18 ต.ค.61 - นายสุทิน คลังแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีตส.ส.มหาสารคาม พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการยุบพรรคจากกรณีคลิปนายทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โทรศัพท์พูดคุยกับสมาชิกพรรค และคณะแกนนำที่แถลงข่าวครบรอบ4ปี รัฐประหาร ที่ถูกมองว่าอาจเป็นประเด็นทำให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบได้ว่า ความเห็นส่วนตัว โอกาสที่จะเกิดได้มีน้อย ดูข้อหา เหตุผลยังเบามาก ไม่กี่วันก่อน กกต.บางคนบอก กรณีคลิปนายทักษิณ ไม่เข้าข่ายหรือมีมูลทำให้เชื่อได้ว่ามีการครอบงำพรรค ในเวลาต่อมา เลขากกต. ได้ไปพูดในงานเสวนางานหนึ่ง หาก3พรรคเพื่อ คือ เพื่อไทย เพื่อธรรม เพื่อชาติ เข้าข่ายถูกครอบงำ ก็อาจจะถูกยุบพรรคได้ แต่เท่าที่ตนอ่านบทสัมภาษณ์ เข้าใจว่า เลขากกต.คงพูดไปตามหลักการมากกว่า ตามความเห็นยังเชื่อว่า การยุบพรรคไม่น่าเกิดขึ้น แต่ตอนนี้ก็มีสมาชิกบางส่วน หวั่นไหว เพราะเคยมีประสบการณ์จากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนมาแล้ว จึงมีกลุ่มก้อนความคิด เสนอผ่านมายังตน ให้เสนอต่อทางพรรค เตรียมตั้งรับ

 นายสุทินกล่าวว่า เมื่อวันที่17ต.ค. ได้ทำบันทึกข้อคิดเห็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ส่งถึง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับฟังเสียงจากชาวบ้าน ที่ได้มาพูดคุยกับตน กังวลกระแสข่าวการยุบพรรคเพื่อไทยว่าอาจจะเกิดขึ้นอีกรอบ ซึ่งเขาได้มีบทเรียนมาแล้วในอดีตตั้งแต่การยุบพรรคไทยรักไทย ยุบพรรคพลังประชาชนอีก ซึ่งถือเป็นความเจ็บปวด ส่วนพรรคเพื่อไทย ถือเป็นเรื่องที่น่าหวั่นไหว จึงเสนอแนวคิด2แนวทางผ่านมายังตนคือ 

1. โนโหวต ถ้ามีการยุบพรรคเพื่อไทยจริง เขาอาจจะพร้อมใจไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เท่าที่ทราบฐานเสียงเพื่อไทยมีประมาณ 17 ล้านเสียงจากคราวที่แล้ว ตอนนี้อาจมีถึง20ล้านเสียง จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดในการเลือกตั้งครั้งหน้าโดยประมาณ 41ล้านเสียง ถ้าหาก 20ล้านเสียง พร้อมใจไม่ไปใช้สิทธิ อาจจะทำให้ผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ถึง50เปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นเช่นนั้น คงทำให้การเลือกตั้งได้รับผลกระทบแน่นอน 

2. ไปใช้สิทธิแต่จะ โหวตโน คือ ไม่ประสงค์ลงคะแนนให้ใคร หากเป็นเช่นนั้น คงจะเกิดเหตุการณ์หลายเขต ผู้สมัครถึงแม้ชนะ แต่ยังจะแพ้คะแนนโหวตโน ต่อผู้ที่ไม่ประสงค์ลงคะแนนเลือกใครอยู่ดี ทำให้ต้องมีการเลือกใหม่อีกหลายรอบ กว่าจะได้ผู้สมัครที่ชนะคะแนนโหวตโน

นายสุทิน กล่าวต่อว่า ทั้งหมดเป็นแนวความคิด แฟนคลับหรือเอฟซีของพรรค อดีตส.ส. และทางพรรคไม่รู้เรื่องด้วย เมื่อรับรู้ตรงนี้มา จึงทำบันทึกเสนอไปให้หัวหน้าพรรค และทางพรรครับทราบว่า เอฟซีเขาคิดกันอย่างนี้ แล้วทางพรรคจะตั้งรับหรือมีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งทั้ง2อย่างล้วนมีปัญหาต่อการเลือกตั้งแน่นอน นอกจากนี้ที่รู้มา แนวคิดนี้ก็แพร่กระจายไปยังหลายจังหวัดภาคอีสานแล้ว เพราะฐานเอฟซีของพรรคมีมาก เขาสื่อสารถึงกันหมด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกรณีที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด พรรคการเมือง ฝ่ายกกต. หรือฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า พูดเหมือนขู่ว่าจะมีอย่างนี้เกิดขึ้น นายสุทินกล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ถ้าจะคิดแบบนั้นก็ได้ แต่ตอนนี้ชาวบ้านเขาคิดแบบนี้จริงๆ เพราะในอดีตพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ต่างโดนมาแล้ว เป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด และยิ่งกรณีพรรคไทยรักไทย หลังยุบพรรคไปแล้ว ภายหลังก็ออกมาบอกว่า ทางพรรคไม่ผิด แต่เราได้เสียบุคลากรเปล่าๆไปแล้ว

ถามว่ากระแสตอนนี้ แพร่ไปมากหลายจังหวัดภาคอีสานหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า เท่าที่รู้ก็แรงขึ้นเรื่อยๆ อีสานเขาก็มีเครือข่ายต่อๆกัน ส่งสารกัน ถ้ารณรงค์ได้ผล ก็มองเข้าไม่ได้ ผมจึงต้องทำบันทึก ส่งให้หัวหน้าพรรครับทราบ ถึงสถานการณ์ตอนนี้

ถามอีกว่า ในกรณีโหวตโน แม้จะเลือกหลายรอบ แต่สุดท้ายก็จะได้ผู้ชนะอยู่ดี นายสุทินกล่าวว่า ก็ใช่ แต่จะเสียเวลา อาจทำให้การตั้งรัฐบาลล่าช้า และถ้าเกิด20-30เขตพร้อมกัน ก็จะเปิดสภาฯไม่ได้ เพราะการจะเปิดสภาฯได้ ต้องมีส.ส.ถึง95เปอร์เซ็นต์ จึงเปิดสภาฯเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีได้ เรื่องนี้ เอฟซีเขาก็มีสิทธิคิด เพราะเขาได้รับผลกระทบมาแล้ว2รอบ และถือเป็นวิธีอารยะ ไม่ได้ออกมาชุมนุม เดินขบวนทำให้วุ่นวาย อีกทั้งตอนนี้ อดีตส.ส.หลายคน ก็เริ่มรับรู้ ความคิดของชาวบ้านที่คิดแบบนี้แล้ว.