นายกฯ ถกผู้นำเนเธอร์แลนด์-นอร์เวย์ โอ่ 4 ปีการเมืองก้าวหน้าตามโรดแมป สงบสุข-ศก.โต ยันจัดเลือกตั้งปี 62 "ตู่ ดิจิทัล" แจงเปิดสื่อโซเชียล มุ่งสื่อสาร 2 ทาง รับฟังความเห็นประชาชน
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม เวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเดินทางเข้าร่วมประชุมเอเชีย-ยุโรป (Asia-Europe Meeting : ASEM) ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 18-19 ต.ค.61 ได้พบปะและมอบนโยบายแก่ทีมประเทศไทยและพบปะกับผู้แทนเยาวชนไทยที่เข้าร่วมการประชุมผู้นำเยาวชนเอเชีย ยุโรป ครั้งที่ 3 ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์
ต่อมา ที่ห้องประชุมอาคารยูโรปา ก่อนพิธีเปิดการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12 พล.อ.ประยุทธ์ ได้หารือทวิภาคีกับนายมาร์ค รึตเตอ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ และนางเออร์นํา โซลเบิร์ก นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรนอร์เวย์ ตามลำดับ ตามที่ผู้นำประเทศทั้งสองได้ทาบทามขอเข้าหารือ โดยนายกฯ ได้ใช้โอกาสนี้ชี้แจงกับผู้นำทั้งสองถึงพัฒนาการของไทยว่า ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า การเมืองไทยมีความก้าวหน้าเป็นลำดับ และเป็นไปตามโรดแมป โดยเฉพาะความสงบสุขในประเทศ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งจากสถิติตัวชี้วัดด้านต่างๆ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในหลายๆ ด้าน รัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงที่จะปฏิรูปประเทศให้มีเสถียรภาพทางการเมือง มีระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง และมีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน
นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการในระยะสุดท้ายของโรดแมปที่ประกาศไว้ คาดว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ก.พ.62 หรืออย่างช้าไม่เกินเดือน พ.ค.62 จึงถึงเวลาแล้วจะร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์แบบมองไปข้างหน้า เพื่อมุ่งส่งเสริมความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน ทั้งในระดับทวิภาคี ในกรอบอนุภูมิภาค กรอบภูมิภาค และกรอบพหุภาคี ซึ่งในปีหน้าประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียน โดยจะให้ความสําคัญกับการส่งเสริมความเป็นแกนกลางของอาเซียน การสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ ความเชื่อมโยง และการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ในยุโรปให้มีบทบาทที่สร้างสรรค์ในภูมิภาคมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์ยังได้เชิญชวนให้ทั้ง 2 ประเทศพิจารณาเข้ามาเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาและส่งเสริมความเชื่อมโยงภายใต้นโยบาย Thailand +1 และ ACMECS โดยสามารถเข้าร่วมทั้งในรูปแบบของการสนับสนุนกองทุน หรือในรูปแบบของการจัดทําโครงการในสาขาที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งปัจจุบันแผนนี้มีหลายประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก และยุโรป อาทิ สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส ได้แสดงความสนใจจะเข้าร่วมแล้ว และขอเชิญชวนให้เนเธอร์แลนด์และนอร์เวย์ ศึกษาถึงศักยภาพและโอกาสการลงทุนในประเทศไทยที่เปิดกว้างภายใต้แผนปฏิรูปทางเศรษฐกิจครั้งประวัติศาสตร์ของไทย ตามนโยบายประเทศไทย 4.0 โครงการพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานขนาดใหญ่ และโครงการอีอีซี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 13.05 น. ตามเวลาประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” พร้อมรูปภาพขณะรับประทานอาหารเช้าเคียงคู่ภริยา นางนราพร จันทร์โอชา ว่า "สวัสดีพี่น้องชาวไทยที่รัก ตอนนี้ที่เบลเยียม 8 โมงเช้า เป็นภารกิจวันที่ 2 ของการมาประชุม วันนี้ผมและภรรยาต้องแยกกันทำภารกิจ หากมีเรื่องอะไรดีๆ ค่ำๆ ผมจะมาเล่าให้ฟัง คิดถึงประเทศไทยครับ" โดยมีผู้ร่วมแสดงความเห็นและแชร์โพสต์ต่อจำนวนมากอย่างรวดเร็ว
ในช่วงค่ำ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ว่า หลายคนคงทราบแล้วว่า ตนเริ่มมีเว็บไซต์ส่วนตัวและช่องทางการสื่อสารทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ ไปพร้อมกัน เพราะต้องการใช้เป็นอีกช่องทางในการสื่อสารกับพี่น้องประชาชน ในรูปแบบการสื่อสาร 2 ทาง นอกจากจะเป็นช่องทางที่ประชาชนจะสามารถรับรู้ รับทราบ และเข้าใจ ถึงการทำงานและนโยบายของผม และรัฐบาลได้สะดวกขึ้นแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถจะส่งข้อเสนอแนะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ หรือแจ้งความต้องการให้รัฐบาลทราบ เพื่อจะได้ลงไปดูแลหรือแก้ปัญหาในเรื่องใด ก็สามารถแจ้งส่งข้อมูลเข้ามาได้
"ถือเป็นการนำเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับการทำงานของผม ของรัฐบาล ที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีนะครับ มีพี่น้องประชาชนเขียนเข้ามามากมาย ผมก็ได้ติดตามอ่านอยู่อย่างสม่ำเสมอนะครับ อะไรที่ตอบได้เองก็จะตอบไปนะครับ แล้วจะมีทีมงานที่ช่วยคอยติดตามด้วย เพื่อจะรวบรวม สรุปข้อคิดเห็น และปัญหาต่างๆ เป็นหมวดหมู่ แจ้งให้ผมได้ทราบเป็นระยะๆ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาในอนาคต ผมก็จะหาเวลามาชี้แจง และตอบในประเด็นคำถามสำคัญๆ ด้วยตัวของผมเองด้วย" นายกฯ ระบุ
ทั้งนี้ ล่าสุดในเฟซบุ๊กมีเด็กนักเรียนจากต่างจังหวัดเขียนมาขอคำปรึกษาว่า “ทำไมเวลาตั้งใจจะทำอะไรที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม มักมีคนเข้ามาพูดบั่นทอนจิตใจ ไม่ให้กำลังใจ ทำให้บางทีรู้สึกท้อแท้” เมื่อได้อ่านรู้สึกว่าเด็กคนนี้ต้องเจอกับสิ่งที่ตนเจออยู่บ่อยครั้ง จึงขอเป็นกำลังใจให้ อยากจะบอกว่าขอให้อดทน ต้องไม่ท้อแท้ในการทำความดี ทำประโยชน์เพื่อสังคม อย่าปล่อยให้คำบั่นทอนหรือคำต่อว่า มาทำให้เป็นอุปสรรคในการทำความดี แต่ให้ยึดมั่นในความตั้งใจดี ทำให้ดี และทำให้มากขึ้น หากในสังคมและประเทศไทยมีคนอย่างเด็กคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าประเทศจะสามารถเดินหน้าต่อไปอย่างมีความสุข และสงบร่มเย็นด้วย
ส่วนในอินสตาแกรม มีเรื่องของการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศให้ยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลอยู่ระหว่างการเร่งหาแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย เพื่อให้ก้าวตามทันกับโลกที่เปลี่ยนเร็วมาก
"อยากให้เป็นการแสดงความคิดเห็นแบบมีเหตุมีผล ยอมรับความเห็นที่อาจจะแตกต่างกันได้ แล้วก็ขอให้ใช้คำพูดที่สุภาพ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องการทุจริต เรื่องปัญหายาเสพติด เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ก็ช่วยกันส่งกันเข้ามาเยอะแยะนะครับ ทั้งหมดผมจะเก็บไว้เป็นข้อมูล และเร่งตรวจสอบ ดำเนินการให้ ผมขอฝากหน่วยงานในพื้นที่ได้กวดขัน ดูแลและแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างเข้มงวด และใกล้ชิด บนพื้นฐานของความรับผิดชอบตามลำดับชั้นลงไป" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ระบุผู้นำหลายประเทศต่อคิวคุย พล.อ.ประยุทธ์หลังรู้จะอยู่ยาวว่า ศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ขาดปมถอดถอนนายดอนออกจากตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ 31 ต.ค.นี้ หากการออกมาพูดอะไรแบบนี้แล้วคิดว่าเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นใจให้กับตัวเอง ก็เป็นสิทธิที่นายดอนจะพูดโฆษณาชวนเชื่อ ผู้นำต่างประเทศคงมีข้อมูลมากพอว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์มีที่มาอย่างไร ทั้งนี้การประกาศนโยบายอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ไทยแลนด์ 4.0 แต่ห้ามนักการเมืองหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดีย แทนที่จะเน้นโฆษณาชวนเชื่อ แต่ควรพูดความจริงกับประชาชน และสร้างบรรยากาศให้เกิดความเชื่อมั่นทั้งในประเทศ ต่างประเทศ ที่จะนำพาประเทศชาติไปสู่การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมได้อย่างไร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |