18 ต.ค.61 - จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าข้างตลาดสด ต.ตลาดเก่า อ.เมืองกระบี่ ซึ่งร้านค้าของชำชั้นเดียวปลูกติดกัน 6 คูหา ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองกระบี่นำรถดับเพลิง 4 คันใช้เวลาสกัดเพลิงนานกว่า 30 นาทีจึงควบคุมเพลิงได้เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.คุณิน ชุ่มจำรัส รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองกระบี่ พร้อมด้วย พนักงานสอบสวน และ จนท.พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธร จ.กระบี่ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นร้านขายของชำตั้งแต่ห้องที่ 1-3 ของนางโสภา เจริญลาภ ถัดมาอีก 2 คูหาเป็นร้านจำหน่ายแก๊สหุงต้ม ส่วนหลังสุดท้ายเป็นร้านขายของชำของนางโสภา คงเสน ทั้ง 6 คูหา เบื้องต้น พบต้นเพลิงมาจากร้านค้าห้องที่ 3 ซึ่งเป็นร้านขายของชำ โดยเบื้องต้นน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจากแผงไฟรวมของร้านค้าแถบดังกล่าว ซึ่ง จนท.จะเชิญเจ้าของตลาดมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง

พร้อมกันนี้ จนท.สนง.ประกันสังคม จ.กระบี่ นำสิ่งของมามอบให้กับผู้เสียหายเป็นการเยียวยา รวมทั้งสอบถามความเดือดร้อนในเบื้องต้น  ส่วนนายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ สั่งเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ สอบถามข้อมูลความเสียหายจากเจ้าของร้าน เพื่อรวบรวมข้อมูลหาทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป

นายกีรติศักดิ์ เผยว่า ในเบื้องต้นประเมินความเสียหายไว้ประมาณ 2-3 ล้านบาท อย่างไรก็ตามต้องรวบรวมข้อมูลทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2527 ซึ่งเคยเกิดเพลิงไหม้ใหญ่กลางเมืองกระบี่ ในส่วนของการป้องกันระวังเหตุ ทางเทศบาลเตรียมความพร้อมรับมือไว้ตลอด 24 ชม. ซึ่งในคืนเกิดเหตุถือว่า จนท.ป้องกันฯ ของเทศบาลปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็วที่สุดแล้ว สามารถระงับเหตุได้อย่างรวดเร็ว เพราะหากทำงานไม่ทันเชื่อว่าไฟจะลุกลามไปมากกว่านี้ เนื่องจากสภาพร้านค้าในตลาดสดดังกล่าว มีสภาพเป็นไม้เก่า เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

ด้านนางโสภา คงเสน หนึ่งในเจ้าของร้านที่ถูกไฟไหม้ เล่าเหตุการณทั้งน้ำตาว่า ตนเปิดร้านขายของชำอยู่ที่ตลาดสดแห่งนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว ในคืนเกิดเหตุ ขณะนอนพักอยู่ในร้าน ได้ยินเสียงปะทุดังมาจากร้านข้างๆ จึงให้น้องชายออกมาดู ก็พบว่าไฟกำลังไหม้ร้านข้างเคียง ตนและน้องช่วยกันนำน้ำมาดับไฟ แต่สกัดไม่อยู่ จึงต้องหนีเอาชีวิตรอดก่อน ความเสียหายเฉพาะร้านตนประมาณล้านบาทเศษ ปัจจุบันตนมีหนี้สินอยู่มากพอแล้ว มาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกแทบหมดตัว