กล่าวว่า น่าจะเป็นกรณีๆ ไป ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล อย่าพึ่งไปเข้าใจว่าเป็นบรรทัดฐาน

นายวีระ กล่าวต่อไปว่า ตนถูกแจ้งข้อกล่าวหายุยงปลุกปั่นเพิ่มเติมทีหลังคนอื่นๆ ในวันดังกล่าวตนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มาขอสัมภาษณ์เท่านั้นไม่ได้ร่วมขึ้นปราศรัยแต่อย่างใด และอยู่ในบริเวณนั้นเพียงครู่เดียวเท่านั้น ยังโดนคดีไปด้วย คงข้อหาหมั่นไส้ มีการออกหมายเรียกไปแล้วตั้ง 3 วันก่อนที่ตนจะได้รับหมายเรียกเพิ่มเติม  โดยคิดว่าสาเหตุที่โดนคดีนั้น น่าจะมาจากการที่ตนเป็นผู้ที่ตรวจสอบการทุจริตของบรรดาผู้นำใน คสช. รวมถึงในวันดังกล่าว ตนไปร่วมเป็นวิทยากรในงานเสวนา เรื่องนาฬิกา 25 เรือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รวมถึงตนเป็นคนยื่นเรื่องนาฬิกานี้ต่อ ป.ป.ช. ทำให้ตนคิดว่า สิ่งที่ทำให้ตนโดนคดีนี้มาจากเรื่องนาฬิกา ขณะนี้ในเรื่องของนาฬิกา พล.อ.ประวิตร ตนก็ยังตามอยู่ตลอด มีหลักฐานอะไรเพิ่มเติมก็จะนำไปยื่นเพิ่มอยู่ตลอด ก็ยังคงไม่มีความคืบหน้า ซึ่ง ป.ป.ช.ก็ยังคงยืนยันว่ายังตรวจสอบไม่เสร็จสิ้น ไม่รู้จะตรวจสอบไปอีกนานเท่าไร คดีที่ตนยื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช. คดีล่าสุดใช้เวลาสอบสวน 12 ปี คดีก่อนหน้านี้  14ปี แต่ในที่สุดก็บอกว่าทำอะไรไม่ได้ 

เมื่อถามว่าคาดหวังอย่างไรต่อการตรวจสอบของ ป.ป.ช.ในเรื่องนาฬิกา พล.อ.ประวิตร นายวีระ กล่าวว่า ตนไม่อยากชี้โพรงให้กระรอก ไม่พูดดีกว่า รอมีมาตรการไม่ให้ลอยนวลอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ยังไม่มั่นใจว่าในวันที่ 24 ก.พ. 2562 จะได้เลือกตั้ง แต่เป็นเรื่องที่ดีแล้วที่กลุ่ม FFFE จะมาช่วยกันจับตาดูการเลือกตั้ง ถ้าหากจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงๆ ก็ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพราะตนเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการทุจริตกันอย่างมากมายเลยทีเดียว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"