18 ต.ค.61 - นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) Facebook Live ว่า จากกรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก วาระพิเศษ เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีปฏิวัติหรือไม่? ท่านกล่าวว่า “...ผมมั่นใจว่าถ้าการเมืองไม่เป็นต้นเหตุแห่งการจลาจล ก็ไม่มีอะไร” นั่นแปลว่าถ้ามีการจลาจลเกิดขึ้นก็อาจจะเป็นเหตุของการทำรัฐประหารก็ได้
นางธิดา กล่าวว่า ตนจึงอยากถามว่าถ้าอ้างเหตุจลาจลเพื่อทำการรัฐประหาร มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ และถ้าเป็นอย่างนั้นประเทศต่าง ๆในโลกนี้เขาก็คงทำรัฐประหารกันบ่อยๆ เพราะการจลาจลมันเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ และของแต่ละประเทศนั้นมีความเสียหายอย่างมาก มีความรุนแรงขนาดที่เรียกว่ามากกว่ามาก แต่ถามว่าการทำรัฐประหารของเขามันเกิดขึ้นหรือเปล่า? ก่อนอื่นตนอยากจะขอร้องพวกเราว่าอย่าไปใช้คำว่า “ปฏิวัติ” และอยากเรียกร้องต่อสื่อมวลชนด้วยว่าอย่าไปสับสนกับคำว่า “รัฐประหาร” กับ “ปฏิวัติ” มันคนละเรื่องกัน
“การปฏิวัติ” นั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงของประชาชนส่วนล่าง ในการเปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองการปกครองของประเทศจากระบอบหนึ่งไปสู่ระบอบหนึ่ง แล้วต้องเป็นระบอบที่ก้าวหน้ากว่าเดิม ประชาชนมีอำนาจมากขึ้น แต่ “การทำรัฐประหาร” เป็นการใช้กำลังในการยึดอำนาจ นอกจากไม่ได้เปลี่ยนแปลงระบอบให้ก้าวหน้าขึ้นบางครั้งตรงกันข้าม กลับทำให้ล้าหลังด้วยซ้ำ และเป็นการยึดอำนาจโดยชนชั้นนำ
สำหรับประเทศไทยนั้นการทำรัฐประหารตั้งแต่ยุคอยุธยาจนถึงปัจจุบันนั้น ก็คือไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองการปกครองให้ก้าวหน้า เป็นการชิงอำนาจเพื่อเข้ามาสู่อยู่ในฐานะชนชั้นนำเท่านั้น
ทีนี้มาพูดถึงสิ่งที่ พล.อ.อภิรัชต์ บอกว่าถ้ามีจลาจลมันก็อาจจะเกิดรัฐประหารได้ จึงนำมาสู่อีกคำถามหนึ่ง ว่า แล้วตกลงท่านเป็นทหารอาชีพหรือทหารการเมือง? คำถามคือท่านเป็นทหารอาชีพในการเมืองระบอบอะไร ถ้าเป็นทหารอาชีพในการเมืองระบอบประชาธิปไตย...ไม่มีการทำรัฐประหาร แล้วต้องขึ้นต่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วย
นางธิดา กล่าวต่อไปว่า การทำรัฐประหารเป็นการเปลี่ยนอำนาจนำจากคนหนึ่งมาสู่คนหนึ่งในระบอบเดิมและล้าหลังกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ายังรักษาอำนาจคณะรัฐประหารอยู่นาน (แบบที่เป็นอยู่นี้) และยังพยายามจะสืบทอดอำนาจก็คือ ถ้าจะมีการเลือกตั้งก็ทำอย่างไรที่จะให้คณะที่ยึดอำนาจปัจจุบันสามารถเป็นรัฐบาลได้อีก อย่างนี้เรียกว่าการสืบทอดอำนาจ
เหตุผลของการทำรัฐประหารโดยอ้างว่ามีการจลาจล ตนคิดว่ามันก็ง่ายไป สมมุติว่าตนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้การเลือกตั้ง ก็ทำให้บ้านเมืองมันวุ่นวาย หรือในปี 2549 ก็มีกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมา ทั้งๆที่ยังไม่ได้มีอะไรวุ่นวาย แต่ในที่สุดก็ถูกอ้างเป็นเหตุผลในการยึดอำนาจ
ต่อมาในปี 2557 มันก็ยิ่งต้องทำให้ความวุ่นวายสูงขึ้น เพื่อให้เป็นเหตุผลเพียงพอเพราะรัฐบาลยุคนั้นมาจากการเลือกตั้งและรัฐบาลขณะนั้นได้ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนอยู่แล้ว ดังนั้นความรุนแรงในการขัดขวางการเลือกตั้งมันจึงเป็นความรุนแรงรอบใหม่ที่ชี้ให้เห็นว่าเป็นความรุนแรงในขั้นที่ปฏิเสธระบอบประชาธิปไตย ผู้ที่ปฏิเสธระบอบประชาธิปไตยนั่นก็คือในส่วนชนชั้นนำที่มองว่าระบอบประชาธิปไตยนำมาซึ่งรัฐบาลที่ไม่พึงประสงค์...ใช่หรือเปล่า? และการที่กองทัพไม่ขึ้นต่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง...หรือเปล่า?
“การอ้างเหตุผลว่ามันวุ่นวายนั้น...ง่ายมาก ง่ายมากที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย และ อ.ธิดา คิดว่าขณะนี้มันชัดเจนในหมู่ประชาชนไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยจากคุณนคร มาฉิม หรือทฤษฎีสมคบคิดอย่างที่หลายคนมองเห็นกันอยู่ว่าใครได้ประโยชน์จากการทำรัฐประหารบ้าง ตอนนี้ก็มีคนมาพูดกันเยอะแยะ หลายคนก็เป็นส่วนที่เคยสนับสนุนการทำรัฐประหารด้วยซ้ำ แต่เมื่อท่านรักษาอำนาจอยู่ยาวและทำท่าว่าจะอยู่ต่อในลักษณะสืบทอดอำนาจ ก็จะทำให้ฝ่ายพลเรือนซึ่งต้องการอำนาจเช่นกันก็ออกมาเปิดเผย” นางธิดา กล่าว
นางธิดา กล่าวอีกว่า แน่นอนคนที่เสียประโยชน์เมื่อมีการทำรัฐประหารชัดเจนคือประชาชน คือพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง คือนักการเมืองที่ผ่านการเลือกตั้งมา แล้วเมื่อทำรัฐประหารแล้วใครได้ประโยชน์ พรรคการเมืองที่แพ้การเลือกตั้งได้ประโยชน์หรือเปล่า ซึ่งก็หวังว่าจะได้ประโยชน์ (แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ รู้สึกว่าจะยังลำบากอยู่เหมือนกัน) แล้วคณะที่เป็นรัฐบาลซึ่งขณะนี้ท่านใส่หมวกหลายใบมาก รัฐมนตรีก็ตั้งพรรคการเมือง รัฐมนตรียังเป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ คณะกรรมการปฏิรูปอะไรต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าทางการเมืองท่านจะชนะหรือแพ้ท่านก็ยังเป็นผู้คุมพรรคการเมืองที่ได้เป็นรัฐบาล อย่างนี้เป็นต้น
“ถ้าท่านคิดว่าท่านเป็นทหารอาชีพภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ท่านทำรัฐประหารไม่ได้ ไม่ว่าจะมีจลาจลหรืออะไรก็ตาม ท่านควบคุมความสงบเรียบร้อยได้ แต่ไม่ใช่รักษาอำนาจอยู่ยาวนานตั้ง 4 ปีกว่าเช่นนี้ การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมันมีทางออกของมัน!!! นั่นคือการยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน และทหารในประเทศที่เจริญแล้ว และเป็นทหารอาชีพจริงๆ เขาไม่ทำรัฐประหารกันค่ะ ยกเว้นเป็นประเทศที่ยังไม่ศิวิไลย์ที่คิดว่าประชาชนยังโง่ และประชาชนยังไม่สมควรได้รับอำนาจในการที่จะมีส่วนสำคัญในการเมืองการปกครอง ถ้ากองทัพคิดเช่นนั้น กองทัพไทยก็จะทำรัฐประหารเรื่อยไปค่ะ” นางธิดา กล่าว
ก่อนหน้านี้นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) สามีนางธิดา โพสต์ว่า ผบ.ทบ.บอกว่า ยึดอำนาจเพราะนักการเมืองทำให้เกิดจลาจลลองย้อนดูสามเหตุการณ์ 1.49 พธม.ก่อเหตุ 2. 51-52-53เสื้อแดงก่อเหตุ 3. 57กปปส.ก่อเหตุ ล้วนเป็นจลาจลทั้งสิ้น แต่มีรปห.เฉพาะ 49 กับ 57 เท่านั้น ปี 53 ทหารในนามศอฉ.กลับลั่นกระสุนสงครามสังหารประชาชน ไม่ได้รปห.โค่นอภิสิทธิ์ "ผบ.ทบ.อธิบายหน่อยครับ ว่าทำไมปฏิบัติต่างกัน เลือกปฏบัติหรือเปล่า(ท่านก็เป็นนายทหารปฏิบัติหน้าที่ทั้งสามเหตุการณ์) ดังนั้นที่บอกว่าจลาจลแล้วจะมีรปห.สงสัยว่าเฉพาะฝั่งไทยรักไทยกับเพื่อไทยเท่านั้นใช่ไหมครับ?"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |