ผู้นำกว่า50ชาติหนุน ‘บิ๊กตู่’เผยเสียงสะท้อนการเลือกตั้งไทยในเวที‘อียู-อาเซียน’ดี


เพิ่มเพื่อน    

  "บิ๊กตู่" เผยเสียงสะท้อนของผู้นำต่างประเทศ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งตามโรดแมปในประเทศไทยถือว่าค่อนข้างดี ระบุเสถียรภาพของรัฐบาลหน้ายังไม่ทราบเพราะไม่รู้ใครจะเป็น  แต่ได้คุยกับผู้นำกว่า 50 ประเทศต่างก็เห็นด้วยกับเรา "ภูมิธรรม" ปฏิเสธพัลวันความเห็น "ทักษิณ" เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับเพื่อไทย 
    ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังกลับจากการเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12 (ASEM12) และการเข้าร่วมประชุมผู้นำสหภาพยุโรป-อาเซียน (EU-ASEAN  Leaders’ Meeting) ที่กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ว่า สำหรับเสียงสะท้อนที่ผู้นำต่างประเทศ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งในประเทศไทยนั้นถือว่าค่อนข้างดี ในเรื่องโรดแมปที่ตนได้ยืนยันไปนั้น ก็ได้ยืนยันกับทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ เพราะเป็นเรื่องที่จะต้องพูดเพื่อให้ต่างชาติเกิดความมั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลนี้ 
    ส่วนเสถียรภาพของรัฐบาลหน้า ใครจะเป็นก็ยังไม่ทราบ แต่ต้องทำให้มีเสถียรภาพอย่างทุกวันนี้ ทั้งนี้ได้พูดคุยกับผู้นำทั้งกว่า 50 ประเทศ หลายประเทศต่างก็เห็นด้วยกับเรา เพราะหลายอย่างเราได้ทำตามพันธกรณีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภูมิภาคโลก เราจะอยู่คนเดียวในโลกไม่ได้อยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่พึ่งพาใครเลย อยู่แค่ในประเทศเราเปลี่ยนอย่างเดียว เพราะเราต้องมีทั้งเรื่องการค้าพหุภาคีนิยม
    พล.อ.ประยุทธ์เผยว่า การเดินทางไปร่วมประชุมครั้งนี้ได้มีการหารือทวิภาคีกับผู้นำ 9 ประเทศ ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยน เขารับทราบความก้าวหน้าในสถานการณ์ของบ้านเรา โดยได้ยืนยันกับทุกประเทศว่าเรากำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งอย่างแน่นอน ขณะที่ทุกประเทศก็อยากให้เรารักษาเสถียรภาพให้ได้ หลายประเทศต่างรับทราบว่าหลายอย่างที่รัฐบาลนี้ได้ทำมานั้นดีขึ้น ทั้งเรื่องการค้าการลงทุน กฎกติกาต่างๆ วันนี้โลกให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารราชการเพื่อมาขับเคลื่อน 
    นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ต่างประเทศไม่ได้สอบถามถึงสถานการณ์ในประเทศไทยมากนัก โดยเรายืนยันว่าจะมีการจัดเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562  ซึ่งต่างชาติไม่ได้แสดงความกังวลว่าจะเกิดขึ้นจริงตามนั้นหรือไม่ เพราะต่างรับทราบว่าการดำเนินงานที่แล้วมานั้นเป็นประโยชน์ต่อคนไทยและมิตรประเทศ ไม่มีใครแสดงความติดใจหรือข้องใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งของไทย หรืออนาคตของประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง
    "ไม่มีใครถามว่าถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่ในอำนาจแล้วประเทศจะเป็นอย่างไร จึงนับได้ว่าต่างประเทศมีความเชื่อมั่นในประเทศไทย และหลายประเทศก็ทราบว่าประเทศไทยนั้นมีความต่อเนื่อง ไม่ว่ารัฐบาลใดจะเข้ามาบริหารประเทศก็ตาม ยิ่งรัฐบาลนี้มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีก็จะยิ่งสร้างความเชื่อมั่นแก่ต่างชาติเป็นอย่างดี" นายดอนกล่าว
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศ เรื่องพรรคที่ยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตยจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากถึงกว่า 300 เสียงว่า เป็นข้อคิดจากประสบการณ์ ข้อมูลและความเชื่อของนายทักษิณ ที่เห็นว่าประชาชนจะสามารถตัดสินใจ เปรียบเทียบชีวิตของตนภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาลประชาธิปไตย และรัฐบาลที่ปกครองด้วยอำนาจพิเศษที่ไม่เป็นประชาธิปไตยเช่นรัฐบาลปัจจุบัน ว่ารัฐบาลใดจะสามารถดูแลและแก้ไขปัญหาชีวิตของประชาชนได้ดีกว่ากัน 
    "ในฐานะที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตย ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองและได้เคยบริหารประเทศดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน ย่อมมีสิทธิ์ที่จะเชื่อมั่นว่ารัฐบาลประชาธิปไตยจะแก้ปัญหาของประชาชนได้ดีกว่า ซึ่งเมื่อถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน"
ปฏิเสธแม้วไม่เกี่ยวกับ พท.
    นายภูมิธรรมยังกล่าวว่า การเสนอความเห็นของนายทักษิณถือเป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวของอดีตนายกฯ ที่มีข้อมูลและประสบการณ์ทางการเมือง เป็นความคิดเห็นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย เพราะนายทักษิณไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่ถือเป็นการแสดงความเห็นของบุคลากรทางการเมืองของโลกประชาธิปไตย และถือเป็นผู้มีประสบการณ์ทางการเมืองของโลก
    ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก "คุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธุ์" ระบุว่า "วันนี้ดิฉันได้รับเกียรติให้เข้าร่วมเสวนา และร่วมเปิดโครงการพัฒนาต้นแบบผู้นำนักศึกษา ครั้งที่ 1 ของบริษัท Emulation โดยเป็นการรวมกลุ่มของอดีตรัฐมนตรีที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารเข้าร่วมสะท้อนการพัฒนาการศึกษาไทย ภายใต้หัวข้อเสวนาจากอดีตสู่ปัจจุบัน 'ผ่า' หรือ  'ฝ่า' อนาคตการศึกษาไทย ซึ่งดิฉันมองว่าวันนี้โลกเปลี่ยนไปมาก มหาวิทยาลัยต้องปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของระบบ วันนี้หลักสูตรการศึกษาไทยไม่มีความจำเป็นต้องสอนให้นักศึกษาเก่งเรื่องเดียว
    เด็กทุกมหาวิทยาลัยต้องสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเชื่อมโยงระหว่างกันได้ สามารถสร้างแบรนด์ให้ชุมชนตนเองได้ อย่างเช่นการสร้างงานให้ท้องถิ่นตนเองได้ ทำอย่างไรให้พ่อแม่เปลี่ยนจากขายข้าวเปลือก เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าให้ครอบครัวตนเองได้"
      คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า "การสร้างความหลากหลายของหลักสูตรเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาไทย ให้มีความเชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่นของตนเอง ดังนั้นแล้วการศึกษาไทยต้องมีความหลากหลายเพียงพอ และที่สำคัญอย่างที่ดิฉันเคยพูดในเวทีเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาที่ผ่านมาแล้วว่า หลักสูตรการศึกษาไทยต้องเลิกตัดเสื้อโหลแบบเดียวกันได้แล้ว"
    นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ระบุว่าหาก 4 รัฐมนตรีไม่ลาออกจะถือว่าการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมว่า การเลือกตั้งจะบริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่ขึ้นอยู่ที่พี่น้องประชาชนจะเป็นคนตัดสิน โดยมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดูแลจัดการเลือกตั้งเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม จึงไม่เกี่ยวกับ 4 รัฐมนตรีว่าจะลาออกหรือไม่ 
    "อย่าไปกดดันเพราะท่านทราบดีว่าอะไรควรไม่ควร และได้ยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่าจะลาออกเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งผมเชื่อว่าอีกไม่นาน คงจะใช้เวลาสะสางงานสำคัญที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล โดยเฉพาะงานภาคอุตสาหกรรมและพาณิชย์ที่เป็นหัวใจหลักของประเทศอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นคงต้องให้ความเป็นธรรมกับ 4 รัฐมนตรีด้วย"
พลังประชารัฐเสียเปรียบ
    นายธนกรกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนด้วยวิธีการต่างๆ   ตามกรอบกฎหมาย แต่ก็เป็นที่รับรู้กันอยู่แล้วว่าเป้าหมายคือการหาเสียง ซึ่ง คสช.เองก็อะลุ่มอล่วยไม่ได้เข้มข้นอะไรมากนัก ดังนั้นการที่ 4 รัฐมนตรียังไม่ลาออก ตนมองว่าทุกพรรคการเมืองได้เปรียบพรรคพลังประชารัฐด้วยซ้ำไป เพราะ 4 รัฐมนตรีซึ่งเป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐนั้นสามารถลงพื้นที่รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนได้เฉพาะวันหยุดคือเสาร์อาทิตย์เท่านั้น ขณะที่พรรคอื่นสามารถลงพื้นที่ทำกิจกรรมทางการเมืองได้ทุกวัน อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกฝ่ายเล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ อย่าสาดโคลนโจมตีกันเลย เอาเวลาไปคิดนโยบายที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนจะดีกว่า
    วันเดียวกันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เบอร์ 1 พร้อมด้วยนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่พบปะสมาชิกพรรคที่ศาลาประชาคมเทศบาลบางทราย อ.เมืองชลบุรี โดยมีนางพจนา แก้วผลึก, นายฐนโรจน์ โรจนกุลเสฏฐ์ และนายไมตรี สอยเหลือง อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ชาวชลบุรีให้การต้อนรับ
      นายอภิสิทธิ์กล่าวปราศรัยว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความผูกพันกับชาวชลบุรีมายาวนาน ส.ส.คนแรกของพรรคคือนายธรรมนูญ เทียนเงิน อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ปี 2500 ก่อนไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแบบเลือกตั้ง และนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2512 ก่อนไปดำรงตำแหน่งเป็นประธานรัฐสภา 2 สมัย เมื่อปี 2550 พรรคประชาธิปัตย์เคยมีที่นั่ง ส.ส.ในจังหวัดชลบุรียกจังหวัด เพราะสมาชิกประชาธิปัตย์ชลบุรีให้การสนับสนุนพรรค นี่เป็นเหตุที่ตนตัดสินใจว่าการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต้องไม่ใช่เรื่องของกรรมการบริหาร ส.ส.พรรคเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของเจ้าของพรรคตัวจริง นั่นคือสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ปราศรัย มีเสียงตะโกนจากสมาชิกขึ้นมาว่า "เราขอสนับสนุนอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค เราขอสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์" ทำให้นายอภิสิทธิ์ตอบกลับไปว่า  "ก่อนผมจะขึ้นมาพูดบนเวที มีพี่น้องชลบุรีเล่าถึงปัญหาประมงที่กระทบเขา หลายคนเดินมาบอกผมว่า อย่าทิ้งคนชลบุรีนะ ผมขอให้ท่านทราบว่าประชาธิปัตย์ไม่ทิ้งชลบุรี"
      นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาพยายามที่จะบอกรัฐบาลว่า หลายเรื่องการบริหารงานของรัฐบาลเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ยกตัวอย่างเช่นปัญหาของชาวประมง การที่รัฐบาลไปแก้กฎหมายแบบไม่เข้าใจส่งผลกระทบต่อชาวประมง ที่สำคัญทำให้มูลค่าการประมงหายไปกว่าครึ่งจากเดิม
'มาร์ค' ปากหวาน
    ระหว่างนั้นมีสมาชิกพรรคได้สะท้อนปัญหาความทุกข์ร้อนด้วย โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ว่าเศรษฐกิจไม่ดีถึงขั้นแย่ รวมทั้งปัญหาหนี้สิน จึงอยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วเพื่อบ้านเมืองจะได้เดินไปข้างหน้าสักที  
    มีสมาชิกบางรายบอกว่าเมืองชลบุรีเสียงประชาธิปัตย์ดี แต่ไม่ได้คะแนน เพราะเขาเอาเงินซื้อเสียงเราไปหมด ประชาธิปัตย์จะต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้
      โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวปิดท้ายว่า ตนไม่เคยหยุดเรียนรู้ พบปะพี่น้องประชาชนกลุ่มต่างๆ มีทีมงานใหม่ๆ เข้ามาเสริม ตนขออาสาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อนำพาพรรคเข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่ และสานต่อนโยบายเดิม เริ่มต้นนโยบายใหม่ๆ
      "ประชาธิปัตย์คือท่าน ท่านคือประชาธิปัตย์ ขอพี่น้องสมาชิกพรรคมาร่วมสร้างหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมสร้างใหม่ประเทศไทยกันอีกครั้งหนึ่ง สนับสนุนผม อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เบอร์ 1 ครับ" นายอภิสิทธิ์กล่าว
    ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ไปทำกิจกรรมที่จังหวัดขอนแก่น โดย น.ส.พรรณิการ์? วานิช โฆษกพรรค?  นายชำนาญ? จันทร์เรือง? รองหัวหน้าพรรค นายชัน ภักดีศรี กรรมการสัดส่วนภูมิภาค ภาคอีสาน น.ส.? จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ได้นำขบวนคาราวาน?รับสมัครสมาชิกของพรรคอนาคตใหม่?เดินทางมาถึง?จังหวัดขอนแก่น ?เพื่อ?เปิดศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่บริเวณหลังตลาดประตูน้ำขอนแก่น 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนทั้งในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง?ที่มีอุดมการณ์?อยากสร้างอนาคตใหม่? อนาคตประเทศไทย? เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรค?และพบปะพูดคุยกับคณะกรรมการบริหารพรรคอย่างอบอุ่นหนาแน่น? 
    น.ส.?พรรณิการ์?กล่าว?ในงานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคว่า พรรคอนาคตใหม่?เรามีความตั้งใจที่จะลดความเหลื่อมล้ำในสังคม? ทำให้คนเท่าเทียมกันให้มากที่สุด? ที่ผ่านมาพี่น้องชาวอีสาน?ประสบปัญหาทางด้านรายได้?และคุณภาพชีวิต ต้องจากบ้านเกิด?เดินทางไปทำงานยังท้องที่ห่างไกล? และยังได้รับงบประมาณจากส่วนกลางน้อยกว่าภูมิภาคอื่นๆ? ซึ่งวิสัยทัศน์?ไทย? 2?เท่า?ของพรรคอนาคตใหม่? จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ได้? เช่น? เศรษฐกิจรถไฟ? วิสัยทัศน์หนึ่ง?ที่สำคัญของเรา? จะเป็นคำตอบหนึ่งที่จะช่วยเหลือพัฒนาเศรษฐกิจของพี่น้องชาวอีสานให้เจริญก้าวหน้าขึ้น? 
    "ชาวอีสานจะไม่ต้องจากพี่น้องครอบครัวไปทำงานที่อื่น? แต่การสร้างเศรษฐกิจรถไฟของพรรคอนาคตใหม่?จะทำให้เกิดงาน? เกิดความมั่งคั่งขึ้นที่นี่? เราจะได้เห็นดินแดนอีสานเจริญทัดเทียมภูมิภาคอื่นๆ? ได้? ซึ่งนั่นเป็นภารกิจที่อนาคตใหม่ต้องทำ? เพื่อ?ให้คนเท่าเทียมกัน? และไทยเท่าทันโลก" โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าว 
เปิดสาขาพรรคอุดรธานี
      ส่วนที่บ้านเลขที่ 444 ม.4 ซอยสุนทรสัจจบูลย์ ถนนอุดรธานี-กุดจับ ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี  พรรคเพื่อไทย นายศราวุธ เพชรพนมพร อดีต ส.ส.อุดรธานี ซึ่งได้รับมอบหมายจากพรรคจัดการประชุม จัดตั้งสาขาพรรคเพื่อไทย สาขาลำดับที่ 1 จังหวัดอุดรธานี (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) โดยมีอดีตรัฐมนตรีและอดีต ส.ส.อุดรธานี อาทิ นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น, นายขจิต ชัยนิคม, นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม, นายอนันต์ ศรีพันธ์, พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ รวมทั้งนางอาภรณ์ สาราคำ อดีต ส.ว.อุดรธานี  (ภรรยานายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร) ร่วมประชุม 
    และมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค และนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำ พท.ร่วมพบปะอดีต ส.ส.และสมาชิกพรรคทั้งเก่าและที่เดินทางมาสมัครใหม่อีกจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุดรธานีร่วมสังเกตการณ์ 
       นายศราวุธเปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากพรรคให้เป็นประธานการประชุมและดำเนินการกิจกรรมทางการเมือง ตามมาตรา 141/1 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2561 ได้กำหนดให้พรรคการเมืองดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคให้ครบตามภาคต่างๆ ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่กฎหมายประกาศใช้  และในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 มีมติให้จัดตั้งสาขาพรรคเพื่อไทยขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ อุดรธานี สมุทรปราการ และนครศรีธรรมราช
    เมื่อสมาชิกครบองค์ประชุมก็มีการพิจารณาชื่อสาขาพรรคว่า สาขาพรรคเพื่อไทย สาขาลำดับที่ 1  จังหวัดอุดรธานี (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และได้ดำเนินการเลือกกรรมการบริหารสาขาพรรค  ประกอบด้วย นายสนิท วงศ์แสงตา อดีต ผอ.โรงเรียนสตรีราชินูทิศ หัวหน้าสาขาพรรค นายชูชาติ ศิริโยธา รองหัวหน้าสาขาพรรค พ.ต.อ.เดช กองทอง เลขานุการ นายสง่า ภักดี รองเลขานุการ นายภคพล  โคตรชุม เหรัญญิก นายชัชวาล ลือคำหาญ นายทะเบียน นางสว่างศรี บุญประสิทธิ์ โฆษกสาขาพรรค  และนายสุรศักดิ์ พิทักษ์บ่อแก้ว กรรมการบริหารสาขาพรรค
      พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันจัดตั้งสาขาพรรคภาคอีสาน เป็นสาขาอันดับที่ 1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นสาขาแรกหลังจากที่สาขาเดิม คสช.มีคำสั่งยกเลิก ต่อไปก็จะเปิดภาคเหนือที่เชียงใหม่ ภาคใต้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคกลางที่จังหวัดสมุทรปราการ ตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อที่จะสามารถส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ในทุกภาค 
    เขากล่าวว่าที่จังหวัดอุดรธานี อดีต ส.ส.ยังคงเหนียวแน่น คาดว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชนเหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา ก็คงจะเป็นเมืองหลวงของพรรคต่อไป อดีต ส.ส.ใครจะออกจะเข้าก็ไม่ได้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการทำงานแต่ประการใด พรรคเพื่อไทยพร้อม และในครั้งนี้ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสมาชิกทั้งชาวอุดรธานีและใกล้เคียง ให้ความสนใจมาสมัครเป็นสมาชิกจำนวนมาก เป็นนิมิตหมายที่ดี รวมทั้งเมื่อจัดตั้งสาขาพรรคแล้วก็จะเดินหน้ารับสมาชิกใหม่เพิ่ม และจะกระจายไปทั่วทุกเขต
    นายชวน ชูจันทร์ ว่าที่คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการเสนอชื่อนายกฯ ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐว่า ยังคงเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีเพียงแค่คนเดียว และยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่สามารถให้ความชัดเจนในขณะนี้ได้ ขอให้ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งนี้ พรรคต้องรอ กกต.อนุญาตให้จดทะเบียนเป็นพรรคอย่างเป็นทางการก่อน จึงจะสามารถรับสมัครสมาชิกเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งต่อไป. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"