16ต.ค.61- อย. แนะคุณแม่ที่ต้องการรับและบริจาคน้ำนม ควรรับและบริจาคผ่านธนาคารนมแม่ที่มีระบบฆ่าเชื้อตามมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย หากพบเด็กได้รับอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการดื่มนมแม่ที่บริจาคจะถือว่าผู้บริจาค มีความผิดทางกฎหมาย เตือนคุณแม่อย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณเพิ่มน้ำนม อย. ไม่เคยอนุญาตผลิตภัณฑ์ที่กล่าวอ้างลักษณะนี้
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ปิดเผยว่า จากกรณี ที่มีข่าวดารานักแสดงได้ประกาศบริจาคนมแม่ของตนเองและมีการถกเถียงเกี่ยวกับการบริจาคน้ำนมและ ความปลอดภัยนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงว่า การบริจาคนมแม่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการดื่มนมแม่ในเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด มีน้ำหนักตัวน้อย และทารกที่มีปัญหาการเจ็บป่วย ซึ่งแม่มีปริมาณน้ำนมไม่เพียงพอ โดยมีการบริหารจัดการในลักษณะของธนาคารนมแม่ ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารนมแม่จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารนมแม่ศิริราช และธนาคารนมแม่รามาธิบดี ดำเนินการภายใต้ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ซึ่งได้นำมาตรฐานของคลินิกนมแม่ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย มาจัดทำหลักเกณฑ์และปรับให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย สำหรับคุณแม่ที่จะบริจาคน้ำนม จำเป็นต้องได้รับการซักประวัติ และการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการว่า ไม่เจ็บป่วยหรือติดเชื้อ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพน้ำนมที่บริจาค เมื่อพบว่าผลการตรวจวิเคราะห์ผ่านมาตรฐานแล้วจึงจะจ่ายให้เด็กทารก ในโรงพยาบาลต่อไป
ทั้งนี้ การบริจาคน้ำนมแม่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อจำหน่ายจึงไม่ต้องขออนุญาตกับ อย. แต่อย่างไรก็ตาม อย. มีหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับอาหารที่ปลอดภัย หากพบมีเด็กได้รับอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการดื่มนมแม่ที่บริจาคจะถือว่าผู้บริจาคมีความผิดทางกฎหมายกรณีผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เลขาธิการ ฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า การส่งเสริมการดื่มนมแม่นั้นเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากนมแม่ เป็นอาหารที่มีประโยชน์สูง สำหรับเด็กปกติสนับสนุนให้เด็กกินนมแม่ตนเอง หากจำเป็นต้องได้รับการบริจาคนมแม่จะต้องได้รับผ่านธนาคารนมแม่ที่มีกระบวนการคัดกรองโรคและฆ่าเชื้อนมที่มีมาตรฐาน เนื่องจาก เด็กอาจมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ ส่วนคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมน้อยหรือมีปัญหาเรื่องการให้นมแม่ สามารถเข้ารับคำปรึกษาได้ที่ คลินิกนมแม่ ที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน หรือสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย ไม่ควรซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีการอวดอ้างสรรพคุณเพิ่มน้ำนมมารับประทานเองเนื่องจากสตรี มีครรภ์และแม่ที่อยู่ในช่วงการให้นมลูกถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องมีความตระหนักและระมัดระวังในการเลือกบริโภคอาหาร เนื่องจากอาหารทุกชนิดที่แม่รับประทานจะมีผลโดยตรงต่อทารกด้วย หากมีความประสงค์จะบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการบริโภค
"ขอย้ำว่า อย. ไม่เคยอนุญาตการกล่าวอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวว่า สามารถช่วยเพิ่มน้ำนมได้ หากผู้บริโภคพบเห็นอาหารที่ไม่ปลอดภัยหรือสงสัยในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานหรือความปลอดภัยของอาหาร ขอให้ร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน อย. โทร. 1556 หรือ E-mail: [email protected] หรือตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11000 หรือผ่านทาง Oryor Smart Application หรือ Line @FDAthai หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทั่วประเทศ เพื่อ อย. จะเข้าตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดต่อไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |