17 ต.ค.61 - นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ระบุในเฟซบุ๊กว่า  ปลดล็อกให้หมดเถอะครับ! มาวันนี้ เล่นกันให้เปรอะไปหมดแล้ว กลุ่มสามมิตรเดินสายไปพบประชาชนไม่หยุดไม่หย่อน ไม่ถือว่าเป็นการชุมนุมทางการเมือง ไม่เป็นกิจกรรมทางการเมือง ไม่เป็นการหาเสียง

รัฐมนตรีที่สวมหมวก หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค โฆษกพรรคไปคลองลัดมะยม นัยว่าเพื่อพบปะประชาชนไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแล้วยังประกาศตั้งสถาบันปัญญาประชารัฐนัยว่าพัฒนาความรู้ความคิดทางการเมืองของประชาชนในแนวทางประชารัฐของรัฐบาล

ประชาธิปัตย์ทำไพรมารี่เพื่อหาหัวหน้าพรรค ผู้แข่งขันทั้งสามคนเดินทางไปพบสมาชิกเพื่อบรรยายถึงคุณภาพความสามารถตนเองในการมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์นอกจากเขียนป้ายเพื่อให้เลือกเป็นหัวหน้าพรรคแล้วยังแถมด้วยนายกรัฐมนตรีประเทศไทยอีก

สุเทพ เทือกสุบรรณ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ไปร่วมงานเลี้ยงโต๊ะจีน37โต๊ะที่กระบี่นัยว่าไปพบผู้สนับสนุนรปช.เอานกหวีดมาเป่าที่ปัฐวิกรณ์นัยว่ามารับสมัครสมาชิกพรรคขึ้นหน้าเวทีบรรยายโรงเรียนการเมืองของรปช.สองสามครั้งไปร่วมงานมุทิตาจิตสันติอโศกท่ามกลางคนร่วมหลายร้อยพูดเรื่องพรรครปช.

ทั้งหมดนี้วิญญูชนใช้สามัญสำนึกพิจารณาดูก็ตอบตัวเองได้ไม่ยากว่า “เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นการ “หาเสียง”ในรูปแบบหนึ่งที่แนบเนียน”เพราะอาจจะอธิบายได้ว่าเป็นการหาสมาชิกเป็นการพบปะประชาชนเพื่อรับฟังความคิดเห็น แต่“ซ่อนอย่างไรก็ไม่มิด ปิดอย่างไรก็ยังเห็น”

รัฐบาลเองก็ “ขยันประชุมครม.สัญจรอย่างหนาแน่น”นัยว่าเพื่อรับฟังปัญหาประชาชนจะได้แก้ปัญหาอย่างตรงจุด แต่ในขณะเดียวกันก็อนุมัติงบประมาณจำนวนมหาศาลนับพันนับหมื่นล้านลงไปยังกลุ่มจังหวัดดังกล่าว บางกลุ่มจังหวัดลงไปประชุม2-3ครั้ง นอกจากนี้ก็ยังมีภาพนายกฯใกล้ชิดประชาชน มีการตะโกนขอให้เป็นนายกฯไปตลอดฯลฯ

ล่าสุดนายกฯก็ทำสิ่งที่ตนเองเคยปฏิเสธมาไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ คือการเปิดโซเชียลมีเดียเฟสเพจอินสตาแกรมฯลฯ ซึ่งฟากคสช.ทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะผิดกฎหมายใดๆแต่อีกฟากอนาคตใหม่ไปพบประชาชน พรรคเพื่อชาติเปิดประชุมพรรค พรรคเพื่อไทยแสดงความเห็นเรื่องโครงการสามสิบบาทบัตรคนจน กลับมีเสียงเตือน สำทับ จนถึงขั้นขู่ว่า จะยุบพรรค จะฟ้องร้องตามกฏหมาย

กกต.ถึงกับประกาศว่าตนไม่ใช่ “เสือกระดาษ”จะแสดงอิทธิฤทธิ์ ให้เห็นว่ามีอำนาจดำเนินการกับผู้ทำผิดกฏหมายได้จริง ด้วยเวลาที่เหลือเพียงไม่ถึง4เดือนก็จะมีการเลือกตั้ง24กุมภาพันธ์2562(ถ้าไม่มีการเลือน) ก็เป็นธรรมชาติธรรมดาของทุกพรรคการเมืองต้องลงมือทำการเพื่อให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งโดยสุจริตและเที่ยงธรรมเท่าที่จะทำได้

ที่ “ฝืนธรรมชาติที่สุด” “ประดักประเดิดที่สุด” ก็คือ คำสั่งของคสช.ที่เป็นอุปสรรคยังคงค้ำคออยู่แต่ดูจะเป็นการค้ำคอแบบเลือกข้างหรือเปล่า? ทำให้ทุกอย่างดูไม่เข้าที่เข้าทางดูยุ่งเหยิง วุ่นวายไปหมด ขยับจะทำอย่างนี้ก็ผิด ขยับจะทำอย่างนั้นก็ผิด 

สำหรับบางกลุ่มบางพรรคทำอะไรก็ดูจะโดนเตือน โดนขู่ไปหมด แต่สำหรับบางกลุ่มบางพรรคทำได้อย่างสบายใจเฉิบแบบ “ได้คืบจะเอาศอก”

ผมเสนอว่าคสช.ครับ ปลดล็อกไปเลยจะดีกว่าครับ ไม่ต้องรอเดือนธันวาคมเลยครับ”คสช.จะได้คะแนนนิยมจากประชาชนทั้งประเทศมากขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดความไม่สงบวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ “ใจจดใจจ่อมุ่งหน้าไปสู่การเลือกตั้งอย่างหิวกระหายเต็มที่อยู่แล้วครับ” ไม่มีใครคิดจะไปสร้างความวุ่นวายใดๆเพราะทุกคนรู้ว่า “การเลือกตั้งจะแก้ปัญหาทุกอย่างที่สะสมอยู่ในขณะนี้ 

ที่สำคัญที่สุดก็คือ ปัญหาเศรษฐกิจที่ทรุดหนักแสนสาหัสของประชาชนไทยทั้งมวล (ยกเว้นมหาเศรษฐีใหญ่ไม่กี่ตระกูล) จะมีโอกาสได้รับการแก้ไข ภายหลังการเลือกตั้งและได้รัฐบาลของประชาชนที่มีความสามารถเท่านั้น”