“ประวิตร” บอก “บิ๊กแดง” แค่พูดความจริง เชื่อไม่มีรัฐประหารแล้ว แต่ก็ขึ้นกับสถานการณ์! “ผบ.ทอ.” หนุนคำพูด ผบ.ทบ. ชี้มีเหตุผล การเมืองถึงขั้นวงแตก “มาร์ค” เผยไม่ควรว่าใครเป็นต้นเหตุ แต่ควรย้อนดูตัวเอง “ภูมิธรรม” สำทับเพราะไม่รู้จักหน้าที่ตัวเอง “เสี่ยไก่” มาแรงอัดเข้าข่ายกบฏ เพราะขู่ล้มล้างรัฐธรรมนูญ “อนาคตใหม่” รีบออกตัวไม่เป็นต้นตอจลาจลแน่
เมื่อวันพฤหัสบดี ยังคงมีความสะเทือนจากการแถลงเปิดใจของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ก่อนการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกวาระพิเศษ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. โดยเฉพาะการไม่รับประกันการทำรัฐประหาร โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในเรื่องนี้ว่า ไม่มีหรอก ที่พูดหมายถึงวันข้างหน้าที่แสดงความเป็นกังวล แต่ไม่มีอะไร ถ้าเหตุการณ์สงบก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าไม่สงบก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่เชื่อว่าคงไม่มีแล้ว
เมื่อถามว่า คำพูดดังกล่าวทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการขู่ว่าจะมีรัฐประหารเกิดขึ้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ได้ขู่ แต่ ผบ.ทบ.บอกว่าถ้าสถานการณ์ไม่เรียบร้อย เกิดจลาจล ก็เท่านั้น แต่ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่มีอะไร และเชื่อว่าจะไม่กระทบกับบรรยากาศทางการเมือง ส่วนที่หลายฝ่ายแสดงความไม่เชื่อมั่นนั้น จะไม่มั่นใจอะไร สงบมา 4 ปีแล้ว ผบ.ทบ.พูดเรื่องจริง ไม่มีอะไรหรอก และในฐานะที่ดูแลความมั่นคง ก็ดูอยู่ เห็นแล้วว่าไม่มีอะไร
ถามต่อว่า หากหลังการเลือกตั้งมีผู้ไม่ยอมรับผลเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ให้เกิดก่อน ส่วนจะทำอย่างไรมันเรื่องของผม"
ด้าน พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวสนับสนุนคำพูดของ ผบ.ทบ.ว่า ท่านพูดมีเหตุผล เชื่อว่าทหารหรือทุกๆ คนเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ในรัฐบาล ประชาชนทั่วไป หรือทหาร ไม่อยากปฏิวัติอยู่แล้ว เรามีหน้าที่รักษาความสงบและเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคง ถ้าทุกคนร่วมใจกันอยู่ในกติกาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต และเชื่อว่าไม่มีใครอยากทำ ส่วนกรณีที่หากในอนาคตบ้านเมืองเกิดวิกฤติ กองทัพพร้อมเข้ามารักษาความสงบหรือไม่นั้น เหล่าทัพมีหน้าที่รักษาความสงบ ก็ต้องอยู่ตามกรอบ โดยเฉพาะการเลือกตั้ง เมื่อเกิดความไม่สงบ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลอยู่แล้ว เป็นกติกาปกติ เชื่อว่าทุกคนที่ผ่านประสบการณ์ทั้งหมดมาอยากเลือกตั้ง อยากมีรัฐบาลที่ดี และจะได้เดินหน้ากันไป เชื่อว่าคงไม่มีใครที่อยากให้เกิดความไม่สงบเกิดขึ้น
เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองโจมตี พล.อ.อภิรัชต์ว่าการจลาจลทางการเมือง ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพราะทหารสร้างสถานการณ์ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์กล่าวว่า เกินไปหรือไม่ เพราะก็ไม่ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดตรงหน้าจริงๆ ถ้ามีหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติ ซึ่งความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็ไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำ และไม่คิดว่าจะให้เกิดขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยึดมั่นและอยากให้ช่วยกัน
ถามอีกว่า กำชับกำลังพลให้วางตัวเป็นกลางต่อการเลือกตั้งนั้นอย่างไร พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์กล่าวว่า เรื่องที่ทุกคนคิดได้หมด จะพูดอย่างไรก็ได้ แต่เราก็ต้องทำ เพราะการอบรมให้ข้าราชการมีประชาธิปไตยในการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่จะต้องทำอยู่แล้ว และเราก็ส่งเสริมหน้าที่ของทหารทุกคน ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเรามีกรอบอบรมอยู่แล้ว ให้ใช้ประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ และได้สั่งการไปว่าให้ทบทวนละเอียดในเรื่องของกำลังพลของเราเอง สิทธิของพรรคต่างๆ ที่จะเข้ามาชี้แจงนโยบายให้เกิดความยุติธรรม เพราะว่าถ้าเกิดความยุติธรรมแล้ว ทหารก็ทำตามกรอบ ส่งเสริมการเลือกตั้ง และอยากให้ทุกคนไปเลือกตั้ง ยืนยันว่าเราก็เป็นกลาง
“กองทัพอากาศพร้อม 100% ที่จะให้ทุกพรรคการเมืองเข้ามาหาเสียงในหน่วย เพียงแต่จะทําอย่างไรให้เกิดความยุติธรรมและเท่าเทียมกัน ซึ่งเชื่อว่าปัญหาเรื่องการเลือกตั้งไม่ได้อยู่ที่เรา ปัญหาคือบางพรรคเท่านั้นที่อาจใช้เวลาชี้แจงนโยบายยาวนาน ซึ่งเราต้องดูว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้มันเท่าเทียมกัน และยืนยันว่าหากมีกำลังพลของกองทัพอากาศคนใดเอียงเอนไปทางพรรคการเมือง เราจะลงโทษอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาได้เน้นย้ำไปบ่อยครั้ง”
แนะทุกฝ่ายทบทวนตัวเอง
สำหรับความคิดเห็นจากซีกการเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ไม่มีใครอยากจะให้เกิดการจลาจล ซึ่งเราทุกคนต้องไม่พาประเทศกลับไปสู่จุดดังกล่าว โดยหนทางที่ดีที่สุดคือการเป็นประชาธิปไตยที่ปราศจากการทุจริต รวมทั้งเป็นประชาธิปไตยที่ตอบสนองประชาชน ซึ่งก็พยายามที่จะทำให้พรรคเป็นเส้นทางหลัก และไม่นำประเทศกลับไปสู่จุดเดิม
“การออกมาพูดเรื่องนี้เป็นเพราะ ผบ.ทบ.มองตามประวัติศาสตร์การเมืองมากกว่า ส่วนจะเป็นการปรามนักการเมืองหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ แต่คิดว่า ผบ.ทบ.คงอยากให้เห็นประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ส่วนผมในฐานะนักการเมือง เรียกร้องมาตลอดว่าอย่าทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก และไม่ควรชี้นิ้วต่อว่าใครเป็นต้นเหตุ แต่ควรย้อนดูตัวเอง” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า การออกมาให้สัมภาษณ์จะกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ที่คำพูดของ ผบ.ทบ. เพราะที่ผ่านมาต่างประเทศก็ติดตามการเมืองไทยมาพอสมควร จึงน่าจะคิดได้ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เกิดผลกระทบกับประเทศ ซึ่งการออกมาพูดครั้งนี้ ท่านพูดเพื่อชี้ให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร อย่างไร ซึ่งอยากให้ทุกคนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในอดีต มากกว่าชี้นิ้วกล่าวหากันไปมา พูดหลายครั้งแล้วว่าการทำรัฐประหารที่ผ่านๆ มาคนทำรัฐประหารก็ถูกต่อว่า ขณะเดียวกันคนที่สร้างเงื่อนไขทำให้เกิดรัฐประหารก็ต้องทบทวนตัวเองด้วย
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า เป็นการตอบคำถามของ ผบ.ทบ.ที่ไม่มีการเตรียมตัวและยังใหม่อยู่กับงานทหารและฝ่ายการเมือง คนระดับ ผบ.ทบ.ไม่ควรพูดออกมาแบบนี้ ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ควรศึกษาดูงานจาก ผบ.ทบ.คนเก่า ว่าการทำงาน วางตัวของท่านเป็นอย่างไร เพราะ ผบ.ทบ.คนเก่าเป็นคนทำงานอย่างมีระบบ และเป็นคนที่จัดการระเบียบระหว่างทหารกับฝ่ายการเมืองได้ดีมาก
“ต้องไม่ลืมว่าทุกฝ่ายต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดด้วย ไม่ใช่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็โทษแต่ฝ่ายการเมือง เพราะบางครั้งในการยึดอำนาจ นักการเมืองก็ไม่ใช่ตัวแปรอย่างเดียว ยังมีอีกหลายฝ่ายที่ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่เช่นนั้นจะมีคำว่าทหารแตงโมออกมาได้อย่างไร เรื่องนี้เป็นเพราะทหารเองก็เลือกฝักเลือกฝ่ายอาศัยอำนาจเช่นกัน จะบอกว่าทหารจะไม่ยึดอำนาจอีกก็คงไม่มีอะไรมารับประกัน เพราะทุกครั้งที่ทหารพูดแบบนี้ ก็มีการยึดอำนาจเกิดขึ้นตลอด” นายนิพิฏฐ์กล่าว
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ทุกคนสามารถแสดงออกถึงความคิดเห็นได้ และยอมรับว่าฝ่ายการเมืองมีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหา รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ไม่ทำหน้าที่ของตนเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเช่นกัน และจากที่ฟัง ผบ.ทบ.พูด ก็มองว่าทิศทางก็ไม่อยากเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ซึ่งทุกภาคส่วนมีหน้าที่ของตนเองที่ต้องรับผิดชอบ ประชาชนทุกคนต้องตัดสินใจร่วมกัน แต่ถ้าหากมีปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นในสังคมไทย ระบบกฎหมายแลระบอบประชาธิปไตยมีทางออกในการแก้ปัญหาอยู่แล้ว ส่วนตัวมองแตกต่างไปจาก ผบ.ทบ. โดยเชื่อว่าไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณพิเศษใดๆ มาถึงพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ผบ.ทบ.ก็ต้องคิดให้รอบคอบ และประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ
“วัฒนา”มาแรงซัดกบฏ
ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรค พท. โพสต์เฟซบุ๊กว่า คำให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ.แสดงให้เห็นตัวตนของผู้นำกองทัพว่าเป็นพวกอำนาจนิยมที่ทำตัวเหนือกฎหมาย เพราะเป็นขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญอันเป็นความผิดฐานเป็นกบฏ คำพูดของ ผบ.ทบ. ยังเป็นปัจจัยชั้นดีในการบ่อนทำลายบรรยากาศการลงทุน ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย เพราะการยึดอำนาจของนายทหารรุ่นพี่
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมาชิก พท. และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)กล่าวในเรื่องนี้ว่า พอมองเห็นทัศนคติ และหวังว่าจะไม่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ เพราะเป็นคนหนึ่งที่เห็นต่าง ซึ่งถ้าใครบอกว่าในประเทศประชาธิปไตยมีเงื่อนไขให้รัฐประหารได้ ไม่ว่าจะอ้างวิกฤติหรือการจลาจลใดๆ ก็ตาม โดยเฉพาะถ้าวิกฤตินั้นเกิดจากการสมคบสร้างขึ้นของคนบางกลุ่ม เพราะมองดูหลายประเทศที่เจริญพัฒนา ไม่มีใครแก้ปัญหาการเมืองด้วยการรัฐประหาร วิธีการดังกล่าวจึงไม่มีทั้งความชอบธรรม และไม่ควรมีคนชอบทำ
"เราพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่าย รวมทั้งกองทัพ เพื่อช่วยกันไม่ให้เกิดขึ้น การให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ.ถือเป็นครั้งแรกหลังดำรงตำแหน่ง จะไปสรุปว่าท่านคิดเรื่องรัฐประหารคงยังไม่ได้ ต้องติดตามการทำงานไปก่อน เวลาและสถานการณ์จะเป็นตัวอธิบายความจริงทั้งหมด" นายณัฐวุฒิกล่าว
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ยืนยันว่าไม่ต้องการเห็นสังคมที่มีการทำรัฐประหารอีก และการใช้คำโกหก หรือข่าวลวงที่ทำให้ประชาชนเกิดความเกลียดกลัวกัน เป็นข้ออ้างในการสร้างบรรยากาศไปสู่การทำรัฐประหาร ซึ่งพรรคยืนยันจะพยายามเต็มที่ไม่ให้เกิดการรัฐประหารขึ้นอีก
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ก้าวเข้าสู่การเมือง จะไม่เป็นส่วนร่วมในการทำให้เกิดการจลาจลในอนาคตตามที่ ผบ.ทบ.ระบุหรือไม่ นายธนาธรตอบว่า เรายืนยันสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต และการชุมนุมโดยสุจริต เราจะยืนยันเรื่องหลักการไม่ใช้ความรุนแรง และพรรคยืนยันว่าจะไม่สร้างวาจาแห่งความเกลียดชังให้ประชาชนเกลียดกันเอง ดังนั้นด้วยจุดยืนเหล่านี้ เราจะไปเป็นคนที่ทำให้เกิดความแตกแยกได้อย่างไร
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร กล่าวว่า ผบ.ทบ.พูดชัดเจนแบบไม่ต้องแปล เข้าใจง่าย และพี่น้องประชาชนคนไทยที่มีใจเป็นธรรมก็เข้าใจอย่างแน่นอน ต้องให้ความเป็นธรรมกับท่านด้วย อย่ามองท่านแบบมีเจตนาพิเศษ เพราะที่ผ่านมานั้น การทำรัฐประหารเกิดจากความขัดแย้งทางการเมือง ผบ.ทบ.ท่านเป็นคนรักชาติ รักประชาชน รักสถาบัน ท่านย่อมปกป้องประเทศ ประชาชน และสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต ส่วนพรรคการเมืองหรือนักการเมือง เมื่อทราบสาเหตุของการทำรัฐประหารแล้ว ก็ย่อมรู้ดีแก่ใจว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก ทุกอย่างมันมีเหตุและผลของมัน เพียงแต่อย่าหลอกตัวเองว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดเพราะตัวเองเป็นคนทำ หันมายึดประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก แล้วประเทศชาติเจริญแน่นอน
“ยังเชื่อมั่นและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย และไม่เคยเห็นด้วยกับระบบรัฐประหาร ซึ่งพี่น้องคนไทยเป็นคนฉลาด ใครจะมาจัดฉากเพื่อนำไปสู่การวางแผนทำรัฐประหาร หรือจู่ๆ ทหารบ้าอำนาจลุกขึ้นมาทำรัฐประหารนั้น ประชาชนคนไทยไม่มีใครยอมหรอก เดี๋ยวนี้ยุค 4.0แล้ว” นายธนกรกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |