วธ.แจกรางวัล บุคคล องค์กรดีเด่น ส่งเสริมการอ่านของคนไทย


เพิ่มเพื่อน    

 

22ต.ค.61-วธ.แจกรางวัล บุคคล องค์กรดีเด่น ส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ผอ.กศน.จ.อุบลฯ หนึ่งในผู้รับรางวัลเผยปลื้มใจ ผลักดันจัดงานสัปดาห์หนังสือที่จังหวัด และส่งเสริมการอ่านตามชุมชน ส่งผล ทั้งเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครอง การอ่านดีขึ้น เขียนผิดน้อยลง

 กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จัดพิธีรับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้แก่บุคคล องค์กรดีเด่น ที่ทำคุณประโยชน์ในการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านประจำปี พ.ศ. 2561 ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23 และเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม  ประธานในพิธีรับถ้วยพระราชทาน กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 17 ม.ค.2561 เห็นชอบแผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย พ.ศ. 2560-2564 โดยส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ชุมชน และท้องถิ่น และบุคคลได้มีบทบาทในการขับเคลื่อน ส่งเสริม และสร้างกระแสรณรงค์การส่งเสริมการอ่าน ในรูปแบบต่างๆ อาทิ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การจัดหาสื่อการอ่านที่มีคุณภาพและเหมาะสมในทุกช่วงวัย การสร้างห้องสมุด หรือแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการส่งเสริมการอ่าน เป็นต้น เพื่อสร้างสังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และสร้างทุนมนุษย์ให้มีสมรรถนะความสามารถทั้งในด้านการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืน กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงได้รณรงค์ส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านมาอย่างต่อเนื่อง โดยการดำเนินโครงการยกย่องบุคคล  องค์กรต้นแบบ เพื่อช่วยสร้างขวัญและกำลังใจ แก่ผู้ที่เป็นกำลังสำคัญ ในการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดวัฒนธรรมการอ่านในสังคมไทย เพราะการอ่านช่วยเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์อันหลากหลาย ช่วยให้เกิดสมาธิ พัฒนาทักษะความสามารถในการจดจำ เล่าเรื่อง ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งรู้มาก การอ่านจึงเป็นลักษณะนิสัยที่ดีมีประโยชน์อย่างมาก 
สำหรับผลการคัดเลือกบุคคล องค์กรดีเด่นในการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านประจำปี พ.ศ. 2561 ประกอบด้วย  ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีคุณูปการในการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ได้แก่ นางสิริกร มณีรินทร์ นายกสภาสถาบันวิทยาลัยชุมชน,รองศาสตราจารย์กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และนางถนอมวงศ์ ล้ำยอดมรรคผล รองประธานสมาพันธ์องค์กรเพื่อพัฒนาหนังสือและการอ่าน
ส่วนผู้ได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประเภทเด็กและเยาวชนส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน รางวัลที่ 1 ได้แก่ นายภูรี ศิริหาญยากร โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) , ประเภทบุคคลส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน  รางวัลที่ 1 ได้แก่ นางวิลาวัณย์ ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)จังหวัดอุบลราชธานี ,ประเภทองค์กรหรือกลุ่มบุคคลส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน (ระดับชุมชน/ท้องถิ่น) รางวัลที่ 1 ได้แก่ มูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ และประเภทองค์กรส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน (ระดับประเทศ) รางวัลที่ 1 รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แก่  บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้นางวิลาวัณย์ ศรศิลป์ อดีตผอ.กศน. จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานประเภทบุคคลส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน เผยว่า บทบาทหน้าที่ในการส่งดสริมวัฒนธรรมการอ่านของตน เกิดจากในอดีตได้มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมการศึกษา จึงเห็นความสำคัญเรื่องการศึกษาของคนไทย โดยเฉพาะการอ่าน พอเกษียณมาประมาณปี 2552 ก็มีความตั้งใจว่าจะทำทุกวิถีทางให้คนอ่านหนังสือมากขึ้น โดยเฉพาะในท้องถิ่นชุมชนต่างๆ ซึมีโอกาสในการเข้าถึงหนังสือน้อย จึงริเริ่มจัดงานสัปดาห์หนังสือ ภูมิภาคขึ้น ร่วมกับภาคีเครือข่ายในจังหวัดอุบลฯ จัดหาหนังสือดีๆ มาให้คนอุบลฯได้อ่าน แล้วก็ออกไปจัดกิจกรรมปลูกฝังการอ่านในชุมชนต่างๆ มุ่งเน้นสร้างความตระหนักให้พ่อแม่ ผู้ปกครองพาลูกอ่านหนังสือ  เวลาที่เราออกไปตามชนบทหรือชุมชนต่างๆสิ่งที่จะพบส่วนใหญ่คือเด็กๆไม่ค่อยมีหนังสือที่ดีพอ และวัฒนธรรมในการซื้อหนังสือให้ลูกอ่านก็ยังไม่มีมากนัก  จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องสร้างความตระหนักไว้ให้กับพ่อแม่ก่อน ให้ไปพาลูกอ่านหนังสือ ซื้อหนังสือให้ลูก
"และผลตอบรับจากสิ่งที่ทำคือมีพ่อแม่บางคนที่ทำตาม ก็มาบอกว่าไม่ใช่แค่ลูกที่สนุกกับการอ่านหนังสือ แต่พ่อแม่ที่อ่านให้ลูกฟัง ก็อ่านคล่องขึ้น เขียนผิดน้อยลงด้วย เพราะฉะนั้นจึงอยากฝากทุกคนในสังคมว่าถ้าเราไม่ส่งเสริมให้เด็กอ่านหนังสือต่อไปเขาก็จะไม่สามารถแสวงหาความรู้ได้ แม้จะมีแหล่งความรู้หลายแหล่ง แต่ก็ไม่ซาบซึ้งเหมือนอ่านหนังสือเป็นเล่ม แล้วแหล่งความรู้อื่นๆ ที่นอกจากหนังสือ ก็ไม่ได้บอกให้เขาละทิ้ง แต่ควรส่งเสริมให้เขาใช้หาสาระความรู้ที่เป็นประโยชน์ ส่วนรางวัลนี้เป็นกำลังใจที่ดีที่ทำให้ตนอยากจะไปส่งเสริมการอ่านให้กับคนในทุกๆที่ครั้งต่อไป"

  ด้านนางจันทร์เพ็ญ สินสอน ประธานมูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ผู้รับถ้วยพระราชทาน ประเภทองค์กรหรือกลุ่มบุคคลส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน (ระดับชุมชน/ท้องถิ่น) กล่าวว่า การส่งเสริมการอ่านของมูลนิธิฯ คือ ได้ร่วมกับหน่วยงานและองค์กรเครือข่ายชุมชนเทศบาลสุรินทร์ ส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านผ่านกิจกรรมต่างๆเพื่อให้เข้าสู่ชุมชน โดยมูลนิธิได้เริ่มนำหนังสือเด็กไปอ่านกับเด็กผู้มีความบกพร่องทางสมอง และพัฒนาการด้านอื่นๆในสุรินทร์ ซึ่งพบว่าเด็กบางคนมีพัฒนาการดีขึ้น จึงนำเอาตัวอย่างไปให้ชุมชนดู จากนั้นเมื่อทุกคนเห็นด้วยก็จะได้จัดตั้งกองทุนของตำบลต่างๆ ใน 10 อำเภอในสุรินทร์ หางบประมาณเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือ ให้กับเด็กๆในแต่ละชุมชน ผลักดันให้เด็กๆในชุมชนเข้าถึงหนังสือให้มากที่สุด เพราะอย่างที่ทราบว่าเด็กๆในปัจจุบันมักจะเข้าไม่ถึงหนังสือดีๆ จึงทำให้มีพัฒนาการล่าช้า สมาธิสั้น   นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ ที่เป็นการกระจายส่งต่อหนังสือ เช่น ทอดผ้าป่าหนังสือ เป็นต้น เราก็มีแผนจะพัฒนาโครงการไปเรื่อยๆ ไม่มีสิ้นสุด เพื่อให้เด็กๆ ทุกคนเป็นผู้มีความรู้ และเป็นคนเก่งในอนาคต.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"