นักเสี่ยงโชคในสหรัฐจะได้ลุ้นรางวัลแจ็กพอตก้อนใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของ "เมกะมิลเลียนส์" 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 29,300 ล้านบาท  วันศุกร์นี้ แต่โอกาสถูกนั้นมีไม่ถึง 1 ใน 300 ล้าน

ภาพเงินรางวัลแจ็กพอตของเมกะมิลเลียนส์อวดบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในนครชิคาโก เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 (AP Photo/Nam Y. Huh)

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2561 ว่าเงินรางวัลซึ่งคิดเป็นเงินไทยประมาณ 29,338 ล้านบาทนี้ จะเป็นรางวัลแจ็กพอตก้อนใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของลอตเตอรี่โลกสำหรับผู้ถูกรางวัลเพียงคนเดียว

    ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2559 เงินรางวัลก้อนใหญ่ที่สุดของเพาเวอร์บอล มูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์ (52,154 ล้านบาท) มีคนถูกรางวัล 3 คน จากแคลิฟอร์เนีย, ฟลอริดา และเทนเนสซี ทำให้เงินถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนละ 528.8 ล้านดอลลาร์ (17,237 ล้านบาท) ส่วนเงินรางวัลแจ็กพอตก้อนใหญ่ที่สุดที่มีผู้ถูกรางวัลเพียงคนเดียวนั้นคือเมื่อปีที่แล้ว มีมูลค่า 758.7 ล้านดอลลาร์ (24,728 ล้านบาท) ผู้โชคดีคือ มาวิส วานซิก แม่ลูก 2 วัย 53 ปี จากแมสซาชูเซตส์

    ลอตเตอรี่เมกะมิลเลียนส์นี้มีขายใน 44 มลรัฐ, กรุงวอชิงตัน และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐ สลากชนิดนี้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2545 และถูกปรับเปลี่ยนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อลดโอกาสการถูกรางวัล ซึ่งทำให้เงินรางวัลแจ็กพอตที่สะสมนั้นมีจำนวนมโหฬารขึ้น

    ผู้ที่ถูกชนิดรางวัลแจ็กพอต 6 หลักนี้ จะสามารถเลือกได้ว่าต้องการเงินรางวัลแบบแบ่งจ่ายเป็น 30 งวด ตลอด 30 ปี หรือที่เรียกกันว่าแบบรับเงินรายปี หรือจะรับแบบก้อนเดียว แต่เงินรางวัลจะลดลง ซึ่งหากมีคนถูกรางวัลในวันศุกร์ ยอดเงินรวมก็จะอยู่ที่ 513 ล้านดอลลาร์ก่อนหักภาษี แต่โอกาสของการถูกรางวัลนั้นอยู่ที่ 1 ใน 302.5 ล้าน นอกจากนี้ยังต้องไม่ลืมด้วยว่า นอกจากการโดนหักภาษีเข้ารัฐบาลกลางแล้ว บางมลรัฐก็หักภาษีจากเงินรางวัลนี้เข้ารัฐเพิ่มด้วย.