แคนาดาเป็นประเทศที่ 2 ในโลกต่อจากอุรุกวัย ที่การขายและเสพกัญชาเพื่อสันทนาการกระทำได้อย่างถูกกฎหมายตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลหวังลดการขายและเสพอย่างผิดกฎหมาย

แฟ้มภาพ ผู้สนับสนุนการเสพกัญชาถูกกฎหมายถือธงชาติแคนาดาที่ใบเมเปิลกลางธง ถูกเปลี่ยนเป็นใบกัญชา ขณะร่วมชุมนุมฉลองวันกัญชาแห่งชาติ ที่กรุงออตตาวา เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2559 / AFP

    แคนาดาอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์มาตั้งแต่ปี 2544 แต่กฎหมายกัญชาซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ในเวลาเที่ยงคืนของวันพุธที่ 17 ตุลาคม 2561 จะอนุญาตให้ซื้อขายและเสพกัญชาเพื่อสันทนาการได้ ซึ่งทำให้แคนาดาเป็นประเทศขนาดใหญ่ในโลกตะวันตกชาติแรก และเป็นชาติที่ 2 ในโลกที่ออกกฎหมายอนุญาตให้เสพกัญชาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจได้

    เอเอฟพีรายงานว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับการยกย่องจากกลุ่มนักสูบกัญชาและนักลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ ที่ราคาหุ้นในตลาดโทรอนโตและนิวยอร์กเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก แต่อีกด้านนักการเมืองฝ่ายค้านและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบางส่วนก็ตั้งคำถามถึงประโยชน์ที่แท้จริง

    นายกฯ จัสติน ทรูโด ซึ่งให้คำมั่นเรื่องนี้ไว้ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งปี 2558 กล่าวว่า รัฐบาลแคนาดาไม่ได้ออกกฎหมายอนุญาตกัญชาเพราะคิดว่ากัญชาดีต่อสุขภาพ แต่ออกกฎหมายนี้เพราะรู้ว่ากัญชาไม่ดีต่อลูกหลานของเรา รัฐบาลจำเป็นต้องทำงานให้ดีขึ้นเพื่อปกป้องเด็กและเพื่อกำจัดหรือลดผลกำไรที่ตกถึงมือพวกแก๊งอาชญากรรม

    ทรูโดเคยยอมรับเมื่อปี 2556 ว่าเขาเคยสูบกัญชามาแล้ว 5 หรือ 6 ครั้ง ซึ่งรวมถึงครั้งหนึ่งที่สูบในงานสังสรรค์กับเพื่อนๆ เพื่อฉลองที่เขาได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เขากล่าวด้วยว่า มิเชลน้องชายของเขาซึ่งถูกตั้งข้อหาครอบครองกัญชาในปริมาณเล็กน้อยมากก่อนจะเสียชีวิตเพราะหิมะถล่มเมื่อปี 2541 เป็นแรงบันดาลใจให้เขาตัดสินใจออกกฎหมายนี้ แต่สำนักงานของนายกรัฐมนตรีแคนาดายืนยันกับเอเอฟพีว่าทรูโดยังไม่มีแผนจะซื้อหรือเสพกัญชา

    ผลสำเร็จหรือล้มเหลวตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ในการลดการซื้อขายอย่างผิดกฎหมาย  ประชาชนชาวแคนาดาจะเป็นผู้ตัดสินในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2562 ทรูโดกล่าวด้วยว่า หลายประเทศอาจเจริญรอยตามหากมาตรการนี้ประสบความสำเร็จ

คอกัญชาต่อแถวรอเข้าร้านขายในเมืองมอนทรีออล รัฐควิเบก ภายหลังกฎหมายกัญชามีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 / AFP

    สำนักงานสถิติแห่งชาติของแคนาดากล่าวว่า ในปี 2561 จะมีชาวแคนาดารวม 5.4 ล้านคนซื้อกัญชาจากผู้จำหน่ายถูกกฎหมาย หรือราว 15% ของประชากร สถิติระบุว่าปัจจุบันมีชาวแคนาดาสูบกัญชาอยู่ประมาณ 4.9 ล้านคน

    ตามกฎหมายฉบับใหม่นี้ ชาวแคนาดาซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 หรือ 19 ปี หรือที่รัฐควิเบกกำหนดไว้ 21 ปี จะได้รับอนุญาตให้ซื้อกัญชาได้ 30 กรัม และปลูกกัญชาเองที่บ้านได้ 4 ต้น ส่วนการขายผลิตภัณฑ์เสริมจากกัญชาเช่นของกินนั้นจะทำได้อย่างถูกกฎหมายในปีหน้า

    รัฐบาลแคนาดาทำนายไว้ด้วยว่า จะมีร้านขายปลีกของเอกชนและของรัฐ รวมถึงร้านค้าออนไลน์ ใน 13 รัฐและดินแดนมากถึง 300 ร้านภายในสิ้นปีนี้

    เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค มีผู้ปลูกกัญชาขอใบอนุญาตปลูกกัญชาแล้วนับพันราย บางรายปลูกในเรือนกระจก อุตสาหกรรมใหม่นี้กำลังดึงดูดเงินลงทุนและความสนใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตแอลกอฮอล์และน้ำอัดลม เช่น คอนสเตลเลชันแบรนด์ส และโคคา-โคลา ที่อยากจะลงทุนด้านการพัฒนาเครื่องดื่มใส่กัญชา

    สำนักงานสถิติคาดการณ์ด้วยว่า ยอดขายกัญชาจะกระตุ้นเศรษฐกิจแคนาดาได้ 1,100 ล้านดอลลาร์แคนาดา และสร้างรายได้จากภาษี 400 ล้านดอลลาร์แคนาดา

    ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขย้ำว่าการสูบกัญชาอันตรายต่อสุขภาพเช่นเดียวกับบุหรี่ แพทย์หลายคนก็เตือนด้วยความกังวลเช่นกัน ส่วนตำรวจก็กำลังเตรียมการรับมือกับพวกเสพแล้วขับที่เชื่อว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น.