คนเรานี่ก็แปลกนะ.....
นักข่าวถาม ผบ.ทบ. "พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์" ว่า ถ้าบ้านเมืองเกิดวิกฤติ
จะมีการปฏิวัติอีกมั้ย?
ท่านก็ตอบตรงๆ ว่า
"ถ้าการเมืองไม่เป็นต้นเหตุแห่งการจลาจล ก็ไม่มีอะไร"
มันก็ใช่
การเมืองไม่เป็นตัวสร้างจลาจล "เผาบ้าน-เผาเมือง"
การเมืองไม่เป็นตัว "ขายบ้าน-กินเมือง" จนทนไม่ได้
ทหารคนไหนออกมาปฏิวัติ
...........ถูกประชาชนกระทืบ!
ทางเป็นจริงที่ผ่านมา ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ จนถึงวันนี้
"บ้านเมือง" เกิดวิกฤติครั้งไหน เห็นได้เลย "การเมือง" เป็นต้นเหตุครั้งนั้น!
ฉะนั้น เมื่อฟัง ผบ.ทบ.พูด ก็ เออ...จริงของท่าน
ยังนึกชมในใจด้วยซ้ำ ว่า ผบ.ทบ.คนนี้ เชื่อถือได้ ค่าที่ว่า ใจคิดอย่างไร ปากก็พูดอย่างนั้น
ก็ไม่เห็นที่ใครจะต้องออกมาดีดดิ้นนี่ว่า พูดแบบนั้น เป็นการเปิดทาง-เปิดช่องปฏิวัติ
เพราะเป็นคำตอบตรงตัว ตามหลักอิทัปปัจจยตาด้วยซ้ำ ว่าด้วยความเกี่ยวเนื่องของเหตุปัจจัย เมื่อมีเหตุ ย่อมมีผล
ถ้าการเมือง ไม่กาลีเมือง ทหารคนไหนจะกล้าปฏิวัติ? ในทางกลับกัน.......
ถ้าการเมือง กาลีเมือง ทหารคนไหนไม่ปฏิวัติ จะถูกประชาชนด่า
เลี้ยงมาหมื่นวัน ใช้งาน "ล้างการเมืองชั่ว" วันเดียว ก็ยังไม่ได้ ประมาณนั้น!
นี่ ความจริงที่เป็น มันเป็นอย่างนี้ คนใจกลางๆ เข้าใจได้ ไม่ต้องตีความ
ยกเว้น พวก "ลัทธิบูชาไฟ" ตามมหา'ลัยบ้าง ตามพรรคการเมืองที่ชอบเผาเป็นอาจิณบ้าง
พวกนี้ "มืดบอด" ทางจิต..........
มึงไปซ้าย กูต้องว่าขวา แต่ถ้าไปขวา กูก็ต้องว่าซ้าย
เรียกว่า "โรคตะแบง" แทรกเข้าไขกระดูก ยิ่งกว่าเต่าถุย แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
คนพวกนี้ "กรรมหนัก"......
อนาคต ถ้าไม่เป็นโรคสันนิบาตลูกหมาที่เรียกกันโก้ว่าพากินสัน ก็ต้องนอนอุ้มถุงเยี่ยว
ไปไหน-มาไหน เหมือนกระสือ ต้องลอยไส้ เหมือนสัมภเวสีตัวพ่อนั่นแหละ!
ฉะนั้น ป่วยการฟัง และไร้ค่าที่จะยกขึ้นมาพิเคราะห์-พิจารณ์!
สมมุติ "พลเอกอภิรัชต์" ตอบนักข่าว
"ไม่มีแน่นอน ยุคผมเป็น ผบ.ทบ.ต้องไม่มีปฏิวัติ"
พวกลัทธิบูชาไฟเชื่องั้นหรือ
ชื่นชอบคำตอบบนตรรกะต่างฐานแบบนี้อย่างนั้นหรือ?
ก็อีกแหละ ถ้าตอบ "จะไม่มีปฏิวัติ"
ก็จะต้องยกอีกล้านเหตุผลขึ้นมาตะแบงในทางแย้งจนได้อีก!
ดูไป-ดูมา ผมว่าพลพรรคนักเลือกตั้งระบอบทักษิณ วันนี้ ถนัดยกหาง
แต่ "หลงทาง" ในทิศนำบ้านเมืองด้วยนวัตกรรมสู่สังคมโลกศตวรรษใหม่แล้ว!
ตัวพ่อ ใช้ความยาวหางตัวเองเป็นทางยาวของอนาคตบ้านเมือง "แตกพรรค" หวังแลกคะแนนจน "พรรคแตก"
และแทนที่จะแยกไปชำแรกชาวบ้านเป็นฐาน วันๆ กลับใช้สมุนดมรอยตีนรัฐบาล
แล้วระดมเห่า!
ไม่ว่ารัฐบาลทำอะไร เลวไปหมดทุกเรื่อง สู้รัฐบาลเพื่อไทย เพื่อระบอบทักษิณไม่ได้
คำหนึ่งก็ว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย สองคำว่าก็ปิดกั้นเสรีภาพ สามคำก็ว่า หาเสียงเอาเปรียบ
ประชาธิปัตย์ เขาเปิดเกม "การเมืองปิด" ว่าด้วยแข่งขันกันเอง ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เฉพาะบรรดาสมาชิกพรรค-ภายใน
เพื่อไทย อวดเก่ง-อวดฉลาด ยกหางเป็นพรรคทันสมัยเหนือใครมาตลอด
ใครๆ เขาเห็นลีลาประชาธิปัตย์ ต่างอมยิ้ม ชมว่าฉลาดเล่นในเกม
มีแต่เพื่อไทยเท่านั้น ทั้งในจอ-นอกจอ ยกเป็นเรื่องโจ๊กขึ้นมาพูดจาถางถากสนุกสนานรายวัน
เรียกว่า พรรคไหนทำอะไร เห่ย..สู้พรรคเพื่อไทยวิสัยทัศน์เพื่อแม้วไม่ได้ทั้งนั้น
เอาแต่นั่งหัวเราะเยาะเขา.......
รู้ตัวอีกที ฉิบหายแล้ว กู..เหมือนควายมัวเพลินปลัก!
ว่าประชาธิปัตย์เชย เหมือนเด็กเล่นขายข้าว-ขายแกงนั่น
ที่ไหนได้ นี่มันลีลา "ภมรซ่อนบุปผา" เป็นกลยุทธ์หาเสียงตีกินนี่หว่า!?
ก็ออกมาเจี๊ยวกันยกใหญ่
โง่แล้วทำเป็นหยิ่ง ยังไม่สำนึก แทนที่จะอายขายขี้หน้าชาวพารา ยังจะออกมาเจี๊ยวอีก
งมโข่งแต่ ปลดล็อก..ปลดล็อก พวกเพื่อไทยนี่ ถามจริงๆ เถอะ ถ้ากางเกงเขาเปลี่ยนจากกระดุมหรือซิปเป็นอย่างอื่น
จะได้เยี่ยวกันมั้ยเนี่ย?
มันร้อยแปด-ล้านเก้าวิธี ที่จะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองว่าด้วยเรื่องหาเสียงไม่ให้ผิดกฎกติกาตามคำสั่ง คสช.
ไม่รู้ ก็ไปกราบพรรคอื่นเขา.......
เช่น ประชาธิปัตย์ อนาคตใหม่ ภูมิใจไทย ประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา รวมพลังประชาชาติไทย ชาติพัฒนา เพื่อชาติ ก็ได้
ว่าจะหาเสียงด้วยวิธีไหนได้บ้างคร้าบบบบ ถึงจะไม่ผิดกฎหมาย นึกว่าเอาบุญกับลูกควายตกปลักทีเถิด?
อย่างนายกฯ ประยุทธ์ ตอนนี้บรรลุแล้ว!
ไม่ใช่บรรลุธรรม
แต่บรรลุทางความเข้าใจว่า การเมืองคือเรื่องประชาชน ไม่ใช่เรื่องลงไปฟัดกะหมาบ้าที่ตามเห่ามาตลอด ๕ ปี
เมื่อสนใจการเมือง..........
ก็ต้องสื่อสารทางสารทุกข์สุกดิบกับประชาชน ฟังเสียงประชาชน ไม่ใช่ฟังเสียงหมาบ้าเห่า
ดังนั้น จึงเห็นนายกฯ ออกเยี่ยม ดูสุข-ดูทุกข์ชาวบ้าน ไปที่โน่น-ที่นี่ เซลฟีกันตลอด
เมื่อต้นสัปดาห์ จ๊าบขึ้นไปอีกขั้น เปิดช่องทางสื่อสารกับแฟนคลับ ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม อีเมล
แทนที่กะโหลกคนเพื่อไทยจะคิดในทางที่กฎหมายเขาไม่ได้ห้าม เพื่อใช้สื่อสารไอทีทางสร้างสรรค์บ้าง
กลับสวมกระบังตา หมกมุ่นคิดอยู่ด้านเดียว คือด้าน จับผิด-จับถูก
แล้วประดิษฐ์วาทกรรมโจมตี ถากถาง เยาะเย้ย นี่มันใช้ของหลวง คนหลวง เวลาราชการหาเสียงนี่
มีคนเข้าไปดูแค่หลักหมื่น-หลักแสน สู้อดีตนายกฯ หญิงแดดเดียวไม่ได้ แฟนคลับตั้ง ๖ ล้านกว่า
เห็นมั้ย..เห็นมั้ย เมนต์ด่ากันตรึม เดี๋ยวก็ต้องปิด!
แต่ปรากฏว่า นายกฯ ทนได้ เข้าใจธรรมชาติคนสังคมวัตถุไอที แถมรุกต่อ
เปิด fb ไลฟ์สด "สายตรงลุงตู่" กับแฟนคลับ
แถมล่าสุดเมื่อวาน (๑๘ ต.ค.๖๑) ถึงเบลเยียมปุ๊บ เซลฟีกับแฟนคลับที่ไปต้อนรับกันตรึมลงเฟซให้ดูกันสดๆ ร้อนๆ
ที่แยงลูกตา-แทงใจจี๊ด คือคำเรียกขานตัวเอง
"#ตู่ ดิจิทัล" นี่แหละ!
เห็นมั้ย คู่แข่งคนสำคัญล้ำไปถึงขั้น "ตู่ ดิจิทัล" แล้ว เพื่อไทย ยังเล่นการเมืองแบบ "กระบืออนาล็อก"
ตัณหา โมหะ หลงตัวเอง อย่างนี้แล้ว ยังมีหน้าไปพล่ามอาฆาต ผบ.ทบ. "ขอฝากไว้ก่อน โอฬาร" ประมาณนั้น
ตั้งเข็มใหม่ ไปหาเสียงเถอะ ไป๊
เอาแต่ด่ารัฐบาล-ด่านนายกฯ ไปทุกเรื่อง จนเกิดย้อนศรทางความคิดชาวบ้านแล้ว
ว่าฝ่ายที่ "ตั้งหน้า-ตั้งตา" ด่านรัฐบาล น่าจะ "เลวของจริง" กว่า ฝ่ายที่ถูกด่าแน่ๆ!
"ตู่ ดิจิทัล" คำเดียว
ทำให้ระบอบทักษิณ "ตกยุค" เป็น "ควายอนาล็อก" ทั้งโขยงวิชาการและการเมืองได้ในพริบตา
โถ..โถ..น่าสมสาน.!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |