17 ต.ค.61 -  ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พรรคไทยศรีวิไลย์ ประกอบด้วย นายณัชพล สุพัฒนะ หรือมาร์ค พิทบลู ประธานชมรมคนคุณภาพ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รับชั่นของชาติ พร้อมนายอาดูล พรรณนา ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครสรรค์ปรับควันดำ พร้อมแนวร่วมประมาณ 50 คน เดินทางมาถวงถามถึงความคืบหน้ากรณียื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้กรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตำรวจภูธจจังหวัดนครสวรรค์ที่ตั่งด่านจับควันดำ ทั้งที่ไม่มีอำนาจในการตรวจจับ แต่เป็นอำนาจของกรมขนส่ง และจะใช้มาตรฐานใดในการตรวจที่ผลการตรวจของตำรวจวัดค่าได้  80/83 แต่การตรวจควันดำของสถานตรวจสภาพรถเอกชนที่ได้รับรองจากกรมขนส่งทางบก วัดค่าได้แค่ 30  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้หลังจากที่นายมาร์ค พิทบูล ได้ไลฟ์สดให้แนวร่วมที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาแสดงพลังจุดยืนเพื่อต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมให้เยอะๆ โดยวันที่โดยรอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สกายวอล์ค มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของกองกำกับการสืบสวนนครบาล 6 (กก.สส.บก.น.6) และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวันเจ้าของพื้นที่ดูแลพื้นที่อย่างเข้มงวด พร้อมปิดประตูทางเข้าออกฝั่งถนนพระราม 1 โดยให้ไปเข้าฝั่งประตูถนนอังรีดูนังส์ โดยมีการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนให้เข้า

เมื่อถึงเวลา นายมาร์ค พิทบูล พร้อมแนวร่วมเดินทางมาถึงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อที่จะเข้าไปถวงถามความคืบหน้ากรณีจับปรับลุงคัวนดำ นอกจากนั้นยังเตรียมยื่นถังสือถึง ผบ.ตร.ตรวจสอบรายได้จากการจัดเก็บค่าส่วนแบ่งค่าปรับจราจรของสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ,มีนบุรี ย้องหลัง 2 ปี ว่าเอาไปทำอะไรบ้างแบ่งให้ใคร ส่วนที่ต้องการตรวตสอบค่าปรับจราจรของ สน.ปทุมวันและมีนบุรีนั้น เนื่องจากวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา นายมาร์ค พิทบลู พร้อมแนวร่วมได้สอบถามความคืบหน้ากรณีจับปรับลุงควันดำ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกผิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะพ.ศ.2558 และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 คันรถบุกไปที่บ้านของนายมาร์ค พื้นที่ สน.มีนบุรี วันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา

แต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน รักษาราชการผู้บังคับการนครบาล 6 (รรท.ผบก.น.6) ไม่ยอมให้เข้า โดยมีการต่อรองให้เข้าเพียง 3 คน แต่นายมาร์ค ไม่ยอม เสนอเป็น  6 คน เจ้าหน้าที่จึงยอมให้เข้าไปพูดคุย ส่วนที่เหลือให้รออยู่ด้านนอก ขณะเดียวกันได้มีกลุ่มปลดแอกชาว 2 ล้อ ประมาณ 20 คน เข้ามาสมทบเรียกร้องกรณีการออกข้อบังคับห้ามไม่ให้รถ จยย.ขึ้นสะพานข้ามแยกและลงอุโมงค์ลอดแยก เป็นการออกข้อบังคับไม่เหมาะสมกับสถานการณ์จราจรในปัจจุบันและเป็นช่องว่างให้เจ้าหน้าที่บางคนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเรียกร้องผลประโยชน์  ให้พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม  

การทวงถามความคืบหน้าของกลุ่มนายมาร์ค พิทบลู ใช้เวลาประมาณ 1   ชม.จึงแล้วเสร็จก่อนจะออกมาพูดคุยกับกลุ่มแนวร่วมว่า วานนี้ ( 16 ต.ค.) ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้โทรศัพท์มาหาลุงอาดุล เพื่อเชิญไปพูดคุยที่จังวหัดนครสวรรค์ โดยให้ตนไปด้วย แต่ตนยืนยันว่ากระบวนการพูดคุยนั้นจบไปแล้ว มีการเรียกร้องสอบถามมาตลอดกลับไม่ได้คำตอบจึงไม่เดินทางไปตามคำเชิญ แต่จากการพูดคุยกับ พล.ต.ต.พัฒนา ผบก.น.6 พึ่งมารับตำแหน่งใหม่ ได้มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง เป็นอันว่าวันที่  29 ต.ค.เราจะมารับฟังคำตอบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้งว่า ตำรวจชุดตรวจจับควันดำได้รับอนุญาตจากใครในการตั้งด่าน ซึ่งปกติแล้วตำรวจสามารถตั้งด่านควันดำได้เฉพาะที่กรุงเทพฯ หรือได้รับใบมอบอำนาจจากกรมควบคุมมลพิษหรือไม่ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตตำรวจชุดดังกล่าวต้องถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน

นายมาร์ค เผยต่อว่า ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกตนคดี พ.ร.บ.ชุมนุม ซึ่งตามหมายเดิมช่วงบ่ายจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน นั้นแต่ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับหมายแต่ทราบว่าหมายออกแล้ว จึงจะยังไม่เดินทางไปในวันนี้ ส่วนกรณีที่เพจบิ๊กเสี่ยว2561 นำหมายเรียกของตนออกมาโพสต์ประจานทางเฟวบุ๊ค ที่ตนเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.อ.พรเทพ สูติปัญญา ผกก.สน.มีนบุรี นายตำรวจยศ “ร.ต.อ.” ผู้ออกหมาย และตำรวจส่งหมายของ สน.มีนบุรี ความผิดตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาตรา 157,158,164 นั้น ก็รอไปก่อนเช่นเดียวกันเพราะตนยังไม่ได้รับหมาย แต่ถ้ายังมีหมายเรียกออกมาครั้งที่  2 ก็ว่ากันใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตามวันที่ 29 ต.ค.เราจะกลับมาฟังคำตอบถ้ายังไม่เป็นที่น่าพอใจแนวร่วมประชาชนจะกลับมาทวงถามความยุติธรรมอีกครั้ง

ด้านลุงอาดูล เผยว่า เงิน 1,00 บาท ที่ถูกปรับไปนั้นยังพอหาได้ แต่ยังติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ใช้มาตรฐานอะไรกันแน่ในการตรวจจับปรับควันดำ ทั้งที่ไปตรวต ตรอ.วัดได้แค่ 30 แต่ของตำรวจกลับสูงถึง 83  ในเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกวันที่ 29 ต.ค.จะให้คำตอบก็ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ ที่ออกมาเรียกร้องไม่อยากเด่นอยากดังแต่ต้องการความยุติธรรมบ้างก็เท่านั้นเอง

ส่วนนายมงคลกิตติ์  เสนอให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยกเลิกส่วนแบ่งในการปรับคดีจราจรให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน หรือถ้าเป็นไปได้ให้จ่ายส่วนแบ่งให้กับเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวเพียงครึ่งหนึ่งของค่าแรงขั้นต่ำของคนในประเทศคือ 150 บาทเท่านั้น